อินไซด์ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์น่าลงทุน "SPF" ครองแชมป์กองทุนที่มีอัตราเงินปันผลย้อนหลัง 1 ปีมากที่สุด ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยสูงสุดในบรรดากองทุนทั้งหมด "บล.กิมเอ็ง" ชี้ปัจจัยหลักที่จะดันพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์พื้นตัวคือแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ระบุมีเพียง 4 กองทุน "TFUND - SPF -CPNRF - FUTUREPF" ที่มีสภาพคล่องพอเพียงต่อการลงทุน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการสำรวจของบริษัท ณ วันที่ 9 กันยายน 2551 ปรากฎว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลย้อนหลัง 1 ปีสูงสุด 10 อันดับแรกได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สนามบินสมุย (SPF) มีผลตอบแทน 12.39% , อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยอินดัสเตรียล 1 (TIF1) มีผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล 10.65% , อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QHPF) มีผลตอบแทน 10.34% , อันดับ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) มีผลตอบแทน 10.20% และอันดับ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) มีผลตอบแทน 8.95%
อันดับ 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) มีผลตอบแทน 7.69% , อันดับ 7 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) มีผลตอบแทน 7.66% ,อันดับ 8 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) มีผลตอบแทน 7.44% , อันดับ 9 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี (MNIT) มีผลตอบแทน 7.00% และอันดับ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) มีผลตอบแทน 6.99%
ขณะที่กองทุนที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มากที่สุด 10 อันดับแรก ประกอบไปด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 6.86 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฟิวเจอร์พาร์ค มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 2.96 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สนามบินสมุย มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 2.39 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 1.63 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.39 ล้านบาทต่อวัน
อันดับ 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.28 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 7 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.11 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 8 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ (TU-PF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.10 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 9 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.10 ล้านบาทต่อวัน และอันดับ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.10 ล้านบาทต่อวัน
ด้านกองทุนที่มีส่วนต่างราคามากสุดเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย (NAV) 5 อันดับแรก คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ซึ่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551 กองทุนมีราคาซื้อขายที่ 7.45 บาท และมีมูลค่าทรัพยสินสุทธิต่อหน่วยที่ 11.8608 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 37.19% , อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี อะพาร์ทเมนท์ หนึ่ง (UOBAPF) ซึ่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม มีราคาซื้อขายที่ 6.60 บาท ขณะที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยที่ 10.3958 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 36.51%
อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม มีราคาซื้อขายที่ 7.25 บาท มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย 10.7446 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 32.52% , อันดับ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก ณ วันที่ 31 กรกฎาคม กองทุนมีราคาซื้อขายที่ 8.30 บาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย 11.8020 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 29.67% และอันดับ 5 คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ ที่ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม กองทุนมีราคาซื้อขายที่ 9.00 บาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย 11.8831 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 24.26%
"ที่ผ่านมาบริษัทได้เตือนนักลงทุนอยู่บ่อยครั้งว่าอุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดในการลงทุนในกองทุนอสังหารมทรัพย์ของไทย คือ ปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางมาก ดังนั้นเราเชื่อว่าปัจจัยหลักที่จะช่วยหนุนให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวคือการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ จนกว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมามีสถานะซื้อสุทธิอีกครั้ง ซึ่งเราไม่คิดว่านักลงทุนรายย่อยในประเทศจะให้ความสนใจกับตลาดในตอนนี้ รวมถึงนักลงทุนสถาบันที่มักรอซื้อตอนตลาดอ่อนตัวเองก็หาโอกาสเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูงกว่า"
อย่างไรก็ตามแม้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะมีอัตราเงินปันผลตอบแทนและส่วนลดจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่น่าประทับใจ แต่มีกองทุนเพียง 4 กองที่มีสภาพคล่องเพียงพอได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สนามบินสมุย , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการสำรวจของบริษัท ณ วันที่ 9 กันยายน 2551 ปรากฎว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลย้อนหลัง 1 ปีสูงสุด 10 อันดับแรกได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สนามบินสมุย (SPF) มีผลตอบแทน 12.39% , อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยอินดัสเตรียล 1 (TIF1) มีผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล 10.65% , อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QHPF) มีผลตอบแทน 10.34% , อันดับ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) มีผลตอบแทน 10.20% และอันดับ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) มีผลตอบแทน 8.95%
อันดับ 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) มีผลตอบแทน 7.69% , อันดับ 7 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) มีผลตอบแทน 7.66% ,อันดับ 8 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) มีผลตอบแทน 7.44% , อันดับ 9 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี (MNIT) มีผลตอบแทน 7.00% และอันดับ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) มีผลตอบแทน 6.99%
ขณะที่กองทุนที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มากที่สุด 10 อันดับแรก ประกอบไปด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 6.86 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ฟิวเจอร์พาร์ค มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 2.96 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สนามบินสมุย มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 2.39 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 1.63 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.39 ล้านบาทต่อวัน
อันดับ 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.28 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 7 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.11 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 8 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ (TU-PF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.10 ล้านบาทต่อวัน , อันดับ 9 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.10 ล้านบาทต่อวัน และอันดับ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีมูลค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 0.10 ล้านบาทต่อวัน
ด้านกองทุนที่มีส่วนต่างราคามากสุดเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย (NAV) 5 อันดับแรก คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ซึ่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551 กองทุนมีราคาซื้อขายที่ 7.45 บาท และมีมูลค่าทรัพยสินสุทธิต่อหน่วยที่ 11.8608 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 37.19% , อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี อะพาร์ทเมนท์ หนึ่ง (UOBAPF) ซึ่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม มีราคาซื้อขายที่ 6.60 บาท ขณะที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยที่ 10.3958 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 36.51%
อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม มีราคาซื้อขายที่ 7.25 บาท มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย 10.7446 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 32.52% , อันดับ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก ณ วันที่ 31 กรกฎาคม กองทุนมีราคาซื้อขายที่ 8.30 บาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย 11.8020 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 29.67% และอันดับ 5 คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ ที่ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม กองทุนมีราคาซื้อขายที่ 9.00 บาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย 11.8831 บาท คิดเป็นส่วนต่าง 24.26%
"ที่ผ่านมาบริษัทได้เตือนนักลงทุนอยู่บ่อยครั้งว่าอุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดในการลงทุนในกองทุนอสังหารมทรัพย์ของไทย คือ ปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางมาก ดังนั้นเราเชื่อว่าปัจจัยหลักที่จะช่วยหนุนให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวคือการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ จนกว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมามีสถานะซื้อสุทธิอีกครั้ง ซึ่งเราไม่คิดว่านักลงทุนรายย่อยในประเทศจะให้ความสนใจกับตลาดในตอนนี้ รวมถึงนักลงทุนสถาบันที่มักรอซื้อตอนตลาดอ่อนตัวเองก็หาโอกาสเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูงกว่า"
อย่างไรก็ตามแม้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะมีอัตราเงินปันผลตอบแทนและส่วนลดจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่น่าประทับใจ แต่มีกองทุนเพียง 4 กองที่มีสภาพคล่องเพียงพอได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สนามบินสมุย , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค