"ทิสโก้"มั่นใจหุ้นไทยดีดกลับ เล็งส่งทาร์เก็ตฟันด์ดักทำกำไร

บลจ.ทิสโก้มั่นใจอนาคตหุ้นไทยดีดกลับหลังวิกฤตเมืองลุงแซมส่อเค้าคลี่คลาย เตรียมส่งกองทุน "ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 15%" ล่อใจนักลงทุน ชูจุดเด่นรับผลตอบแทนทันทีหลังดัชนีปรับตัวถึงเป้า 15% ใน 6 เดือน ด้าน "ธีรนาถ” เชื่อหุ้นไทยพื้นฐานดี-ราคาถูก

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังมีแผนที่จะทำการเปิดขายกองทุนใหม่ คือ "กองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 15%" โดยตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวครั้งแรก (IPO) ได้ในช่วงวันที่ 7-17 ตุลาคม 2551โดยเงินทุนของโครงการที่จดทะเบียนไว้คือ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน และกำหนดมูลค่าลงทุนขั้นต่ำที่ 20,000 บาท
สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 15% นั้น จะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยกองทุนมีอายุโครงการ 6 เดือน หรือเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ 15 ของมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย (10 บาท) เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
ทั้งนี้กองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท อิควิตี้ ทริกเกอร์ 15% มีจุดเด่นอยู่ที่นักลงทุนจะมีโอกาสรับผลตอบแทน 15% หากดัชนีหุ้นไทยดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากกองทุนตั้งเป้าหมายรับผลตอบแทนไว้แน่นอน โดยกองทุนจะขายทำกำไรอัตโนมัติหากได้รับผลตอบแทน 15% ภายในระยะเวลาโครงการ 6 เดือน หรือสามารถปิดกองทุน คืนเงินทันทีโดยไม่ต้องรอให้ครบ 6 เดือนหากหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 15% ขึ้นไป จึงช่วยให้ไม่พลาดโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมาย และลงทุนได้แม้ไม่มีเวลาติดตามการลงทุนด้วยตัวเอง
นายธีรนาถ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนดังกล่าวในช่วงนี้ เนื่องจากประเมินว่าหุ้นไทยมีความน่าสนใจค่อนข้างมาก เพราะราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาทำให้หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและมีศักยภาพการเติบโตที่ดีมีราคาถูก ประกอบกับเริ่มมีเค้าลางถึงความคลี่คลายของปัญหาสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินของสหรัฐอเมริกา ทำให้คาดว่าราคาหุ้นของไทยน่าจะดีดตัวกลับได้เร็ว จึงเป็นที่มาของการตั้งเป้าผลตอบแทน 15% ในระยะเวลาเพียง 6 เดือน
"จากบทเรียนในปีที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์ต่างๆเริ่มดีขึ้น นักลงทุนจะสังเกตได้ว่าราคาหุ้นไทยจะดีดตัวกลับค่อนข้างเร็วและแรง โดยใช้เวลาไม่นาน ซึ่งหากผู้ลงทุนขายไม่ทัน ก็จะทำให้เสียโอกาสในการทำกำไรไป ดังนั้นจึงเชื่อว่ากองทุนนี้จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ กล่าวคือหากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในระดับที่น่าพอใจก็จะขายทำกำไรอัตโนมัติเลย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนและนำกำไรมาเก็บไว้ก่อน"นายธีรนาถกล่าว
อนึ่งในช่วงที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ ได้เปิดขายกองทุนในลักษณะเดียวกันไปแล้วได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% ที่จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Lyxor ETF MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง และมีนโยบายการลงทุนในหุ้นของกลุ่มประเทศในเอเชียแปซิฟิกยกเว้นประเทศญี่ปุ่น
โดยกองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมาย 15% ได้ในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษเท่านั้นนับตั้งแต่กองทุน และทำการประกาศเลิกกองทุนในวันที่ 24 พฤษภาคม 2551 นอกจากนี้ภายหลังยกเลิกกองทุนดังกล่าว บลจ.ทิสโก้ ได้ทำการขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% # 2 ต่อเนื่องออกมา โดยขณะนี้มีการดำเนินงานมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว