คอลัมน์ จับกระแสการลงทุนกับอเบอร์ดีน
โลกแห่งการเงิน...เป็นโลกที่มีความซับซ้อน แม้ในบางครั้งสถานการณ์จะดูดี แต่ความไม่แน่นอนของตลาดการเงินในปัจจุบัน อาจส่งผลให้ตกอยู่ในภาวะตลาดซบเซา ที่เรียกว่า Bear market หรือตลาดหมีได้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งความยากของตลาดหมีก็คือ กว่าที่เราจะรู้ว่าตลาดตก มันก็สายเกินกว่าที่จะขายได้ทัน โดยทั่วไปในช่วงเวลานี้...เราจึงมักเก็บเงินสดไว้กับตัวให้มากๆ เพราะกลัวว่าโลกจะล่มสลาย ทั้งที่จริงก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำก็คือ ยืนหยัดอย่างมั่นคงและเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ โดยคุณสามารถพิจารณาจากหลักแห่งการลงทุนง่ายๆ ดังต่อไปนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้
1. ความผันผวนไม่ใช่สิ่งน่ากลัว...แต่เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ
เหตุใด...เราจึงกลัวความผันผวนของตลาดหุ้น? การที่ปีกของเครื่องบินลู่ลมไปมาท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนก็เพื่อลดแรงปะทะ ความผันผวนในตลาดหุ้นก็เช่นกัน บางช่วงผันผวนมาก บางช่วงผันผวนน้อย แน่นอน...การบินท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ แต่ในบางครั้งคุณก็ไม่มีทางเลือก นอกจากนั่งนิ่งๆอยู่กับที่และภาวนาให้ถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย แต่ในโลกของการลงทุน ทุกครั้งที่เห็นการขยับขึ้นลงแม้เพียงเล็กน้อยก็แทบไม่มีสิ่งใดมาห้ามไม่ให้คุณถอนตัวจากการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออารมณ์เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคุณ ดังนั้น คุณต้องพยายามยอมรับความผันผวน เพราะหุ้นก็คงไม่ขึ้นหากปราศจากความผันผวน
2. มองการณ์ไกล…
การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น...ส่วนหนึ่งมาจากข่าวลือหรือสิ่งรบกวนที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ และอีกส่วนมาจากผลประกอบการทางธุรกิจที่มีแบบแผนและอธิบายได้ ในระยะสั้น การเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาเปรียบได้กับการคาดคะเน แต่ในระยะยาว ผลประกอบการทางธุรกิจจะเป็นสิ่งกำหนดราคา ในฐานะนักลงทุน คุณควรลงทุนหรือถือหลักทรัพย์ในระยะเวลาเดียวกันกับระยะเวลาของการประกอบธุรกิจ เช่น โรงงาน 1 แห่งให้ผลตอบแทนอย่างน้อยในระยะเวลา 10 ปี หุ้นของคุณก็เช่นกัน
3. รู้ความแตกต่าง...ระหว่างการพนันกับการลงทุน
เราทุกคนต่างชอบความสนุกสนานตื่นเต้นและนั่นเป็นข้ออ้างหนึ่งในการที่เราจะไปเที่ยวในคาสิโน แต่หากคุณใช้เหตุผลเดียวกันนี้กับการลงทุนในตลาดหุ้น คุณอาจประสบปัญหาในระยะเวลาอันรวดเร็ว การลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องยาก บ่อยครั้งดูจะเชื่องช้าและน่าเบื่อ ต้องการวินัยและการทำการบ้านอย่างหนัก ดังนั้นหากต้องการความสนุกตื่นเต้นในทันที คุณก็แค่ลุ้นให้ลูกรูเลทท์ (Roulette) กลิ้งไปบนวงล้อและหยุดในหมายเลขที่คุณพนันไว้ แต่หากต้องการผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน การเป็นเจ้าของกิจการคาสิโนย่อมมีแนวโน้มที่จะได้รับผลตอบแทนดีกว่าเข้าไปเล่นพนันเสียเอง คิดให้ดีว่าคุณต้องการจะลงทุนหรือต้องการจะเล่นพนัน
4. เลือกที่จะแตกต่าง...
