บลจ.ไอเอ็นจี ประกาศขยายเวลาเปิดขายหน่วยลงทุน "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็กซ์ควิสิท" ไปจนถึง 19 ธ.ค.นี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนหลังกนง.ปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 1%
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายการตลาดกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ได้ขยายเวลาในการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็กซ์ควิสิท โดยจะขยายเวลาไปจนถึง วันที่ 19 ธันวาคม 2551 นี้ ทางบลจ.ได้เเจ้งไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) เเล้ว ซึ่งช่วงนี้นักลงทุนก็ทยอยเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกันหลังจากคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็กซ์ควิสิท จะทำการลงทุนโดยการซื้อพื้นที่บางส่วนของอาคารสเตท ทาวเวอร์ซึ่งตั้งอยู่ศูนย์กลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร บนถนนสีลมตัดกับถนนเจริญกรุง มีพื้นที่โครงการประมาณ 5 ไร่ 1 งาน 53 ตารางวา และพื้นที่รวมประมาณ 330,000 ตารางเมตร (พื้นที่ใช้สอยประมาณ 190,636 ตารางเมตร)โดยปัจจุบันอาคารดังกล่าวได้จดทะเบียนเป็นอาคารชุดคอนโดมิเนียม โดยภายในอาคารมีการแบ่งพื้นที่ในการใช้ประโยชน์ในรูปแบบผสม ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่หลัก 3 ส่วนได้แก่ (ก) โรงแรม - โรงแรมเลอ บัว แอท สเตท ทาวเวอร์ (Lebua at State Tower) (ข) ห้องชุดที่พักอาศัย สเตท ทาวเวอร์ คอนโดมิเนียม และ (ค) พลาซ่า และ The Dome
นายจุมพล กล่าวอีกว่า หลังจากที่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ได้เปิดให้มีการซื้อ/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า ในช่วงระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัท มีนโยบายกำหนดเงื่อนไขการคุ้มครองเงินต้นขั้นต่ำในรอบถัดไป ให้ไม่น้อยกว่ามูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิต่อหน่วย (NAV/unit) ที่สูงสุดในช่วงที่เปิดให้มีการ ซื้อ/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า เป็นอัตราการคุ้มครองเงินต้นในรอบถัดไป ซึ่งมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิต่อหน่วยมีดังนี้ วันทำรายการ 24 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7282 บาท วันทำรายการ 25 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนจะอยู่ที่ 10.7281 บาท/หน่วยลงทุน วันทำรายการ 26 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7282 บาท วันทำรายการ 27 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7281 บาท เเละวันทำรายการ 28 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7281 บาท โดยบริษัทได้พิจารณาอัตราการคุ้มครองเงินลงทุนขั้นต่ำของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ในรอบถัดไปอยู่ที่ 10.7282 บาท
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 จะเเบ่งลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกคือส่วนคุ้มครองเงินต้น:จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 75% ซึ่งจะคัดเลือกพันธบัตรที่มีวันครบกำหนดอายุไถ่ถอนใน 5 ปี ใกล้เคียงกับการครบรอบการลงทุนในแต่ละรอบของกองทุน เงินลงทุนนี้จะเติบโตขึ้นเป็น 100% ในช่วง 5 ปี จากดอกเบี้ยสะสมของพันธบัตร จึงทำให้สามารถคุ้มครองเงินต้นได้
ในขณะที่ส่วนที่ 2 คือส่วนสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมจะลงทุนไม่เกิน 25% ในหลักทรัพย์ที่ดีมีคุณภาพและอัตราการเติบโตสูง และถ้าเกิดกำไรจากการลงทุนในส่วนนี้ (capital gain) ก็จะนำกำไรนั้นกลับมาไว้ที่ส่วนแรก เพื่อทำให้ส่วนแรกเติมเต็มครบ 100% เร็วกว่ารอบการลงทุน 5 ปีที่กล่าวไว้ข้างต้น ทำให้ระดับการคุ้มครองเงินต้นมีโอกาสสูงขึ้นเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บลจไอเอ็นจี ได้ยกเลิกการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M9 ที่เสนอขายครั้งเเรกเเละครั้งเดียวในวันที่ 1-8 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักที่บลจ.ยกเลิกการขายหน่วยลงทุนเนื่องจาก ช่วงที่บลจ.เปิดเสนอข่ายหน่วยลงทุนนั้นเป็นช่วงรอยต่อที่กนง.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1% เหลือ 2.75% จากเดิมซึ่งอยู่ที่ 3.75% โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง.ในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างมาก ทำให้ผลอตอบเเทนที่บลจ.ประมาณการณ์ไว้ปรับลดลง จากเดิมที่ให้ผลตอบแทนโดยประมาณอยู่ที่ 3.3% ต่อปี เปลี่ยนมาอยู่ที่ 2.4% ต่อปี ทางบลจ.จึงชะลอขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวไปก่อน
