xs
xsm
sm
md
lg

เปิดทางบลจ.รับซื้อLTFได้ทั้งปี นักลงทุนยิ้มจับจังหวะขายช่วงราคาแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ชี้ ปลดล็อคขายหน่วยแอลทีเอฟ เปิดทางนักลงทุนจับจังหวะทำกำไรช่วงตลาดหุ้นขาขึ้น สร้างผลตอบแทนหลังถือครบเงื่อนไข ชี้อาจต้องปรับปรุงระบบใหม่มารองรับ มั่นใจไม่กระทบตลาดแอลทีเอฟ เหตุผู้ลงทุนไม่กังวลการขายคืน เพราะส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการลดหย่อนภาษีมากกว่า

นางสาวดวงกมล พิศาล เลขาธิการเเละผู้อำนวยการสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) เปิดเผยว่า ทางสมาคมบลจ. ได้เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เเก้ไขหลักเกณฑ์การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อให้บริษัทจัดการสามารถเปิดรับซื้อหน่วยลงทุนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทจัดการกำหนด จากปัจจุบันที่กำหนดช่วงเวลาในการเปิดรับซื้อคืนไม่เกินปีละ 2 ช่วง ซึ่งในส่วนของ ก.ล.ต. ก็รับที่จะพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์เรื่องนี้ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนและบริษัทจัดการมากขึ้น

"บลจ.บางเเห่งอาจจะเปิดรับซื้อหน่วยลงทุน LTF ได้ทุกวันทำการ หรือทุกสัปดาห์ หรือจะเป็นทุกเดือนก็ได้ เเล้วเเต่ทางบลจ.จะกำหนด เเต่ในเเง่ของผู้ถือหน่วยที่ขายคืนหน่วยลงทุนให้กับบลจ. ก็ขายคืนได้ตามกำหนดเดิมคือปีละ 2 ครั้ง" นางสาวดวงกมลกล่าว

ขณะเดียวกัน การเเก้ไขหลักเกณฑ์ครั้งนี้ จะเป็นการช่วยลดความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่มีกำหนดขายคืนหน่วยลงทุน ที่สำคัญจะส่งผลดีกับผู้ที่ถือหน่วยลงทุนอีกด้วย โดยไม่จำเป็นต้องขายคืนหน่วยตอนช่วงต้นปีหรือปลายปี ซึ่งถ้าเเก้หลักเกณฑ์เเล้วผู้ถือหน่วยสามารถขายหน่วยลงทุนคืนให้กับบลจ.ช่วงที่ตลาดหุ้นขาขึ้น เพื่อเป็นการสร้างผลตอบเเทนที่ดีให้กับนักลงทุน

นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนกล่าวว่า การเปิดโอกาสให้บริษัทจัดการสามารถเปิดรับซื้อหน่วยลงทุนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทจัดการกำหนดนั้น ทางสมาคมฯ มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งนักลงทุนสามารถทำการเลือกเองได้ว่าจะลงทุนในช่วงไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งถ้า ก.ล.ต. อนุมัติ และใช้ได้จริงแล้วมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนประเภทดังกล่าวจะโตเพิ่มมากขึ้น

“การเปิดโอกาสให้บริษัทจัดการสามารถเปิดรับซื้อหน่วยลงทุนแอลทีเอฟได้มากขึ้น เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ความยุ่งยากย่อมมีอยู่ เนื่องจาก หลาย ๆ บลจ. คงต้องมีการปรับระบบขึ้นมาใหม่จากเดิมที่มี เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังเป็นระบบแบบเดิม ๆ แต่ถ้าสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ตลอดทั้งปีแล้ว ก็ต้องมาคิดและปรับระบบกันใหม่” นางวรรรณ กล่าว

นายพนุกร จันทรประภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) ระบุว่า ถ้า ก.ล.ต.อนุญาติให้ผู้ถือหน่วยของกองทุนหุ้นระยะยาวสามารถเลือกซื้อขายได้ทุกวันทำการนั้น น่าจะส่งผลทำให้เกิดความสะดวกและเป็นผลดีต่อผู้ที่ถือหน่วยลงทุน เนื่องมาจากจะช่วยให้สามารถจับจังหวะการซื้อ-ขายได้เหมาะกับความต้องการ