คนทั่วไป...มักจะเชื่อหรือทำบางสิ่งบางอย่างเพียงเพราะว่าผู้อื่นทำ เพราะทำให้รู้สึกได้ว่าเราเหมือนคนปกติ เราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ในบางโอกาส...พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือบางทีเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่ออันตราย การรีบกรูกันไปที่ทางออกในเวลาเดียวกัน คุณเสี่ยงที่จะถูกเหยียบ พฤติกรรมในตลาดหุ้นก็เช่นกัน การซื้อขายตามผู้เล่นอื่นในตลาดเป็นสูตรตายตัวสำหรับผลตอบแทนที่จะได้เพียงน้อยนิด วอร์เรน บัฟเฟทท์ สอนไว้ว่า “จงหวั่นวิตกในยามที่คนอื่นๆ กำลังละโมบ และจงละโมบก็ต่อเมื่อคนอื่นๆ หวั่นวิตก” 1
พยายามยอมรับความผันผวน และเรียนรู้ที่จะรักมัน...เพราะหุ้นจะขึ้น ก็ต่อเมื่อมีความผันผวนเป็นปัจจัย
5. เข้าใจความแตกต่าง...ระหว่างราคาและมูลค่า
ในโลกความเป็นจริง เราพบความแตกต่างระหว่างราคากับมูลค่าอยู่เสมอ ระหว่างรถยนต์คันละ 10,000 เหรียญดอลลาร์ กับเสื้อยืดตัวละ 10,000 เหรียญดอลลาร์ รถยนต์ย่อมมีมูลค่ามากกว่าเสื้อยืดอย่างเห็นได้ชัด แต่โลกของการลงทุน เป็นเรื่องยากที่จะวิเคราะห์ถึงความต่างระหว่างสองสิ่งนี้ เพราะในกรณีของรถยนต์ เราสามารถประเมินมูลค่าได้จากการใช้งานจริง ขณะที่มูลค่าของบริษัทเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ จึงนำมาซึ่งหลักการคิดมากมายในการประเมินมูลค่า ผู้รู้ด้านการแนะนำเลือกซื้อหุ้น ฟิลิป ฟิชเชอร์ กล่าวว่า “ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยคนที่รู้ราคาของทุกสิ่ง แต่ไม่รู้มูลค่าอะไรเลย”2
6. อย่ามั่นใจจนเกินไป...เพราะตลาดอาจฉลาดกว่าคุณ
ความมั่นใจในตนเองสูง...อาจช่วยให้คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน หรือได้รับความสนใจจากผู้อื่นในไนท์คลับ แต่ในโลกของการลงทุน ความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป อาจนำคุณไปสู่ความหายนะ คุณอาจคิดว่า คุณสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดหรือหุ้นบางตัวได้ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า แต่จงจำไว้ว่า มีคนอีกเป็นล้านๆ คน ที่กำลังทำแบบเดียวกันกับคุณ ดังนั้น...จึงควรย้อนถามตัวเองว่าคุณฉลาดกว่าพวกเขาแน่หรือ จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ บิดาของวิชาเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่และนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ กล่าวไว้ว่า “การลงทุนที่ประสบความสำเร็จคือการคาดคะเนสิ่งที่คนอื่นคาดคะเนอยู่นั่นเอง”3
7. หลีกเลี่ยง...สิ่งที่คุณไม่เข้าใจ
โลกทุกวันนี้ เป็นโลกที่ทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ วิทยาการสมัยใหม่มักเข้าใจยาก การโต้เถียงกันในเรื่องที่ซับซ้อนมักทำให้เราสับสน แต่ในเรื่องของการลงทุน คุณต้องเข้าใจอย่างชัดเจนและแม่นยำในสิ่งที่คุณกำลังจะซื้อ เพื่อที่อย่างน้อย คุณจะได้สามารถหลับสนิทในเวลากลางคืน เปรียบหุ้นให้เหมือนกับการอ่านหนังสือ หากคุณอ่านมันไม่เข้าใจ ก็จงวางมันลง ปีเตอร์ ลินช์ แนะนำว่า “ถ้าคุณไม่สามารถสรุปได้ว่าทำไมคุณจึงซื้อหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้ภายใน 2-3 ประโยค นั่นอาจเป็นไปได้ว่า คุณกำลังดูข้อมูลที่มากเกินความจำเป็น”4
8. และท้ายที่สุด...
