บลจ.ทหารไทย ขยายวงเงินบัตร "TMBAM Extra Cash" สูงสดเบิกถอนได้ถึง 50,000 บาทต่อวัน หวังเพิ่มความยืดหยุ่น เสริมศักยภาพการให้บริการลูกค้ากองทุนเปิดทหารไทยธนบดี แถมเตรียมแผนโปรโมท "ธนรัฐ" เป็นทางเลือกลูกค้ารองรับพ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก
นางสาวณฤดี จันทร์แจ่มจรัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มวงเงินเบิกถอนสูงสุดในแต่ละวัน (ทำการ) ของบัตร TMBAM Extra Cash ผ่านเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ทั้งนี้ไม่เกินมูลค่าสูงสุดที่กำหนด โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าของหน่วยลงทุนคงเหลือที่มีอยู่ในบัญชีกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี
โดยผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือน้อยกว่า 3 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 20,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 10,000 บาท , ผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือน้อยกว่า 10 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 30,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 20,000 บาท , ผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือน้อยกว่า 40 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 40,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 30,000 บาท และผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือมากกว่าหรือเท่ากับ 40 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 50,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 40,000 บาท ทั้งนี้เงื่อนไขการเบิกถอนเงินสดสูงสุดต่อวัน มีวิธีการนับเหมือนกับวันทำการของการทำรายการกองทุน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2551 เป็นต้นไป
"การเพิ่มวงเงินการเบิกถอนของบัตร TMBAM Extra Cash ในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า และเป็นการขยายบริการของบริษัทให้ดีขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น" นางสาวณฤดี กล่าว
อย่างไรก็ตามปัจจุบันจากการที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เริ่มมีผลบังคับใช้ ทำให้บริษัทจะเน้นการทำการตลาดกับกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกของนักลงทุนและรองรับพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยกองทุนเปิดธนรัฐนั้นมีนโยบายลงทุนในตราสารตลาดเงินภาครัฐ ในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน และอาจลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ และจะทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedge)
ขณะเดียวกันรายงานข่าวจากบลจ. ทหารไทย ระบุต่อว่า บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทุนในกองทุนรวม LTF – RMF ตั้งแต่ 2 มกราคม 2551 ไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยหากซื้อหน่วยลงทุน LTF หรือ RMF ทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับเงินลงทุนพิเศษในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดีมูลค่า 500 บาท , ลงทุน 200,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน 1,000 บาท และพิเศษสำหรับลูกค้าเก่าที่มีชื่อจดทะเบียนกับบริษัทฯจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ไม่ว่าลงทุนกองทุนใดก็ได้และยังมียอดคงเหลือในบัญชี เมื่อซื้อ LTF หรือ RMF 100,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนเพิ่มอีก 100 บาท หรือคิดเป็นหน่วยลงทุนที่ลูกค้าเก่าจะได้รับทั้งสิ้น 600 บาท หรือหากลงทุน 200,000 บาท ก็จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนทหารไทยธนบดี 1,200 บาทเป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมีนโยบายกระตุ้นผู้ถือหน่วยให้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกๆเดือนเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยบริษัทมีกองทุน RMF ภายใต้การบริหารจัดการ 3 กองทุนมีสินทรัพย์รวมกว่า 2,621 ล้านบาท ณ วันที่ 15 กันยายน 2551 ประกอบด้วย กองทุนเปิดทหารไทยธนบดีเพื่อการเลี้ยงชีพซึ่งเป็นกองทุนประเภทตราสารหนี้ , กองทุนเปิด Jumbo 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดทหารไทย SET 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ สำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาวมี 2 กองทุนมีสินทรัพย์รวมกว่า 3,093 ล้านบาท (ณ วันที่ 15 กันยายน 51) ประกอบด้วยกองทุนเปิด Jumbo 25 ปันผลหุ้นระยะยาว และ กองทุนเปิด Jumbo Plus ปันผลหุ้นระยะยาว
นางสาวณฤดี จันทร์แจ่มจรัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มวงเงินเบิกถอนสูงสุดในแต่ละวัน (ทำการ) ของบัตร TMBAM Extra Cash ผ่านเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ทั้งนี้ไม่เกินมูลค่าสูงสุดที่กำหนด โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าของหน่วยลงทุนคงเหลือที่มีอยู่ในบัญชีกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี
โดยผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือน้อยกว่า 3 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 20,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 10,000 บาท , ผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือน้อยกว่า 10 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 30,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 20,000 บาท , ผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือน้อยกว่า 40 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 40,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 30,000 บาท และผู้ลงทุนที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือมากกว่าหรือเท่ากับ 40 ล้านบาท จะสามารถจำนวนเงินที่เบิกถอนต่อวันได้ในวงเงิน 50,000 บาท จากเดิมที่กำหนดวงเงิน 40,000 บาท ทั้งนี้เงื่อนไขการเบิกถอนเงินสดสูงสุดต่อวัน มีวิธีการนับเหมือนกับวันทำการของการทำรายการกองทุน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2551 เป็นต้นไป
"การเพิ่มวงเงินการเบิกถอนของบัตร TMBAM Extra Cash ในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า และเป็นการขยายบริการของบริษัทให้ดีขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น" นางสาวณฤดี กล่าว
อย่างไรก็ตามปัจจุบันจากการที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เริ่มมีผลบังคับใช้ ทำให้บริษัทจะเน้นการทำการตลาดกับกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกของนักลงทุนและรองรับพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยกองทุนเปิดธนรัฐนั้นมีนโยบายลงทุนในตราสารตลาดเงินภาครัฐ ในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน และอาจลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ และจะทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedge)
ขณะเดียวกันรายงานข่าวจากบลจ. ทหารไทย ระบุต่อว่า บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทุนในกองทุนรวม LTF – RMF ตั้งแต่ 2 มกราคม 2551 ไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยหากซื้อหน่วยลงทุน LTF หรือ RMF ทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับเงินลงทุนพิเศษในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดีมูลค่า 500 บาท , ลงทุน 200,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน 1,000 บาท และพิเศษสำหรับลูกค้าเก่าที่มีชื่อจดทะเบียนกับบริษัทฯจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ไม่ว่าลงทุนกองทุนใดก็ได้และยังมียอดคงเหลือในบัญชี เมื่อซื้อ LTF หรือ RMF 100,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนเพิ่มอีก 100 บาท หรือคิดเป็นหน่วยลงทุนที่ลูกค้าเก่าจะได้รับทั้งสิ้น 600 บาท หรือหากลงทุน 200,000 บาท ก็จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนทหารไทยธนบดี 1,200 บาทเป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมีนโยบายกระตุ้นผู้ถือหน่วยให้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกๆเดือนเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยบริษัทมีกองทุน RMF ภายใต้การบริหารจัดการ 3 กองทุนมีสินทรัพย์รวมกว่า 2,621 ล้านบาท ณ วันที่ 15 กันยายน 2551 ประกอบด้วย กองทุนเปิดทหารไทยธนบดีเพื่อการเลี้ยงชีพซึ่งเป็นกองทุนประเภทตราสารหนี้ , กองทุนเปิด Jumbo 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดทหารไทย SET 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ สำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาวมี 2 กองทุนมีสินทรัพย์รวมกว่า 3,093 ล้านบาท (ณ วันที่ 15 กันยายน 51) ประกอบด้วยกองทุนเปิด Jumbo 25 ปันผลหุ้นระยะยาว และ กองทุนเปิด Jumbo Plus ปันผลหุ้นระยะยาว