"ตอนนี้กองทุน LTF มีกำหนดช่วงการซื้อขาย ซึ่งตอนนั้นดัชนีหุ้นอาจจะขึ้นหรือลงอยู่ แต่ถ้าเลือกได้ก็จะมีความคล้ายคลึงกับกองทุนหุ้น และทำให้ผู้ลงทุนสามารถจับจังหวะการลงทุนได้ โดยถ้าเปลี่ยนกฎจริงจะทำให้ผู้ซื้อสะดวกขึ้นและคาดว่าน่าจะทำให้กองทุน LTF ได้รับความนิยมมากขึ้นตามไปด้วย" นายพนุกรกล่าว

สำหรับผลต่อบลจ.ซึ่งต้องบริหารจัดการนั้น นายพนุกร กล่าวว่า คาดว่าไม่น่าจะส่งผลต่อการบริหารจัดการของบลจ.มากนัก เนื่องมาจากถ้ามีการเปลี่ยนกฎ การซื้อขายของกองทุน LTF ก็จะมีระบบคล้ายคลึงกับกองทุนหุ้นทั่วไป ซึ่งแต่ละบริษัทคงจะมีระบบในการบริหารจัดการอยู่แล้ว ทำให้เชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนระบบจะไม่ส่งผลทำให้บลจ.ต่างๆเกิดความยุ่งยากมากขึ้น

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามลูกค้าของกองทุน LTF ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้มีความกังวลกับเรื่องการกำหนดการขายคืนของกองทุนมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการนำเงินลงทุนไปใช้ในการลดหย่อนภาษีมากกว่า

ก่อนหน้านี้ นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ อดีตรองประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าว่า การที่บลจ.หลายแห่งมีการผลักดันให้ ก.ล.ต.มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การขายคืนหน่วยลงทุนแอลทีเอฟ จากเดิมที่สามารถขายคืนได้ปีปฏิทินละ 2 ครั้ง ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับบลจ.แต่ละแห่งเป็นผู้กำหนด เป็นขายคืนได้ปีละ 2 ครั้งในทุกวันทำการ

ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุน เนื่องจากจะมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัญหาของเกณฑ์การขายคืนหน่วยลงทุนเดิมจะทำให้นักลงทุนต้องกังวลว่าจะสามารถขายได้ตามภาวะตลาดที่ตนเองต้องการหรือไม่ เพราะบ้างครั้งจะไม่ตรงกัน แต่หากมีการปรับปรุงใหม่นักลงทุนจะสามารถเลือกเวลาขายคืนได้ตามความต้องการ

“มันจะเป็นผลดีต่อนักลงทุน เพราะบ้างครั้งหากหุ้นขึ้นไปถึง 900 แต่นักลงทุนอยากขายก็ขายไม่ได้ แตพอบลจ.เปิดขายหุ้นมันดันตกมาอยู่ 700 เปรียบเทียบแบบนี้แล้วนักลงทุนก็จะขายหน่วยลงทุนไม่ได้ ซึ่งการขายได้ทุกวันมันจะดีกว่า แต่ต้องคำนวณเหมือนกันว่าจะขายช่วงไหนอย่างไร เพราะขายได้แค่ 2 ครั้งใน 1 ปีเช่นเดิม”นางวิวรรณกล่าว

นางวิวรรณ กล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ดังกล่าวคงจะไม่ผลต่อการขยายตัวของกองทุน LTF เท่าไร เนื่องจากนักลงทุนใหม่ที่ไม่เคยลงทุนกับกองทุนนี้คงจะไม่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น แต่น่าจะมีผลต่อนักลงทุนเดิมที่ลงทุนอยู่แล้วมากกว่า

อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ในครั้งนี้สำหรับบลจ.แล้วคงจะต้องมีการเตรียมความพร้อมพอสมควร เนื่องจากจะมีความซับซ้อนในด้านข้อมูล ซึ่งหากมีการซับเปลี่ยนหน่วยลงทุนมาจากบลจ.อื่นด้วยแล้วจะยิ่งให้รวบรวมข้อมูลได้ยากขึ้นว่า มีการขายหน่วยลงทุนไปบ้างแล้วหรือยัง
กำลังโหลดความคิดเห็น