บลจ.ทิสโก้ ปรับเป้ากองทาร์เก็ตฟันด์"เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 15%" เหลือ 10% เตรียมเปิดขายไอพีโอครั้งแรก 13-21 ตุลาคมนี้ มั่นใจหุ้นไทยดีตัวกลับในระยะ 6 เดือน และจะทำกำไรได้เร็วขึ้นจากนโยบายดังกล่าว
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทมีแผนที่จะทำการเปิดขายกองทุนใหม่ได้แก่"กองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 15%"ในช่วงที่ผ่านมานั้น ทางบริษัทคิดว่าในระยะ นี้ตลาดหุ้นยังมีการแกว่งตัวค่อนข้างมาก และยังเชื่อว่าโอกาสที่หุ้นจะ รีบาวนด์ (ดีดกลับ) ในช่วง 10-15% นั้นมีสูง ดังนั้นการปรับเปลี่ยนเป้าหมายผลตอบแทนจากเดิม 15% เป็น 10% จึงน่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กองทุนดังกล่าวได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายเร็วขึ้น
"ที่ผ่านมา ในการเสนอขายกองทุนแต่ละกองนั้น เราจะพิจารณาสถานการณ์รอบด้านประกอบการตัดสินใจเสมอ เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนให้มีความเหมาะสม สำหรับกองนี้ก็เช่นกัน ตอนนี้เรามองว่าความเป็นไปได้ในการที่หุ้นจะดีดตัวกลับบวก 10% ในช่วงเวลาลงทุนเพียง 6 เดือนมีโอกาสสูง จึงว่าควรที่จะปรับนโยบายเป้าหมายใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดในสภาวการณ์ปัจจุบัน"
สำหรับนโยบายการลงทุนเดิมของกองทุนดังกล่าว จะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยกองทุนมีอายุโครงการ 6 เดือน หรือเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ 15 ของมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย (10 บาท) เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 10%" กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ประมาณวันที่ 13 - 21 ต.ค. 51 โดยเงินทุนของโครงการที่จดทะเบียนไว้คือ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการ 6 เดือน ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท
อนึ่งในช่วงที่ผ่านม บลจ.ทิสโก้ ได้เคยเปิดขายกองทุนในลักษณะเดียวกันไปแล้วได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% ที่จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Lyxor ETF MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) และสามารถ สร้างผลตอบแทนตามเป้าหมาย 15% ได้ในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษเท่านั้นนับตั้งแต่กองทุน โดยภายหลัง บลจ.ทิสโก้ได้ทำการขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% # 2 ต่อเนื่องออกมา และขณะนี้มีการดำเนินงานมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว
สำหรับภาวการณ์ลงทุนในตลาดหุ้น ณ วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา สถานการณ์ความวุ่นวายและความรุนแรงภายในประเทศประกอบกับปัจจัยกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านสถาบันการเงินของต่างประเทศส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลงมาปิดที่ 528.71 จุด คิดเป็นการลดลง 23.09 จุด หรือ 4.18% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 546.35 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ 527.70 จุด และมีมุลค่าการซื้อขาย 16,313.39 ล้านบาท