xs
xsm
sm
md
lg

ผู้บริหารบลจ.มองเฟดให้ยาเเรง หนุนตลาดหุ้นดีดตัวเเค่ระยะสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้บริหารบลจ.เห็นฟ้องเฟด ให้ยากระตุ้นเศรษฐกิจเเรงหลังประกาศหั่นดอกเบี้ยลง 0.75% เหลือ 0-0.25% เชื่อสร้างความคึกคักในตลาดทุนได้ในระยะสั้นเท่านั้น พร้อมทั้งเเนะจับตาดู rea lsector ที่เกิดขึ้นในปีหน้า " แอส เซท พลัส" มองกนง. อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในปีหน้า ด้าน"กัมพล" เชื่อสหรัฐฯ หันไปลงทุนในสาธารณูปโภคเเทนการลดดอกเบี้ย
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอส เซท พลัส จำกัด กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.75% เหลือ 0-0.25% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 50 ปีว่า การลดดอกเบี้ยเเรงครั้งนี้คล้ายกับการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเเน่นอนว่าเงินที่ลงทุนในตราสารหนี้จะเทย้ายกลับไปที่ตลาดทุนของสหรัฐ เรียกได้ว่าเป็นการกระตุ้นตลาดุทนอีกวิธีหนึ่ง

ในขณะเดียวกันเมื่อดอกเบี้บลงลดจะทำให้ประชาชนไปกู้เงินจากธนาคารเพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นทุนไปลงทุนในตลาดทุน เเต่เมื่อไม่นานนี้ทางสหรัฐเองมีปัญหาเรื่องการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้การปล่อยกู้ครั้งนี้เป็นไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น

"การปรับดอกเบี้ยของเฟด ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ก็ปรับตัวขึ้นตามตลาดสหรัฐ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐครั้งนี้น่าจะดีขึ้น เเต่ยังคงต้องจับตามดู rea lsector ว่าจะเป็นอย่างไร สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้นเชื่อว่าคงต้องดูทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งถือว่าปัจจัยต่างประเทศนี้เป็นส่วนสำคัญมากกว่าปัจจัยทางด้านการเมือง ดูได้จากต่างชาติเทขายสุทธิครั้งที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมาก ในส่วนของการเมืองนั้นมองว่าปัญหาคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นเเล้ว เหลือเพียงเเต่นโยบายเศรษฐกิจเเละหน้าตาของคณะรัฐมนตรีเท่านั้น" นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง.โดยส่วนตัวมองว่าอาจจะปรับลดดอกเบี้ย 0.75% เหลือ 2.0% ในขณะเดียวกันหลายคนมองว่ากนง.อาจจะปรับลดในไตรมาส 2 ซึ่งคงจะต้องติดตามว่าดอกเบี้ยจะเป็นไปในทิศทางใด หลังจากที่กนง.ได้ให้ยาเเรงลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% เหลือ 2.75% จากเดิมซึ่งอยู่ที่ 3.75%

นายกัมพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นไปตามคาดหมายของนักวิเคราะห์ทางการเงิน ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยวิธีการดังกล่าวน่าจะเป็นตัวช่วยสุดท้ายเเล้ว หลังจากนั้นสหรัฐจะหันไปลงทุนใน infrastructur หรือสาธารณูปโภคที่สำคัญ ซึ่งบารัค โอบามา เองก็มีเเผนจะปรับปรุงโรงพยาบาลของรัฐบาลใหม่ด้วยเช่นกัน

"เเม้ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐจะปรับตัวขึ้นรับข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เชื่อว่าน่าจะเป็นการปรับตัวระยะสั้นๆเท่านั้น เเต่ในเเง่การลงทุนก็ต้องรอดูเเผนการสนับสนุนอุตสหกรรมรถยนต์ใหม่อีกครั้งว่าจะผ่านรัฐสภาอีกหรือไม่ ต่อจากนี้ผมเชื่อว่าเราคงจะได้เห็นอุตสาหกรรมการผลิตที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศสหรัฐ" นายกัมพล กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยนั้นคงต้องรอดูผลกระทบจากการปรับดอกเบี้ยครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเสียก่อน ซึ่งสภาพคล่องในธนาคารของไทยนั้นถือว่ายังปกติอยู่ โดยธนาคารเองก็มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อหลังจากต้องปรับลดดอกเบี้ยเงินฝาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการประชุมในรอบนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์ในตลาดการเงินในหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาใหม่แทนการกำหนดระดับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบเดิม พร้อมกันกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาด ถึงร้อยละ 0.75-1.00 (นักวิเคราะห์คาดไว้ร้อยละ 0.50-0.75 เท่านั้น) การดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมดังกล่าว นับได้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของวัฏจักรขาลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้แล้ว เนื่องจากกรอบด้านต่ำของอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ได้แตะระดับร้อยละ 0.00 แล้วในขณะนี้ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การกำหนดกรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้แตะร้อยละ 0.00 ของเฟดนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า เฟดคงมีความตั้งใจที่จะทำให้กรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ย Fed Funds มีความสอดคล้องกับระดับอัตราดอกเบี้ย Effective Fed Funds ที่ถูกกำหนดขึ้นจริงในตลาดกู้ยืมระหว่างธนาคารพาณิชย์ ซึ่งได้ขยับเข้าใกล้ร้อยละ 0.00 ไปแล้วในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น