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายการตลาดกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ได้ขยายเวลาในการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็กซ์ควิสิท โดยจะขยายเวลาไปจนถึง วันที่ 19 ธันวาคม 2551 นี้ ทางบลจ.ได้เเจ้งไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) เเล้ว ซึ่งช่วงนี้นักลงทุนก็ทยอยเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกันหลังจากคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็กซ์ควิสิท จะทำการลงทุนโดยการซื้อพื้นที่บางส่วนของอาคารสเตท ทาวเวอร์ซึ่งตั้งอยู่ศูนย์กลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร บนถนนสีลมตัดกับถนนเจริญกรุง มีพื้นที่โครงการประมาณ 5 ไร่ 1 งาน 53 ตารางวา และพื้นที่รวมประมาณ 330,000 ตารางเมตร (พื้นที่ใช้สอยประมาณ 190,636 ตารางเมตร)โดยปัจจุบันอาคารดังกล่าวได้จดทะเบียนเป็นอาคารชุดคอนโดมิเนียม โดยภายในอาคารมีการแบ่งพื้นที่ในการใช้ประโยชน์ในรูปแบบผสม ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่หลัก 3 ส่วนได้แก่ (ก) โรงแรม - โรงแรมเลอ บัว แอท สเตท ทาวเวอร์ (Lebua at State Tower) (ข) ห้องชุดที่พักอาศัย สเตท ทาวเวอร์ คอนโดมิเนียม และ (ค) พลาซ่า และ The Dome
นายจุมพล กล่าวอีกว่า หลังจากที่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ได้เปิดให้มีการซื้อ/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า ในช่วงระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัท มีนโยบายกำหนดเงื่อนไขการคุ้มครองเงินต้นขั้นต่ำในรอบถัดไป ให้ไม่น้อยกว่ามูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิต่อหน่วย (NAV/unit) ที่สูงสุดในช่วงที่เปิดให้มีการ ซื้อ/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า เป็นอัตราการคุ้มครองเงินต้นในรอบถัดไป ซึ่งมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิต่อหน่วยมีดังนี้ วันทำรายการ 24 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7282 บาท วันทำรายการ 25 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนจะอยู่ที่ 10.7281 บาท/หน่วยลงทุน วันทำรายการ 26 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7282 บาท วันทำรายการ 27 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7281 บาท เเละวันทำรายการ 28 พฤศจิกายน 2551 มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.7281 บาท โดยบริษัทได้พิจารณาอัตราการคุ้มครองเงินลงทุนขั้นต่ำของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ในรอบถัดไปอยู่ที่ 10.7282 บาท
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 จะเเบ่งลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกคือส่วนคุ้มครองเงินต้น:จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 75% ซึ่งจะคัดเลือกพันธบัตรที่มีวันครบกำหนดอายุไถ่ถอนใน 5 ปี ใกล้เคียงกับการครบรอบการลงทุนในแต่ละรอบของกองทุน เงินลงทุนนี้จะเติบโตขึ้นเป็น 100% ในช่วง 5 ปี จากดอกเบี้ยสะสมของพันธบัตร จึงทำให้สามารถคุ้มครองเงินต้นได้
ในขณะที่ส่วนที่ 2 คือส่วนสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมจะลงทุนไม่เกิน 25% ในหลักทรัพย์ที่ดีมีคุณภาพและอัตราการเติบโตสูง และถ้าเกิดกำไรจากการลงทุนในส่วนนี้ (capital gain) ก็จะนำกำไรนั้นกลับมาไว้ที่ส่วนแรก เพื่อทำให้ส่วนแรกเติมเต็มครบ 100% เร็วกว่ารอบการลงทุน 5 ปีที่กล่าวไว้ข้างต้น ทำให้ระดับการคุ้มครองเงินต้นมีโอกาสสูงขึ้นเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บลจไอเอ็นจี ได้ยกเลิกการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M9 ที่เสนอขายครั้งเเรกเเละครั้งเดียวในวันที่ 1-8 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักที่บลจ.ยกเลิกการขายหน่วยลงทุนเนื่องจาก ช่วงที่บลจ.เปิดเสนอข่ายหน่วยลงทุนนั้นเป็นช่วงรอยต่อที่กนง.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1% เหลือ 2.75% จากเดิมซึ่งอยู่ที่ 3.75% โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง.ในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างมาก ทำให้ผลอตอบเเทนที่บลจ.ประมาณการณ์ไว้ปรับลดลง จากเดิมที่ให้ผลตอบแทนโดยประมาณอยู่ที่ 3.3% ต่อปี เปลี่ยนมาอยู่ที่ 2.4% ต่อปี ทางบลจ.จึงชะลอขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวไปก่อน