ในการแข่งขันม้าแข่ง ถ้าคุณเป็นคนที่รู้จักม้ามากกว่าคนอื่นๆ ถ้ากลับเดิมพันในม้าทุกๆ ตัว ตัวละเท่าๆ กัน คุณคงต้องเสียใจทันทีที่ม้าถูกปล่อยออกจากซอง เพราะนั่นหมายความว่าคุณไม่มีกลยุทธ์ ดังนั้น...สิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนก็คือ คุณจะต้องรู้ว่าคุณมีดีที่ตรงไหน และหากคุณมีดีล่ะก็ ต้องใช้มันให้เต็มที่ และอย่าลืมเคล็ดลับของบัฟเฟทท์ที่ว่า “การกระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุมทุกเรื่อง เป็นสิ่งจำเป็นก็ต่อเมื่อ นักลงทุนไม่รู้ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่”5
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
อ้างอิง...
1 วอร์เรน บัฟเฟทท์, สารจากประธาน (2004) สู่ผู้ถือหุ้น
2 ฟิลิป เอ. ฟิชเชอร์, Common Stocks and Uncommon Profits (1958)
3 Isms (2006), โดย Gregory Bergman
4 มอร์แกน เฮาส์เซิ่ล, Keep It Simple, Fool (2008)
5 เจมส์ อัลทูเชอร์, Trade Like Warren Buffett (2005)
โลกแห่งการเงิน...เป็นโลกที่มีความซับซ้อน แม้ในบางครั้งสถานการณ์จะดูดี แต่ความไม่แน่นอนของตลาดการเงินในปัจจุบัน อาจส่งผลให้ตกอยู่ในภาวะตลาดซบเซา ที่เรียกว่า Bear market หรือตลาดหมีได้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งความยากของตลาดหมีก็คือ กว่าที่เราจะรู้ว่าตลาดตก มันก็สายเกินกว่าที่จะขายได้ทัน โดยทั่วไปในช่วงเวลานี้...เราจึงมักเก็บเงินสดไว้กับตัวให้มากๆ เพราะกลัวว่าโลกจะล่มสลาย ทั้งที่จริงก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำก็คือ ยืนหยัดอย่างมั่นคงและเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ โดยคุณสามารถพิจารณาจากหลักแห่งการลงทุนง่ายๆ ดังต่อไปนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้
1. ความผันผวนไม่ใช่สิ่งน่ากลัว...แต่เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ
เหตุใด...เราจึงกลัวความผันผวนของตลาดหุ้น? การที่ปีกของเครื่องบินลู่ลมไปมาท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนก็เพื่อลดแรงปะทะ ความผันผวนในตลาดหุ้นก็เช่นกัน บางช่วงผันผวนมาก บางช่วงผันผวนน้อย แน่นอน...การบินท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ แต่ในบางครั้งคุณก็ไม่มีทางเลือก นอกจากนั่งนิ่งๆอยู่กับที่และภาวนาให้ถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย แต่ในโลกของการลงทุน ทุกครั้งที่เห็นการขยับขึ้นลงแม้เพียงเล็กน้อยก็แทบไม่มีสิ่งใดมาห้ามไม่ให้คุณถอนตัวจากการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออารมณ์เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคุณ ดังนั้น คุณต้องพยายามยอมรับความผันผวน เพราะหุ้นก็คงไม่ขึ้นหากปราศจากความผันผวน
2. มองการณ์ไกล…
การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น...ส่วนหนึ่งมาจากข่าวลือหรือสิ่งรบกวนที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ และอีกส่วนมาจากผลประกอบการทางธุรกิจที่มีแบบแผนและอธิบายได้ ในระยะสั้น การเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาเปรียบได้กับการคาดคะเน แต่ในระยะยาว ผลประกอบการทางธุรกิจจะเป็นสิ่งกำหนดราคา ในฐานะนักลงทุน คุณควรลงทุนหรือถือหลักทรัพย์ในระยะเวลาเดียวกันกับระยะเวลาของการประกอบธุรกิจ เช่น โรงงาน 1 แห่งให้ผลตอบแทนอย่างน้อยในระยะเวลา 10 ปี หุ้นของคุณก็เช่นกัน
3. รู้ความแตกต่าง...ระหว่างการพนันกับการลงทุน
เราทุกคนต่างชอบความสนุกสนานตื่นเต้นและนั่นเป็นข้ออ้างหนึ่งในการที่เราจะไปเที่ยวในคาสิโน แต่หากคุณใช้เหตุผลเดียวกันนี้กับการลงทุนในตลาดหุ้น คุณอาจประสบปัญหาในระยะเวลาอันรวดเร็ว การลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องยาก บ่อยครั้งดูจะเชื่องช้าและน่าเบื่อ ต้องการวินัยและการทำการบ้านอย่างหนัก ดังนั้นหากต้องการความสนุกตื่นเต้นในทันที คุณก็แค่ลุ้นให้ลูกรูเลทท์ (Roulette) กลิ้งไปบนวงล้อและหยุดในหมายเลขที่คุณพนันไว้ แต่หากต้องการผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน การเป็นเจ้าของกิจการคาสิโนย่อมมีแนวโน้มที่จะได้รับผลตอบแทนดีกว่าเข้าไปเล่นพนันเสียเอง คิดให้ดีว่าคุณต้องการจะลงทุนหรือต้องการจะเล่นพนัน
4. เลือกที่จะแตกต่าง...
คนทั่วไป...มักจะเชื่อหรือทำบางสิ่งบางอย่างเพียงเพราะว่าผู้อื่นทำ เพราะทำให้รู้สึกได้ว่าเราเหมือนคนปกติ เราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ในบางโอกาส...พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือบางทีเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่ออันตราย การรีบกรูกันไปที่ทางออกในเวลาเดียวกัน คุณเสี่ยงที่จะถูกเหยียบ พฤติกรรมในตลาดหุ้นก็เช่นกัน การซื้อขายตามผู้เล่นอื่นในตลาดเป็นสูตรตายตัวสำหรับผลตอบแทนที่จะได้เพียงน้อยนิด วอร์เรน บัฟเฟทท์ สอนไว้ว่า “จงหวั่นวิตกในยามที่คนอื่นๆ กำลังละโมบ และจงละโมบก็ต่อเมื่อคนอื่นๆ หวั่นวิตก” 1
พยายามยอมรับความผันผวน และเรียนรู้ที่จะรักมัน...เพราะหุ้นจะขึ้น ก็ต่อเมื่อมีความผันผวนเป็นปัจจัย
5. เข้าใจความแตกต่าง...ระหว่างราคาและมูลค่า
ในโลกความเป็นจริง เราพบความแตกต่างระหว่างราคากับมูลค่าอยู่เสมอ ระหว่างรถยนต์คันละ 10,000 เหรียญดอลลาร์ กับเสื้อยืดตัวละ 10,000 เหรียญดอลลาร์ รถยนต์ย่อมมีมูลค่ามากกว่าเสื้อยืดอย่างเห็นได้ชัด แต่โลกของการลงทุน เป็นเรื่องยากที่จะวิเคราะห์ถึงความต่างระหว่างสองสิ่งนี้ เพราะในกรณีของรถยนต์ เราสามารถประเมินมูลค่าได้จากการใช้งานจริง ขณะที่มูลค่าของบริษัทเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ จึงนำมาซึ่งหลักการคิดมากมายในการประเมินมูลค่า ผู้รู้ด้านการแนะนำเลือกซื้อหุ้น ฟิลิป ฟิชเชอร์ กล่าวว่า “ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยคนที่รู้ราคาของทุกสิ่ง แต่ไม่รู้มูลค่าอะไรเลย”2
6. อย่ามั่นใจจนเกินไป...เพราะตลาดอาจฉลาดกว่าคุณ
ความมั่นใจในตนเองสูง...อาจช่วยให้คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน หรือได้รับความสนใจจากผู้อื่นในไนท์คลับ แต่ในโลกของการลงทุน ความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป อาจนำคุณไปสู่ความหายนะ คุณอาจคิดว่า คุณสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดหรือหุ้นบางตัวได้ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า แต่จงจำไว้ว่า มีคนอีกเป็นล้านๆ คน ที่กำลังทำแบบเดียวกันกับคุณ ดังนั้น...จึงควรย้อนถามตัวเองว่าคุณฉลาดกว่าพวกเขาแน่หรือ จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ บิดาของวิชาเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่และนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ กล่าวไว้ว่า “การลงทุนที่ประสบความสำเร็จคือการคาดคะเนสิ่งที่คนอื่นคาดคะเนอยู่นั่นเอง”3
7. หลีกเลี่ยง...สิ่งที่คุณไม่เข้าใจ
โลกทุกวันนี้ เป็นโลกที่ทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ วิทยาการสมัยใหม่มักเข้าใจยาก การโต้เถียงกันในเรื่องที่ซับซ้อนมักทำให้เราสับสน แต่ในเรื่องของการลงทุน คุณต้องเข้าใจอย่างชัดเจนและแม่นยำในสิ่งที่คุณกำลังจะซื้อ เพื่อที่อย่างน้อย คุณจะได้สามารถหลับสนิทในเวลากลางคืน เปรียบหุ้นให้เหมือนกับการอ่านหนังสือ หากคุณอ่านมันไม่เข้าใจ ก็จงวางมันลง ปีเตอร์ ลินช์ แนะนำว่า “ถ้าคุณไม่สามารถสรุปได้ว่าทำไมคุณจึงซื้อหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้ภายใน 2-3 ประโยค นั่นอาจเป็นไปได้ว่า คุณกำลังดูข้อมูลที่มากเกินความจำเป็น”4
8. และท้ายที่สุด...
ในการแข่งขันม้าแข่ง ถ้าคุณเป็นคนที่รู้จักม้ามากกว่าคนอื่นๆ ถ้ากลับเดิมพันในม้าทุกๆ ตัว ตัวละเท่าๆ กัน คุณคงต้องเสียใจทันทีที่ม้าถูกปล่อยออกจากซอง เพราะนั่นหมายความว่าคุณไม่มีกลยุทธ์ ดังนั้น...สิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนก็คือ คุณจะต้องรู้ว่าคุณมีดีที่ตรงไหน และหากคุณมีดีล่ะก็ ต้องใช้มันให้เต็มที่ และอย่าลืมเคล็ดลับของบัฟเฟทท์ที่ว่า “การกระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุมทุกเรื่อง เป็นสิ่งจำเป็นก็ต่อเมื่อ นักลงทุนไม่รู้ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่”5
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
อ้างอิง...
1 วอร์เรน บัฟเฟทท์, สารจากประธาน (2004) สู่ผู้ถือหุ้น
2 ฟิลิป เอ. ฟิชเชอร์, Common Stocks and Uncommon Profits (1958)
3 Isms (2006), โดย Gregory Bergman
4 มอร์แกน เฮาส์เซิ่ล, Keep It Simple, Fool (2008)
5 เจมส์ อัลทูเชอร์, Trade Like Warren Buffett (2005)