บลจ.วรรณปิดไอพีโอกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทยได้ 125 ล้านบาท เตรียมนำเม็ดเงินลุยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลทันที พร้อมเปิดให้เข้าซื้อขายหน่วยลงทุนอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ระบุต้องอาศัยเวลาในการให้กองทุนได้พิสูจน์ตัวเอง และเจริญเติบโตในโอกาสต่อไป ขณะเดียวกัน แต่งตั้ง บล.เกียรตินาคินช่วยขายกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาวอีกแรง และอยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัท 2 – 3 รายเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติม
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทย (1AM-TG) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีนโนบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 17 – 25 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา พบว่าสามารถระดมทุนได้ประมาณ 125 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เนื่องจากกองทุนนี้เป็นกองทุนเปิด คงจะต้องอาศัยระยะเวลาในการให้กองทุนได้พิสูจน์ตัวเอง และเจริญเติบโตในโอกาสต่อไป
สำหรับกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นหลัก โดยมองว่าจะมั่นคงสูง เนื่องจากได้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยทั้ง 100% และมีความคล่องตัวสูง เนื่องจากสามารถเข้าออกได้ทุกวัน ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นทั้ง 2 ประการของกองทุน ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนทั่วไปเข้ามาลงทุน โดยกองทุนนี้จะเริ่มนำเงินเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยตั้งวันนี้ (27 พ.ย.) เป็นต้นไป และจะเริ่มเปิดให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหน่วยลงทุนอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
ส่วนการที่บริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน จํากัด เป็นผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว (1SMART-LTF) เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเริ่มกลายเป็นที่กล่าวขวัญมากขึ้น โดยกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในอับดับหนึ่งในส่วนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และมีลูกค้าเข้ามาสอบถามทุกที่มากขึ้น
ขณะเดียวกัน การที่บริษัทเป็นพันธมิตรกับ บลจ.เกียรตินาคินเสนอมา การที่ บล.เกียรตินาคินเข้ามาจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงลูกค้ากองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาวมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับริษัท 2 – 3 รายในการแต่งตั้งผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพิ่มเติมต่อไป โดยจะเริ่มต้นจากกองทุนหุ้นระยะยาว และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นหลัก เนื่องจากในช่วงนี้นับว่าเป็นนาทีทอง และนักลงทุนต้องการเข้าไปลงทุน และใช้สิทธิประโชยน์ทางภาษี เปรียบเสมือนผลไม้สุก หากไม่ได้รับประทาน ก็จะเน่าเสียไป
กรรมการผู้จัดการ บลจ. วรรณ กล่าวว่า นักลงทุนจำนวนมากยังไม่ทราบว่ามีกองทุนที่ป้องกันความเสี่ยง โดยสามารถลงทุนได้ แม้ว่าในขณะนี้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนสูงก็ตาม และบริษัทจ้อต้องทำงานหนักขึ้นในการให้ความรู้แก่นักลงทุนให้มากที่สุด เพื่อให้ทราบว่ากองทนุมีการป้องกันความเสี่ยงอย่างครบถ้วนที่สุดในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว โดยมีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยง และสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถป้องกันกองทุนไม่ให้ขาดทุน เงินต้นยังอยู่ครบแม้ตลาดหุ้นจะจะปรับตัวลดลงในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งคงต้องให้ บล.เกียรตินาคินเป็นกระบอกเสียงในการกระจายข่าว เพื่อให้นักลงทุนที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้ใช้สิทธินั้นอย่างคุ้มค่าด้วย
สำหรับกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทย มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท และไม่กำหนดอายุโครงการ จะเน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน มีมูลค่ารวมกันโดยเแลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต.
ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non investment grade)
อนึ่งกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทย (1AM-TG) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีนโนบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 17 – 25 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา พบว่าสามารถระดมทุนได้ประมาณ 125 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เนื่องจากกองทุนนี้เป็นกองทุนเปิด คงจะต้องอาศัยระยะเวลาในการให้กองทุนได้พิสูจน์ตัวเอง และเจริญเติบโตในโอกาสต่อไป
สำหรับกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นหลัก โดยมองว่าจะมั่นคงสูง เนื่องจากได้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยทั้ง 100% และมีความคล่องตัวสูง เนื่องจากสามารถเข้าออกได้ทุกวัน ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นทั้ง 2 ประการของกองทุน ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนทั่วไปเข้ามาลงทุน โดยกองทุนนี้จะเริ่มนำเงินเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยตั้งวันนี้ (27 พ.ย.) เป็นต้นไป และจะเริ่มเปิดให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหน่วยลงทุนอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
ส่วนการที่บริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน จํากัด เป็นผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว (1SMART-LTF) เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเริ่มกลายเป็นที่กล่าวขวัญมากขึ้น โดยกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในอับดับหนึ่งในส่วนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และมีลูกค้าเข้ามาสอบถามทุกที่มากขึ้น
ขณะเดียวกัน การที่บริษัทเป็นพันธมิตรกับ บลจ.เกียรตินาคินเสนอมา การที่ บล.เกียรตินาคินเข้ามาจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงลูกค้ากองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาวมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับริษัท 2 – 3 รายในการแต่งตั้งผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพิ่มเติมต่อไป โดยจะเริ่มต้นจากกองทุนหุ้นระยะยาว และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นหลัก เนื่องจากในช่วงนี้นับว่าเป็นนาทีทอง และนักลงทุนต้องการเข้าไปลงทุน และใช้สิทธิประโชยน์ทางภาษี เปรียบเสมือนผลไม้สุก หากไม่ได้รับประทาน ก็จะเน่าเสียไป
กรรมการผู้จัดการ บลจ. วรรณ กล่าวว่า นักลงทุนจำนวนมากยังไม่ทราบว่ามีกองทุนที่ป้องกันความเสี่ยง โดยสามารถลงทุนได้ แม้ว่าในขณะนี้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนสูงก็ตาม และบริษัทจ้อต้องทำงานหนักขึ้นในการให้ความรู้แก่นักลงทุนให้มากที่สุด เพื่อให้ทราบว่ากองทนุมีการป้องกันความเสี่ยงอย่างครบถ้วนที่สุดในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว โดยมีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยง และสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถป้องกันกองทุนไม่ให้ขาดทุน เงินต้นยังอยู่ครบแม้ตลาดหุ้นจะจะปรับตัวลดลงในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งคงต้องให้ บล.เกียรตินาคินเป็นกระบอกเสียงในการกระจายข่าว เพื่อให้นักลงทุนที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้ใช้สิทธินั้นอย่างคุ้มค่าด้วย
สำหรับกองทุนเปิดวรรณพันธบัตรไทย มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท และไม่กำหนดอายุโครงการ จะเน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน มีมูลค่ารวมกันโดยเแลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากหรือตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต.
ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non investment grade)
อนึ่งกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
