บลจ.บัวหลวง คลอดกองทุนตราสารหนี้ "บัวหลวงธนรัฐ 29/08" เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลความเสี่ยงต่ำ อายุ 4 – 6 เดือน มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท ไอพีโอ 4 – 15 ธันวาคมนี้ พร้อมจ่อคิวซีรีส์บัวหลวงธนรัฐอีก 2 กองทุน เผยเตรียมรุกตลาดแอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟ หลังมีกองทุนให้ลูกค้าเลือกครบวงจร
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด (BBLAM) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4 – 15 ธันวาคม 2551 นี้ บริษัทจะเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 29/08 (B29/08) กองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในประเทศ โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภทในซีรีย์ของกองทุนธนรัฐ ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในเมืองไทย มีอายุโครงการ 4-6 เดือน และมีมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยหรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตราสารหนี้ของสถาบันการเงิน และหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นด้วยการทำธุรกรรมการซื้อตราสารแห่งหนี้ภาครัฐกับสถาบันการเงิน โดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวตามวันที่กำหนดในสัญญา และกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ( Derivatives ) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ( Structured Note )
สำหรับกกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 29/08 เหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น และเงินส่วนนี้จะต้องอยู่ในกองทุนเป็นระยะเวลาเท่ากับอายุกองทุน โดยกองทุนกำหนดการลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
นายวศินกล่าวว่า สำหรับกองทุนรวมในซีรีส์บัวหลวงธนรัฐทุกๆ กองทุนที่บริษัทออกมา เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและกำหนดระยะเวลาการลงทุน 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งกองทุนรวมธนรัฐของเราต่างได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องมาตลอด แต่เนื่องจากความผันผวนในตลาดต่างประเทศ ทำให้บริษัทได้ชะลอการออกกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศออกไปก่อน
ทั้งนี้ หลังจากออกกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 29/08 แล้ว บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนในซีรีส์ธนรัฐเพิ่มขึ้นอีก 1 – 2 กองทุน เพื่อมาชดเชยในกองทุนที่มีกำหนดครบอายุลงไป และเพื่อมารองรับความต้องการของนักลงทุนที่ยังต้องการความเสี่ยงต่ำอีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ บริษัทเตรียมรุกตลาดกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น และจากการที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (MM-RMF) ส่งผลให้การลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภท มีรูปแบบการลงทุนที่ครบวงจร สามารถให้นักลงทุนเลือกเข้ามาลงทุนได้ตามความชอบของนักลงทุน
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนด้วยการลงทุนผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย ซึ่งนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของทางบลจ. บัวหลวงอยู่แล้ว จะได้รับสิทธิไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด (BBLAM) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4 – 15 ธันวาคม 2551 นี้ บริษัทจะเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 29/08 (B29/08) กองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในประเทศ โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภทในซีรีย์ของกองทุนธนรัฐ ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในเมืองไทย มีอายุโครงการ 4-6 เดือน และมีมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยหรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตราสารหนี้ของสถาบันการเงิน และหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นด้วยการทำธุรกรรมการซื้อตราสารแห่งหนี้ภาครัฐกับสถาบันการเงิน โดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวตามวันที่กำหนดในสัญญา และกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ( Derivatives ) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ( Structured Note )
สำหรับกกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 29/08 เหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น และเงินส่วนนี้จะต้องอยู่ในกองทุนเป็นระยะเวลาเท่ากับอายุกองทุน โดยกองทุนกำหนดการลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
นายวศินกล่าวว่า สำหรับกองทุนรวมในซีรีส์บัวหลวงธนรัฐทุกๆ กองทุนที่บริษัทออกมา เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและกำหนดระยะเวลาการลงทุน 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งกองทุนรวมธนรัฐของเราต่างได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องมาตลอด แต่เนื่องจากความผันผวนในตลาดต่างประเทศ ทำให้บริษัทได้ชะลอการออกกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศออกไปก่อน
ทั้งนี้ หลังจากออกกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 29/08 แล้ว บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนในซีรีส์ธนรัฐเพิ่มขึ้นอีก 1 – 2 กองทุน เพื่อมาชดเชยในกองทุนที่มีกำหนดครบอายุลงไป และเพื่อมารองรับความต้องการของนักลงทุนที่ยังต้องการความเสี่ยงต่ำอีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ บริษัทเตรียมรุกตลาดกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น และจากการที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (MM-RMF) ส่งผลให้การลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภท มีรูปแบบการลงทุนที่ครบวงจร สามารถให้นักลงทุนเลือกเข้ามาลงทุนได้ตามความชอบของนักลงทุน
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนด้วยการลงทุนผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย ซึ่งนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของทางบลจ. บัวหลวงอยู่แล้ว จะได้รับสิทธิไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด
