นรวีร์ วงศ์สมมาตร
บลจ.บัวหลวง จำกัด
หลายๆ ท่านคงเคยได้ยินว่าการลงทุนในหุ้นให้ได้กำไรคราวละมากๆ ต้องลงทุนในช่วงที่หุ้นนั้นมีราคาถูกที่สุดและขายในช่วงที่แพงที่สุด ฟังๆ ดูแล้วไม่น่ายาก แต่ในทางปฏิบัติคงไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างถูกต้องแม่นยำได้ว่าราคาหุ้นที่ถูกสุดอยู่ที่ราคาไหน ไม่ว่าใครคนนั้นจะศึกษาราคาหุ้นทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคมาอย่างช่ำชองก็ตาม และยิ่งสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะที่ไม่เป็นปกติเช่นนี้ยากที่จะจับจังหวะการลงทุนได้อย่างถูกต้อง ทำให้มีโอกาสที่จะขาดทุนสูงมาก
ถึงแม้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่อาจถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักลงทุนหลายท่านได้ใช้เวลานี้พักการลงทุนชั่วคราวเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และทำการประเมินผลการลงทุนที่ผ่านมาว่าได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ หากมีการคลาดเคลื่อนไปจากแผนการลงทุนที่ได้กำหนดไว้ก็จะได้ปรับปรุงแผนการลงทุนให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ตามระยะเวลาที่วางไว้
การจัดสรรสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อการลงทุนนั้นเมื่อเวลาผ่านหรือสภาวะเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปย่อมมีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน โดยอาจส่งผลให้น้ำหนักในการลงทุนของสินทรัพย์แต่ละประเภทเปลี่ยนแปลงไปด้วย จึงอยากให้ถือโอกาสนี้ทำการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนในทรัพย์สินแต่ละประเภทที่เปลี่ยนแปลงไปให้กลับเข้าสู่รูปแบบการลงทุนและเป็นไปตามวัตถุประสงค์การลงทุนตลอดจนสอดคล้องกับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงที่ได้กำหนดไว้แต่แรก
ภายหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงแผนการลงทุนให้เป็นปัจจุบันเรียบร้อย นักลงทุนหลายท่านอาจจะมีคำถามต่อไปอีกว่ามีวิธีการหรือเครื่องมืออะไรที่จะช่วยลดความผันผวนหรือลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้บ้าง เนื่องจากมองว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันได้ปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับต้นปีทำให้อยากลงทุนเพิ่ม แต่มีความกังวลว่าหุ้นที่จะซื้อราคาจะลงไปอีก เกรงว่าอาจลงทุนผิดจังหวะ
ขอแนะนำวิธีการง่ายๆ ที่เป็นการลดความเสี่ยงนี้ได้และเหมาะสมกับนักลงทุนระยะปานกลางถึงยาว นั่นคือวิธี Dollar Cost Averaging (DCA) ซึ่งเป็นการเฉลี่ยต้นทุนวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในในแต่ละเดือนอย่างสม่ำเสมอ อาทิเช่น ท่านลงทุนซื้อหุ้นสามัญ A ทุกวันที่1 ของทุกเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 12 เดือน ดังนั้น จะมีบางเดือนที่ท่านซื้อหุ้นได้ในราคาสูง และได้จำนวนหุ้นน้อย พอเดือนถัดมาก ตลาดหุ้นลดต่ำลง ท่านซื้อหุ้นได้ในราคาถูกลง และได้จำนวนหุ้นมากกว่าเดือนก่อน หรือในบางเดือนที่ตลาดหุ้นสูงขึ้น ท่านก็จะซื้อหุ้นได้จำนวนน้อยลง ซึ่งเมื่อท่านเข้าลงทุนโดยการเฉลี่ยต้นทุนได้ครบ 12 เดือน ท่านอาจจะได้พอร์ตการลงทุนที่มีต้นทุนเฉลี่ยในรอบนั้นๆ
การลงทุนด้วยวิธีการนี้จะทำให้ต้นทุนในการออมมีการถัวเฉลี่ยกระจายออกไปในช่วงเวลาต่างๆกัน ตลอดทั้งปี ไม่กระจุกการลงทุนในช่วงใดช่วงหนึ่ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนผิดจังหวะ อีกทั้งยังเป็นการลดภาระที่จะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ตลอดจนเป็นการสร้างวินัยการลงทุนอีกด้วย
ข้อควรระวังสำหรับการลงทุน DCA คือ นักลงทุนบางท่านหยุดการซื้อ และอาจจะขายออก เพราะเห็นราคาลดลงอย่างรวดเร็วทำให้พลาดโอกาสซื้อในราคาถูกจำนวน มากๆ ทั้งนี้ควรจะพิจารณาว่าเป็นเรื่องอะไร ถ้าเป็นความเสี่ยงของตลาดฯ ที่ทำให้กระทบราคา ก็ไม่ต้องกังวล วิธีการ DCA สามารถนำไปปรับใช้ได้กับการลงทุนในหุ้น กองทุนรวมประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้หรือตราสารทุน แม้กระทั้งการลงทุนในทองคำก็สามารถใช้ DCA ได้ ยิ่งราคาผันผวนมาก การลงทุน DCA ยิ่งมีประโยชน์มาก
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านลงทุนอย่าง “มีสติ” คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ใช้เหตุผลในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนตลอดจน ไม่กู้หนี้ยืมสินมาลงทุนเกินพอดี ไม่โลภ และไม่เสี่ยงมากเกินไป และถ้าเป็นไปได้สำหรับท่านที่ถือศีลทานเจช่วงนี้ขอให้อานิสงค์ผลบุญส่งให้ รวย รวย กันถ้วนหน้านะครับ
บลจ.บัวหลวง จำกัด
หลายๆ ท่านคงเคยได้ยินว่าการลงทุนในหุ้นให้ได้กำไรคราวละมากๆ ต้องลงทุนในช่วงที่หุ้นนั้นมีราคาถูกที่สุดและขายในช่วงที่แพงที่สุด ฟังๆ ดูแล้วไม่น่ายาก แต่ในทางปฏิบัติคงไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างถูกต้องแม่นยำได้ว่าราคาหุ้นที่ถูกสุดอยู่ที่ราคาไหน ไม่ว่าใครคนนั้นจะศึกษาราคาหุ้นทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคมาอย่างช่ำชองก็ตาม และยิ่งสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะที่ไม่เป็นปกติเช่นนี้ยากที่จะจับจังหวะการลงทุนได้อย่างถูกต้อง ทำให้มีโอกาสที่จะขาดทุนสูงมาก
ถึงแม้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่อาจถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักลงทุนหลายท่านได้ใช้เวลานี้พักการลงทุนชั่วคราวเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และทำการประเมินผลการลงทุนที่ผ่านมาว่าได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ หากมีการคลาดเคลื่อนไปจากแผนการลงทุนที่ได้กำหนดไว้ก็จะได้ปรับปรุงแผนการลงทุนให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ตามระยะเวลาที่วางไว้
การจัดสรรสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อการลงทุนนั้นเมื่อเวลาผ่านหรือสภาวะเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปย่อมมีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน โดยอาจส่งผลให้น้ำหนักในการลงทุนของสินทรัพย์แต่ละประเภทเปลี่ยนแปลงไปด้วย จึงอยากให้ถือโอกาสนี้ทำการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนในทรัพย์สินแต่ละประเภทที่เปลี่ยนแปลงไปให้กลับเข้าสู่รูปแบบการลงทุนและเป็นไปตามวัตถุประสงค์การลงทุนตลอดจนสอดคล้องกับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงที่ได้กำหนดไว้แต่แรก
ภายหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงแผนการลงทุนให้เป็นปัจจุบันเรียบร้อย นักลงทุนหลายท่านอาจจะมีคำถามต่อไปอีกว่ามีวิธีการหรือเครื่องมืออะไรที่จะช่วยลดความผันผวนหรือลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้บ้าง เนื่องจากมองว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันได้ปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับต้นปีทำให้อยากลงทุนเพิ่ม แต่มีความกังวลว่าหุ้นที่จะซื้อราคาจะลงไปอีก เกรงว่าอาจลงทุนผิดจังหวะ
ขอแนะนำวิธีการง่ายๆ ที่เป็นการลดความเสี่ยงนี้ได้และเหมาะสมกับนักลงทุนระยะปานกลางถึงยาว นั่นคือวิธี Dollar Cost Averaging (DCA) ซึ่งเป็นการเฉลี่ยต้นทุนวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในในแต่ละเดือนอย่างสม่ำเสมอ อาทิเช่น ท่านลงทุนซื้อหุ้นสามัญ A ทุกวันที่1 ของทุกเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 12 เดือน ดังนั้น จะมีบางเดือนที่ท่านซื้อหุ้นได้ในราคาสูง และได้จำนวนหุ้นน้อย พอเดือนถัดมาก ตลาดหุ้นลดต่ำลง ท่านซื้อหุ้นได้ในราคาถูกลง และได้จำนวนหุ้นมากกว่าเดือนก่อน หรือในบางเดือนที่ตลาดหุ้นสูงขึ้น ท่านก็จะซื้อหุ้นได้จำนวนน้อยลง ซึ่งเมื่อท่านเข้าลงทุนโดยการเฉลี่ยต้นทุนได้ครบ 12 เดือน ท่านอาจจะได้พอร์ตการลงทุนที่มีต้นทุนเฉลี่ยในรอบนั้นๆ
การลงทุนด้วยวิธีการนี้จะทำให้ต้นทุนในการออมมีการถัวเฉลี่ยกระจายออกไปในช่วงเวลาต่างๆกัน ตลอดทั้งปี ไม่กระจุกการลงทุนในช่วงใดช่วงหนึ่ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนผิดจังหวะ อีกทั้งยังเป็นการลดภาระที่จะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ตลอดจนเป็นการสร้างวินัยการลงทุนอีกด้วย
ข้อควรระวังสำหรับการลงทุน DCA คือ นักลงทุนบางท่านหยุดการซื้อ และอาจจะขายออก เพราะเห็นราคาลดลงอย่างรวดเร็วทำให้พลาดโอกาสซื้อในราคาถูกจำนวน มากๆ ทั้งนี้ควรจะพิจารณาว่าเป็นเรื่องอะไร ถ้าเป็นความเสี่ยงของตลาดฯ ที่ทำให้กระทบราคา ก็ไม่ต้องกังวล วิธีการ DCA สามารถนำไปปรับใช้ได้กับการลงทุนในหุ้น กองทุนรวมประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้หรือตราสารทุน แม้กระทั้งการลงทุนในทองคำก็สามารถใช้ DCA ได้ ยิ่งราคาผันผวนมาก การลงทุน DCA ยิ่งมีประโยชน์มาก
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านลงทุนอย่าง “มีสติ” คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ใช้เหตุผลในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนตลอดจน ไม่กู้หนี้ยืมสินมาลงทุนเกินพอดี ไม่โลภ และไม่เสี่ยงมากเกินไป และถ้าเป็นไปได้สำหรับท่านที่ถือศีลทานเจช่วงนี้ขอให้อานิสงค์ผลบุญส่งให้ รวย รวย กันถ้วนหน้านะครับ