ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินข่าวการจัดตั้งกองทุนแมทชิ่งฟันด์ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กันไปบ้างแล้ว...ซึ่งแนวคิดนี้ เป็นความต้องการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการเปิดโอกาสให้นักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันรวมถึงรายย่อย เข้ามาลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นบ้านเราถูกแสนถูก...ขอย้ำว่าเป็นโอกาสลงทุนช่วงที่หุ้นราคาถูก ไม่ใช่เพื่อพยุงหุ้น...
ถึงแม้ว่าภาวะตลาดในขณะนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีต่อการลงทุนก็ตาม แต่ปัญหาทางการเมืองในประเทศที่ยังหาทางออกไม่เจอ ก็ส่งผลต่อความไม่มั่นใจของผู้ลงทุนอยู่พอสมควร และถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้น จะไม่รุนแรงมากนักในสายตานักลงทุนบ้านเรา แต่ในสายตานักลงทุนต่างประเทศ ที่ไม่มีข้อมูล เชื่อว่าปัจจัยทางการเมือง มีผลต่อการตัดสินใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...ดังนั้น ในภาวะเช่นนี้ การพึ่งนักลงทุนสถาบันในประเทศน่าจะช่วยเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้
โดยแนวคิดนี้ ได้รับการตอบรับจากบริษัทจัดการกองทุนพอสมควร ซึ่งวันนี้ "ผู้จัดการกองทุนรวม" มีมุมมองจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่สนใจร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าวมาฝากกัน รวมถึงมุมมองที่มีต่อแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวด้วย...แต่ก่อนอื่นๆ ไปทำความเข้าใจกับรูปแบบของกองทุนแมชชิ่งฟันด์ก่อนว่า เป็นอย่างไรบ้าง
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติวงเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อร่วมลงทุนกับบลจ.ในการจัดตั้งกองทุนในลักษณะกองทุนแมทชิ่งฟันด์ ซึ่งเหมือนกับกองทุนไทยสร้างโอกาสที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยจัดตั้งเมื่อปี 2545
สำหรับวงเงินลงทุนจำนวนดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือกองทุนสถาบัน ที่จะระดมทุนจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้ามาลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมลงทุน 1,000 ล้านบาท และบลจ.จะต้องระดมเงินมาลงทุน 4,000 ล้านบาท ทำให้มีมูลค่ากองทุนรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งการนโยบายการลงทุนในหุ้นนั้นให้ทางกองทุนเป็นผู้พิจารณา แต่หากมีผู้สนใจอาจจะเพิ่มเป็น 2 กองทุน
ส่วนวงเงินอีก 1,000 ล้านบาท จะจัดตั้งเป็นกองทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย แบ่งเงินเป็น 10 กองทุน โดย 5 กองทุนแรก ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมลงทุนกองละ 100 ล้าบาท บลจ.ร่วมลงทุนกองละ 300 ล้านบาท รวมมูลค่ากองทุนละ 400 ล้านบาท ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง และอีก 5 กองทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมลงทุนกองละ 100 ล้านบาท บลจ.ร่วมลงทุนกองละ 150 ล้านบาท รวมมูลค่ากองทุนละ 250 ล้านบาท จะลงทุนในหุ้นขนาดกลางเล็กที่อยู่ในดัชนีฟุตซี่
บลจ.ตื่นตัวทยอยยื่นกองทุนพิจารณา
มาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของบลจ.ไอเอ็นจี ได้มีการยื่นขอจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์กับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว โดยใช้กองทุนเดิม คือ กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยอีควิตี้ฟันด์
ซึ่งกองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยอีควิตี้ฟันด์นั้น เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุนที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(Specific Fund) โดยมีนโยบายการลงทุน มุ่งเน้นลงทุนในตราสารทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตในอัตราสูง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
"ทั้งนี้ การจัดตั้งแมชชิ่งฟันด์ น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการระดมทุนในกับทางตลาดหลักทรัพย์ แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ความไม่สงบ และความผันผวนของการลงทุนในปัจจุบัน คงจะส่งผลกระทบต่อการระดมทุนเช่นเดียวกัน จึงเป็นหน้าที่ของบลจ.ที่จะต้องพยายามสร้างความเข้าใจให้แก่นักลงทุน"นายมาริษ กล่าว
วนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า เรามีความสนใจที่จะจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าภายในอาทิตย์นี้บริษัทจะสามารถยื่นเอกสารกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ส่วนรายละเอียดของกองทุนนั้น คงจะสามารถเปิดเผยได้ในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีความเห็นว่า การจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์ จะส่งผลดีและมีประโยชน์ต่อนักลงทุน และปัจจุบันนับว่าเป็นจังหวะเหมาะสมในการลงทุน เพราะช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยลบหลายประการได้กดดันดัชนีให้ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ซึ่งเชื่อว่าถ้ามีการจัดตั้งแมชชิ่งฟันด์แล้ว การถือหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 1 ปี น่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีใหแก่นักลงทุนได้
ธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจที่จะร่วมจัดตั้งแม็ตชิ่งฟันด์ กับทางตลาดหลักทรัพย์ โดยน่าจะเป็นในรูปแบบนักลงทุนทั่วไปมากกว่าจะดึงสถาบันเข้ามาร่วมด้วย เนื่องจากเชื่อว่าหากเป็นสถาบันอย่าง กบข. และประกันสังคมคงจะมีการปรับพอร์ตหรือลงทุนเองไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามคงจะต้องดูดีมานของลูกค้าเข้ามาประกอบด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้มีความร่วมมือกับทางตลาดหลังกทรัพย์ฯ ในกองทุนรูปแบบนี้อยู่แล้วได้แก่ กองทุนเปิดทิสโก้ อเกรสซีฟฟันด์ ซึ่งขณะนี้มีสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนจะเป็นกองทุนนี้หรือไม่ที่จะไปนำเสนอจัดตั้งแม็ตชิ่งฟันด์ คงจะต้องมีการประชุมกันอีกครั้งหนึ่งก่อน
พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บลจ.เอ็มเอฟซีสนใจจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งบริษัทเองมีความตั้งใจที่จะจัดตั้งเป็นกองทุนรวมอยู่แล้ว เพราะลูกค้าเองก็ให้ความสนใจค่อนข้างมาก ซึ่งที่ผ่านมา หุ้นในกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีการลงทุนเข้ามามากนัก หุ้นบางตัวเองราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานค่อนข้างเยอะ จึงเชื่อว่าน่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี
"เราเองเห็นว่าหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กหลายตัวน่าสนใจ ประกอบกับลูกค้าของเราหลายคนสนใจ ซึ่งรวมถึงนักลงทุนในต่างประเทศ ที่ร่วมลงทุนกับกองทุนคันทรี่ฟันด์ของเราเอง ก็มีการหารือว่าสนใจหุ้นในกลุ่มนี้เช่นกัน แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีกองทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวมากนัก เพราะต้นทุนค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตาม หากมีกองทุนประเภทนี้ออกมามากขึ้น ก็จะช่วยเติมเต็มให้ตลาดทุนบ้านเราได้มากขึ้น"นายพิชิตกล่าว
สำหรับการจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์ในช่วงนี้ ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลงไปต่ำกว่าปกติค่อนข้างมาก ประกอบกับการลงทุนคันทรี่ฟันด์ที่ผ่านมา หากลงทุนตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป มักจะได้ผลตอบแทนที่ดีเสมอ ซึ่งปัจจุบันตลาดหุ้นไทยเอง P/E ค่อนข้างต่ำมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ในสหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลให้เงบินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมไปถึงปัญหาการเมืองในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจนในปัจจุบัน
ทั้งนี้ เชื่อว่าหากลงทุนนับจากช่วงนี้ไปอีก 3 ปีข้างหน้า น่าจะเป็นจังหวะพอดีกับปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้เริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้น ผลตอบแทนจากการลงทุนน่าจะออกมาดี
เข้าทาง"เอวายเอฟ-พรีมาเวสท์"
ฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด กล่าวว่า เอวายเอฟได้ยื่นเสนอกองทุนให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาไปแล้ว 1 กองทุน โดยกองทุนเดิมที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทอยู่แล้วนั่นคือ กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 (AYFTW5) ซึ่งกองทุนดังกล่าวเสนอไปในประเภทกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดี เพื่อนักลงทุนรายย่อย
