บลจ.กสิกรไทย ส่งกองอสังหาฯ "CTARAF”เข้าเทรดประเดิมเปิดตลาดราคาร่วงเล็กน้อย "สุทธิเกียรติ"ชี้การเมืองไม่กระทบยอดเข้าพักในโรงแรม เล็งเพิ่มขนาดกองทุนถึง 10,000 ล้านบาทใน 2-3 ปี ด้านผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.กสิกรไทย ระบุการเข้าซื้อขายในตลาดฯ ขณะนี้ถือเป็นช่วงที่ดี แม้สถาการณ์ไม่เอื้ออำนวย
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วานนี้(13 ต.ค.51) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ท ในเครือเซนทาราได้เข้าจดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายเป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ภายใต้ชื่อ (CTARAF) ซึ่งจัดอยู่ในหมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวได้เปิดรับจองซื้อหน่วยลงทุนแก่ประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 8-18 กันยายน 2551 และได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุนจดทะเบียน 3,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นหน่วยลงทุน 320 ล้านหน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด เป็นบริษัทจัดการ
สำหรับหลักทรัพย์ "CTARAF”จะเป็นกองทุนที่ไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ และลักษณะโครงการเป็นแบบระบุเฉพาะเจาะจง โดยกองทุนจัดหาประโยชน์จากเงินลงทุนในสิทธิการเช่าโครงการโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช สอร์ สมุย โรงแรมระดับ 5 ดาว ภายใต้การบริหารงานของบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) รวมถึงมีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนมีกำไรสุทธิในแต่ละงวดบัญชีประจำปี ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิประจำปี
นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)หรือ CENTEL กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงแรมเซ็นทารามากนัก โดยในช่วง 2 ปี จากนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่ 12 แห่ง ซึ่งเปิดในปีหน้า 5 แห่ง และบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มขนาดกองทุน CTARAF ในอีก 2-3 ปี เป็นมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยกำลังศึกษาที่จะนำโรงแรมที่ภูเก็ต และกระบี่ขายเข้าหน่วยกองทุน แต่จะเป็นโรงแรมอะไรนั้นอยู่ระหว่างการศึกษา
"จากปัญหาทางด้านการเมืองนั้นบริษัทไม่กระทบมากนักซึ่งคาดว่าในสิ้นปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยทางด้านโรงแรมเซ็นทารานั้นยังมียอดจองที่ดี โดยลูกค้าที่จองในการจัดประชุมใหญ่ๆก็ไม่ได้มีการยกเลิก"นายสุทธิเกียรติกล่าว
ด้าน นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงทุนในกองทุนนี้ ด้วยการเข้าถือหน่วยลงมูลค่า 800,001,000 บาท หรือคิดเป็น 80,000,100 หน่วย ในสัดส่วน 25% ของหน่วยลงทุน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 33% เนื่องจากยอดจองซื้อที่เกินเป้าที่ตั้งไว้ รวมถึงในอนาคตมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายเดิมที่ 33 % ของหน่วยลงทุน
ราคาร่วงก่อนปรับตัวขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าจดทะเบียนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) วันแรก โดยเปิดตลาดที่ระดับ 9.95 บาท ลดลง 0.05บาท หรือลดลง 0.5% จากราคาจองที่ 10 บาทต่อหน่วย หลังจากนั้นราคาก็ค่อยๆปรับตัวลดลง ซึ่งกลับมาปิดที่ระดับ 9.50 บาท ลดลง 0.5 บาท หรือลดลงต่ำกว่ามูลค่าหน่วยลงทุน โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 3000 ล้านบาท
ด้าน นายสุรศักดิ์ ดุษฏีเมธา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF)กล่าวว่า การที่บริษัทตัดสินใจนำกองทุนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงนี้ แม้ภาวะตลาดไม่เอื้อจากปัญหาการเมือง และปัจจัยต่างประเทศนั้น เนื่องจาก มั่นใจในด้านสินทรัพย์ของ CTARAF ที่ให้ผลอตอบแทนเฉลี่ย 4 ปีแรกในอัตรา 9%ต่อปี และเชื่อว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่มีอนาคตในการขยายการเติบโตที่ดี
นอกจากนี้ หากบริษัททำการเลื่อนการเข้าจดทะเบียนเหมือนกับบริษัทอื่นที่ผ่านมา เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนนั้น บริษัทไม่แน่ใจว่าปัญหาจะคลี่คลายเมื่อไร หรือหากปัญหาคลี่คลายแล้วจะทำให้มีบริษัทกระจุกตัวในการเข้าจดทะเบียนหรือไม่ ส่วนการที่ราคาหุ้นเปิดมาปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองที่ 10 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่รับได้จากภายใต้สถานการณ์ขณะนี้ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในและต่างประเทศ
“การเข้าจดทะเบียนของกองทุน CTARAF นั้นถือว่าเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองแรกที่เป็นโรงแรมแห่งแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และที่บริษัทตัดสินใจเดินหน้าในการนำกองทุนเข้าจดทะเบียนนั้นจากมั่นใจในสินทรัพย์ของบริษัท และกองทุนนี้มีการการรันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ 4 ปี เฉลี่ยให้ผลตอบแทน 9% ” นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายอโศก วงศ์ชะอุม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) กล่าวว่า แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย แต่ยอดจองซื้อในเดือนกันยายนสูงเกินคาด ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภตที่ต่อศักยภาพในการบริหารโรงแรมและรีสอร์ทของบริษัทโรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน)
“การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของกองทุนฯ ในครั้งนี้ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายกองทุนในตลาดรอง และการตอบสนองความต้องการของผู้ร่วมลงทุน ปัจจุบันกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในประเทศไทยมีน้อยเพียง 20-25% เทียบกับต่างประเทศที่มีอยู่ 60-70 % และยังไม่มีความคิดที่จะขยายวงเงิน เนื่องจากวงเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เต็มจำนวน” นายอโศก กล่าว
