xs
xsm
sm
md
lg

แอสเซทพลัสเปิดขาย2กองบอนด์ เน้นตั๋วเงินคลัง-ตราสารหนี้ในประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 5 ลงทุนในตั๋วเงินคลัง และเงินฝาก คาดผลตอบแทน 2.85% และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 5 ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศผลตอบแทน 3.40% ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน เปิดเสนอขายพร้อมกันครั้งแรกวันนี้– 1 ธันวาคม 2551

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ บริษัทฯ ยังคงแนะนำให้ลูกค้าลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะกองทุนที่สามารถกำหนดระยะเวลาการลงทุนตามความเหมาะสมของสภาวะตลาดแต่ละขณะ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าในการสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในภาวะที่การลงทุนยังเป็นที่กังวลใจกับปัจจัยลบต่าง ๆ

โดยในระหว่าง วันที่ 26 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม นี้ บริษัทจะเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 5 (ASP-ACGOV5) ที่เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง และหุ้นกู้ระยะสั้นหรือเงินฝาก มีรอบระยะเวลาการลงทุนแรก ประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง รุ่น TB09204B อายุประมาณ 3 เดือน สัดส่วนไม่น้อยกว่า 80% มีผลตอบแทนอยู่ที่ 3.05% และเงินฝากธนาคารกสิกรไทย ในสัดส่วน 20% มีผลตอบแทนอยู่ที่ 3.55% ทำให้ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนนี้จะอยู่ที่ 3.15% ต่อปี และหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.30% แล้ว กองทุนดังกล่าวจะสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 2.85% ต่อปี

นอกจากนี้ในช่วงเดียวกัน บริษัทจะเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 5 (ASP-ACFIXED5) ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในประเทศ มีอายุประมาณ 3 เดือน โดยที่ผู้ออกตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุน และผลตอบแทนของตราสาร เช่น ตั๋วสัญญาใช้เงินธนาคารออมสิน (สัดส่วน 20%) มีผลตอบแทน 3.65% เงินฝากไทยธนาคาร (สัดส่วน 21%)มีผลตอบแทน 3.65%ตั๋วแลกเงินของบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (สัดส่วน 21%) มีผลตอบแทน 3.65% ตั๋วแลกเงินของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (สัดส่วน 19%) มีผลตอบแทน 3.80% และหุ้นกู้ของธนาคารกสิกรไทย (สัดส่วนการลงทุน 19% ) มีผลตอบแทนตราสาร 3.55%

ทั้งนี้ บลจ.แอสเซท พลัส คาดว่ากองทุนนี้จะมีผลตอบแทนจากตราสารที่ลงทุนอยู่ในระดับ 3.66% ต่อปี เมื่อหักค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.26% แล้วจะสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ 3.40 ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น