ในขณะที่การเมืองไทยวุ่นวายจนแถบจะหาทางออกไม่ได้นั้น...หลายต่อหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า เศรษฐกิจของประเทศจะพังแหล่มิพังแหล่อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดี จนกระทั้งมาสะดุดจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน...และล่าสุด การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ให้นายสมัคร สุนทรเวช หมดสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรี...ทำให้หลายคนตั้งความหวังใหม่ว่า ใครจะเข้ามาทำหน้าที่เรียกความเชื่อมั่น และเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศ...เพราะที่ผ่านมา มาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลากว่า 7 เดือนที่ผ่านมาเทียบจะไม่มีเลย
ณ วันนี้ ชัดเจนที่สุดคือ การเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ...ล่าสุดบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (10 ก.ย.) นักลงทุนต่างชาติ ยังขายสุทธิ ด้วยมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยปิดตลาดดัชนีปรับลดลงมาอยู่ที่ 655.54 จุด ปรับลดลงไป 8.07 จุด...แม้จะไม่มากนัก แต่สถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นปัจจัยหลัก...เพราะยังมองไม่ออกว่า ใครจะมานั้งเก้าอี้บริหารประเทศต่อ แถมยังมีกระแสการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบของนายสมัคร เป็นปัจจัยสำคัญ
และด้วยความไม่แน่นอนในช่วงนี้ ดูจะส่งผลต่อธุรกิจกองทุนรวมพอสมควร เพราะที่ผ่านมา กองทุนหลายต่อหลายกองทุน ต้องเลื่อนการเปิดขายออกไปก่อน หรือกองทุนใดที่เปิดขายในช่วงนี้ เป็นอันต้องสะดุดไปตามๆ กัน...บลจ. เอ็มเอฟซี เองก็หนี้ไม่พ้นเช่นกัน เพราะล่าสุด...เลื่อนตั้งกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นฮานซ์ ฟันด์ (MFC International Enhanced Fund) หรือ I-Enhance ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบทั้งด้านการเมืองที่อยู่ในภาวะไม่มั่นคง ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตลอดจนสภาพด้านจิตวิทยาซึ่งไม่พร้อมที่จะลงทุนของนักลงทุน โดยจะเปิดขายกองทุนดังกล่าวใหม่อีกครั้งเมื่อภาวะเหมาะสมกับการลงทุน เพื่อผลประโยชน์ที่ดีต่อนักลงทุน
ถ้ายังจำได้...ก่อนหน้านี้ บลจ.เอ็มเอฟซี เพิ่งเปิดขาย I-BRIC Recovery ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนไป ก็จังหวะไม่ดีเหมือนกัน...เพราะช่วงนั้น เจอสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับจอร์เจียเข้าไปเต็มๆ ...ดูท่าช่วงนี้ ดร.ศุภกร สุนทรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน นอกจากจะวิเคราะห์ตลาดแล้ว คงต้องเช็คดวงกันหน่อยแล้ว...
แต่กระนั้น เรื่องนี้ ไม่ได้กระทบเฉพาะเอ็มเอฟซีเพียงเจ้าเดียว เพราะภาวะแบบนี้ การจะบังคับคนให้ลงทุนคงเป็นไปได้ยาก นอกซะจากคนที่เห็นโอกาสจริงๆ ....เฮ้ออออ เห็นอย่างนี้แล้วเหนื่อยแทนบรรดาบลจ. ทั้งหลาย แม้จะวิเคราะห์ตลาดและทำการบ้านมาอย่างดี แต่อะไรอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย
ช่วงนี้ มีกระแสข่าวความกังวลเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของเกาหลีใต้ออกมาเป็นระยะ...ซึ่งเรื่องนี้ จะว่าไปแล้ว อาจจะไกลตัวคนไทยอยู่บ้าง แต่ถ้าจำกัดวงลงมาที่นักลงทุน โดยเฉพาะคนที่ซื้อกองทุนรวมด้วยแล้ว คงหวั่นไหวไปตามๆ กัน...เพราะปัจจุบัน กองทุนบ้านเราออกไปลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เป็นจำนวนมาก...
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ได้รับการยืนยันจากผู้จัดการกองทุนหลายๆ ค่ายแล้วว่า ไม่น่าเป็นห่วง เพราะหากดูพื้นฐานเศรษฐกิจและฐานะทางการเงินของเกาหลีแล้ว ยังแข็งแกร่งอยู่ ที่สำคัญ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ยังไม่มีการปรับเครดิตของประเทศนี้แต่อย่างใด...ฟังแบบนี้ ผู้ลงทุนสบายใจได้ว่า กองทุนที่ซื้อไป ไม่มีผลกระทบแน่นอน....และใครที่ซื้อไปแล้ว ก็รอรับผลตอบแทนสบายใจได้...
ณ วันนี้ ชัดเจนที่สุดคือ การเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ...ล่าสุดบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (10 ก.ย.) นักลงทุนต่างชาติ ยังขายสุทธิ ด้วยมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยปิดตลาดดัชนีปรับลดลงมาอยู่ที่ 655.54 จุด ปรับลดลงไป 8.07 จุด...แม้จะไม่มากนัก แต่สถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นปัจจัยหลัก...เพราะยังมองไม่ออกว่า ใครจะมานั้งเก้าอี้บริหารประเทศต่อ แถมยังมีกระแสการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบของนายสมัคร เป็นปัจจัยสำคัญ
และด้วยความไม่แน่นอนในช่วงนี้ ดูจะส่งผลต่อธุรกิจกองทุนรวมพอสมควร เพราะที่ผ่านมา กองทุนหลายต่อหลายกองทุน ต้องเลื่อนการเปิดขายออกไปก่อน หรือกองทุนใดที่เปิดขายในช่วงนี้ เป็นอันต้องสะดุดไปตามๆ กัน...บลจ. เอ็มเอฟซี เองก็หนี้ไม่พ้นเช่นกัน เพราะล่าสุด...เลื่อนตั้งกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นฮานซ์ ฟันด์ (MFC International Enhanced Fund) หรือ I-Enhance ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบทั้งด้านการเมืองที่อยู่ในภาวะไม่มั่นคง ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตลอดจนสภาพด้านจิตวิทยาซึ่งไม่พร้อมที่จะลงทุนของนักลงทุน โดยจะเปิดขายกองทุนดังกล่าวใหม่อีกครั้งเมื่อภาวะเหมาะสมกับการลงทุน เพื่อผลประโยชน์ที่ดีต่อนักลงทุน
ถ้ายังจำได้...ก่อนหน้านี้ บลจ.เอ็มเอฟซี เพิ่งเปิดขาย I-BRIC Recovery ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนไป ก็จังหวะไม่ดีเหมือนกัน...เพราะช่วงนั้น เจอสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับจอร์เจียเข้าไปเต็มๆ ...ดูท่าช่วงนี้ ดร.ศุภกร สุนทรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน นอกจากจะวิเคราะห์ตลาดแล้ว คงต้องเช็คดวงกันหน่อยแล้ว...
แต่กระนั้น เรื่องนี้ ไม่ได้กระทบเฉพาะเอ็มเอฟซีเพียงเจ้าเดียว เพราะภาวะแบบนี้ การจะบังคับคนให้ลงทุนคงเป็นไปได้ยาก นอกซะจากคนที่เห็นโอกาสจริงๆ ....เฮ้ออออ เห็นอย่างนี้แล้วเหนื่อยแทนบรรดาบลจ. ทั้งหลาย แม้จะวิเคราะห์ตลาดและทำการบ้านมาอย่างดี แต่อะไรอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย
ช่วงนี้ มีกระแสข่าวความกังวลเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของเกาหลีใต้ออกมาเป็นระยะ...ซึ่งเรื่องนี้ จะว่าไปแล้ว อาจจะไกลตัวคนไทยอยู่บ้าง แต่ถ้าจำกัดวงลงมาที่นักลงทุน โดยเฉพาะคนที่ซื้อกองทุนรวมด้วยแล้ว คงหวั่นไหวไปตามๆ กัน...เพราะปัจจุบัน กองทุนบ้านเราออกไปลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เป็นจำนวนมาก...
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ได้รับการยืนยันจากผู้จัดการกองทุนหลายๆ ค่ายแล้วว่า ไม่น่าเป็นห่วง เพราะหากดูพื้นฐานเศรษฐกิจและฐานะทางการเงินของเกาหลีแล้ว ยังแข็งแกร่งอยู่ ที่สำคัญ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ยังไม่มีการปรับเครดิตของประเทศนี้แต่อย่างใด...ฟังแบบนี้ ผู้ลงทุนสบายใจได้ว่า กองทุนที่ซื้อไป ไม่มีผลกระทบแน่นอน....และใครที่ซื้อไปแล้ว ก็รอรับผลตอบแทนสบายใจได้...
