บลจ.ไทยพาณิชย์ขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรและตราสารหนี้ 12 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เปิดขายในวันที่ 8 – 15 ธ.ค.นี้ ด้าน บลจ.ยูโอบี (ไทย) ส่งกองทุนโรลโอเวอร์ 3 โครงการลุยต่อ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนเงินฝาก โดยมีอายุโครงการให้เลือกทั้งแบบ 3 เดือนและ 6 เดือน เปิดขายในวันที่ 8 – 12 ธ.ค.นี้
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรและตราสารหนี้ 12 (SCBGCORP12) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชน โดยได้เปิดขายเสนอขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 8 – 15 ธันวาคม 51 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุน SCBGCORP12 มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอันเป็นหรือเกี่ยวข้องกับตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยจะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย รวมทั้งพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ของรัฐวิสาหกิจ และ/หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 6 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 6 เดือน
เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) และจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้านราคาของตราสาร
ขณะเดียวกัน รายงานจาก บลจ.ยูโอบี (ไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบระยะการลงทุนใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 (UOBMF3) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 (UOB Protect 3M1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน และกองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 (UOB Protect 6M3) มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน โดยจะเปิดจองซื้ออีกครั้งในวันที่ 8 - 12 ธันวาคม 2551 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุน UOBMF3 จะมุ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้จะไม่ลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตราสารหนี้ ที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และหลักทรัพย์ หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ
ส่วนกองทุน UOB Protect 3M1 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝาก หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายใน หรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ, ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)
ขณะที่กองทุน UOB Protect 6M3 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุน หรือ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝากหรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายในหรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 6 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ ,ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรและตราสารหนี้ 12 (SCBGCORP12) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชน โดยได้เปิดขายเสนอขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 8 – 15 ธันวาคม 51 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุน SCBGCORP12 มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอันเป็นหรือเกี่ยวข้องกับตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยจะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย รวมทั้งพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ของรัฐวิสาหกิจ และ/หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 6 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 6 เดือน
เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) และจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้านราคาของตราสาร
ขณะเดียวกัน รายงานจาก บลจ.ยูโอบี (ไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบระยะการลงทุนใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 (UOBMF3) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 (UOB Protect 3M1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน และกองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 (UOB Protect 6M3) มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน โดยจะเปิดจองซื้ออีกครั้งในวันที่ 8 - 12 ธันวาคม 2551 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุน UOBMF3 จะมุ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้จะไม่ลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตราสารหนี้ ที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และหลักทรัพย์ หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ
ส่วนกองทุน UOB Protect 3M1 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝาก หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายใน หรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ, ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)
ขณะที่กองทุน UOB Protect 6M3 จะลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุน หรือ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชนเงินฝากหรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายในหรือใกล้เคียงกับรอบการเปิดให้ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 6 เดือน) แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ ,ตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)