ส่วนกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดเล็กนั้น บริษัทคงไม่ยื่นเสนอเข้าไป เนื่องจากหุ้นในกลุ่มดังกล่าว ไม่อยู่ในกรอบการลงทุนของบริษัท ในขณะที่กองทุนเพื่อนักลงทุนสถาบันเอง เราก็สนใจเช่นกัน แต่เนื่องจากจำนวนเงินที่ต้องระดมทุนค่อนข้างสูง หรือสัดส่วน 1 ต่อ 4 นั่นคือ หากตลาดหลักทรัพย์ร่วมลงทุน 500 ล้านบาท เราจะต้องระดมทุนให้ได้ถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ จะต้องคุณกับพัมธมิตรก่อนว่าสนใจลงทุนหรือไม่
"ฉัตรพี" กล่าวว่า สาเหตุที่เราเลือกกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 เพราะเป็นกองทุนที่ตรงกับกรอบการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่กำหนดว่าต้องมีผู้ร่วมลงทุนหรือบริษัทหลักทรัพย์ร่วมจัดตั้งอย่างน้อย 1 ราย ซึ่งกองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนที่ร่วมจัดตั้งกับบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ดังนั้น จึงมองว่าน่าจะสะดวกกว่าการจัดตั้งกองทุนใหม่
โดยปัจจุบันกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและมีอัตราการเติบโตสูง โดยในพอร์ตการลงทุนของกองทุนนี้ จะมีหุ้นอยู่ประมาณ 12-18 ตัว ทั้งนี้ หากกองทุนดังกล่าวได้รับการพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจะต้องระดมทุนเพิ่มให้ได้เป็น 300 ล้านบาท เพื่อให้แมชกับสัดส่วน 1 ต่อ 3 ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บลจ. พรีมาเวสท์ กล่าวว่า บริษัทสนใจร่วมจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์เช่นกัน ซึ่งในขณะนี้กำลังหารือระหว่างผู้ร่วมลงทุนประมาณ 3-4 ราย ว่าจะเสนอรูปแบบการลงทุนแบบใด ก่อนจะยื่นให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งกองทุนของบริษัทที่มีอยู่เดิมแล้ว ก็สามารถยื่นให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาได้โดยไม่จำเป็นต้องตั้งกองทุนใหม่
ทั้งนี้ ในส่วนของบลจ.พรีมาเวสท์เอง ปัจจุบันมีกองทุนแมชชิ่งฟันด์ที่ร่วมลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว นั่นคือ กองทุนเปิดเอวายเอส-พรีมาเวสท์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ (AYP) และกองทุนเปิดไอบีพรีเมียร์ (IBP) ซึ่งในส่วนของกองทุนเปิดไอบีพรีเมียร์นั้น มีบริษัทหลักทรัพย์ ไอบี จำกัด และตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมลงทุนด้วย โดยกองทุนดังกล่าวได้ปิดกองทุนไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้ถือหน่วยบางส่วนได้ไถ่ถอนหน่วยลงทุนออกไป
สำหรับกองทุนเปิดเอวายเอส-พรีมาเวสท์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ เป็นกองทุนรวมที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นระหว่างบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด และบลจ.พรีมาเวสท์ โดยมีตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้าร่วมลงทุนตามโครงการกองทุนเพื่อลงทุนในหุ้นทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้ และหรือเงินฝาก หรือตราสารอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในสัดส่วนของตราสารสำหรับแต่ละประเภทตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกองทุนเปิดเอวายเอส-พรีมาเวสท์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ปัจจุบัน มีอยู่จำนวนไม่มาก เนื่องจากได้ทยอยขายออกไปบ้างแล้ว
ตลท.ย้ำไม่ใช่กองทุนพยุงหุ้น
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ย้ำว่า การจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อพยุงการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่เรามองว่าในช่วงที่ราคาหุ้นปรับลดลงไปค่อนข้างมาก เป็นโอกาสที่ดีต่อการลงทุน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้ามาลงทุน ขณะเดียวกัน ในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว ตลาดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้ร่วมลงทุนเท่านั้น แต่การบริหารจัดการกองทุนจะให้อิสระในการบริหารทั้งหมด เพราะนอกจากตลาดหลักทรัพย์แล้วยังมีผู้ลงทุนรายอื่น หากตลาดเข้าไปแทรกแซงก็จะกระทบผู้ถือหน่วยรายอื่นที่เขาต้องการผลตอบแทนด้วย
“การที่ราคาปรับลดลงมา ทำให้ผู้ลงทุนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และถือเป็นโอกาสลงทุนในช่วงที่ความเสี่ยงต่ำ ส่วนเรื่องการเมืองในขณะนี้ อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนบ้าง แต่เรามองว่าเป็นปัจจัยระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้ว พื้นฐานของประเทศสำคัญกว่า"นางภัทรียากล่าว