บลจ.ธนชาต เตรียมใช้สมุดบัญชีเเสดงสิทธิในหน่วยลงทุนประเดิมใช้กองทุน RMF-LTF ครั้งเเรก ลูกค้าเฮรับสมุดได้ตั้งเเต่วันที่ 2 มกราคม 51 นี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน เตรียมโรลโอเวอร์ กองทุนตราสารหนี้รอบใหม่
นายสมบัติ ลาภพิเชษ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงทำสมุดบัญชีเเสดงสิทธิในหน่วยลงทุน เเทนหนังสือรับรองสิทธิเดิม โดยจะสมุดบัญชีดังกล่าวจะใช้กับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)เเละกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ก่อน 7 กองทุนได้ เเก่ กองทุนเปิดธนชาติหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนธนชาติมิกซ์ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดธนชาติตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดธนชาติพันธบัตรเพื่อนการเลี้ยงชีพ เเละกองทุนเปิดธนาชาติตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ ส่วนกองทุน LTF ได้เเก่ กองทุนธนชาติ Big Cap หุ้นระยะยาว เเละกองทุนเปิดธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล
"ลูกค้าสามารถเข้ามารับสมุดบัญชีได้เเต่วันที่ 2 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ส่วนที่เราเริ่มใช้กับกองทุนRMF-LTF ก่อนเพราะจะใช้เป็นหลักฐานสำคัญเมื่อเวลาลูกค้าไปทำเรื่องลดหย่อนภาษี ซึ่งตัวสมุดบัญชีเองสามารถเป็นตัวเช็คเรื่องเวลาในการลงทุนว่าตรงตามเงื่อนไขของสรรพากรหรือไม่ พร้อมทั้งลูกค้าสามารถดู มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วย ขณะที่กองทุนรวมประเภทอื่นๆนั้น บลจ.กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการอยู่เช่นกัน" นายสมบัติ กล่าว
ขณะเดียวกันบลจ.อยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้อีกครั้งได้เเก่ กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น (TGOV3M3) ตั้งเเต่วันที่ 25 ธันวาคม 2551- 2 มกราคม 2552 กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3 (TGOV3) จะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งเเต่วันที่ 11-19 ธันวาคม 2551 ขณะที่กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#1 (TFIX-3M#1) เปิดขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวในวันที่ 25 ธันวาคม 2551 เเละกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#4 (TFIX-3M#4) จะเปิดขายหน่วยลงทุนในวันที่ 16-18 ธันวาคม 2551
โดยกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น จะเน้นในตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับรอบระยะเวลาที่เปิดขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) และเมื่อครบกำหนดอายุของตราสารดังกล่าว กองทุนจะได้รับเงินคืนอย่างน้อยเท่ากับมูลค่าตามราคาหน้าตั๋วของตราสารที่ได้ลงทุนนั้นทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร
ส่วนกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3 จะลงลงทุนทั้งหมดในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับรอบระยะเวลาที่เปิดให้มีการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 6 เดือน
ทางด้านกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#1 มีนโยบายลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง และหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงาน ก.ล.ตกำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ขณะที่กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#4 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคง โดยจะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพ เช่น หุ้นกู้ และหรือตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินฝาก เป็นต้น
นายสมบัติ ลาภพิเชษ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงทำสมุดบัญชีเเสดงสิทธิในหน่วยลงทุน เเทนหนังสือรับรองสิทธิเดิม โดยจะสมุดบัญชีดังกล่าวจะใช้กับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)เเละกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ก่อน 7 กองทุนได้ เเก่ กองทุนเปิดธนชาติหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนธนชาติมิกซ์ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดธนชาติตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดธนชาติพันธบัตรเพื่อนการเลี้ยงชีพ เเละกองทุนเปิดธนาชาติตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ ส่วนกองทุน LTF ได้เเก่ กองทุนธนชาติ Big Cap หุ้นระยะยาว เเละกองทุนเปิดธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล
"ลูกค้าสามารถเข้ามารับสมุดบัญชีได้เเต่วันที่ 2 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ส่วนที่เราเริ่มใช้กับกองทุนRMF-LTF ก่อนเพราะจะใช้เป็นหลักฐานสำคัญเมื่อเวลาลูกค้าไปทำเรื่องลดหย่อนภาษี ซึ่งตัวสมุดบัญชีเองสามารถเป็นตัวเช็คเรื่องเวลาในการลงทุนว่าตรงตามเงื่อนไขของสรรพากรหรือไม่ พร้อมทั้งลูกค้าสามารถดู มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วย ขณะที่กองทุนรวมประเภทอื่นๆนั้น บลจ.กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการอยู่เช่นกัน" นายสมบัติ กล่าว
ขณะเดียวกันบลจ.อยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้อีกครั้งได้เเก่ กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น (TGOV3M3) ตั้งเเต่วันที่ 25 ธันวาคม 2551- 2 มกราคม 2552 กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3 (TGOV3) จะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งเเต่วันที่ 11-19 ธันวาคม 2551 ขณะที่กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#1 (TFIX-3M#1) เปิดขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวในวันที่ 25 ธันวาคม 2551 เเละกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#4 (TFIX-3M#4) จะเปิดขายหน่วยลงทุนในวันที่ 16-18 ธันวาคม 2551
โดยกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น จะเน้นในตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับรอบระยะเวลาที่เปิดขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) และเมื่อครบกำหนดอายุของตราสารดังกล่าว กองทุนจะได้รับเงินคืนอย่างน้อยเท่ากับมูลค่าตามราคาหน้าตั๋วของตราสารที่ได้ลงทุนนั้นทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร
ส่วนกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3 จะลงลงทุนทั้งหมดในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับรอบระยะเวลาที่เปิดให้มีการซื้อขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 6 เดือน
ทางด้านกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#1 มีนโยบายลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง และหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงาน ก.ล.ตกำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ขณะที่กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน#4 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคง โดยจะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพ เช่น หุ้นกู้ และหรือตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินฝาก เป็นต้น