บลจ.วรรณเป็นปลื้มเอ็นเอวี"ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ" ขยายตัวต่อเนื่อง เผยผลงานรอบ 11 เดือนแรกมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 3,266 ล้านบาท หรือโตเพิ่มกว่า 200% "สมจินต์" ตั้งเป้าใช้ประชาสัมพันธ์แบบการตลาดผสมผสานไปกับการให้ความรู้ดัน NAV พุ่งต่อเนื่อง เตรียมจัดโรดโชว์ฮ่องกงกันยายนนี้
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดหลังจากที่กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (ThaiDex SET50 Exchange Traded Fund : TDEX) ได้เปิดซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 หรือเมื่อประมาณ 11 เดือนก่อนนั้น ปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551 พบว่ากองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 3,266 ล้านบาท และมีหน่วยลงทุนประมาณ 684 ล้านหน่วย ซึ่งถือว่าเป็นการเจริญเติบโตจากช่วงเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010.98 ล้านบาท และมีมูลค่าที่ตราไว้ 5.6796 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 2,255 ล้านบาท หรือ 200%
"ผลการตอบรับที่ผ่านมา ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง โดยกองทุน TDEX ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างกว้างขวาง และเชื่อว่ากองทุนนี้มีโอกาสเจริญเติบโตต่อไปได้อีก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาอัตราการเจริญเติบโตของกองทุนหุ้นทุนติดลบค่อนข้างมาก ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยสื่อสารออกไป รวมทั้งพนักงานขาย (Marketing) ที่เห็นประโยชน์ว่ากองทุน TDEX มีความเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่เข้าลงทุนเริ่มต้นในตลาดหุ้นไทย และบางครั้งตลาดหุ้นมีความผันผวน การลงทุนในหุ้นตัวเดียว มีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษกว่าการลงทุนในกองทุนที่มีการกระจายการลงทุนไปในหุ้นประมาณ 50 ตัว ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ" นายสมจินต์ กล่าว
ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญบางท่าน ได้กล่าวว่าในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก การลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียวมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในกองดัชนี และกองทุน TDEX เป็นคำตอบได้ในระดับหนึ่ง และนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่มักจะนิยมเข้าไปลงทุนในประเทศอื่นผ่านทางกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) โดยล่าสุดมีสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติประมาณ 12%
นายสมจินต์ กล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมขยายฐานของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นใช้การประชาสัมพันธ์แบบการตลาดผสมผสานไปกับการให้ความรู้ (Education Marketing) โดยได้ร่วมมือกับโครงการ SET Click2WIN2008 : Thailand Stock Simulation ในการสนับสนุนให้นักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามารู้จักกองทุน TDEX มากขึ้น และมีการออกไปประชาสัมพันธ์ในเชิงให้ความรู้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) รวมทั้งการเขียนบทความให้ความรู้ อาทิ หนังสือ นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนต่างชาติ (Road Show) ที่ฮ่องกง ประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ เพื่อเพิ่มขนาดของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนอีก 200% หรือมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) เป็นกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) ที่เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วยและส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) และพยายามดำรงค่าความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอางอิง (tracking error) ไม่เกิน 1.0% ต่อปี
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดหลังจากที่กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (ThaiDex SET50 Exchange Traded Fund : TDEX) ได้เปิดซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 หรือเมื่อประมาณ 11 เดือนก่อนนั้น ปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551 พบว่ากองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 3,266 ล้านบาท และมีหน่วยลงทุนประมาณ 684 ล้านหน่วย ซึ่งถือว่าเป็นการเจริญเติบโตจากช่วงเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010.98 ล้านบาท และมีมูลค่าที่ตราไว้ 5.6796 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 2,255 ล้านบาท หรือ 200%
"ผลการตอบรับที่ผ่านมา ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง โดยกองทุน TDEX ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างกว้างขวาง และเชื่อว่ากองทุนนี้มีโอกาสเจริญเติบโตต่อไปได้อีก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาอัตราการเจริญเติบโตของกองทุนหุ้นทุนติดลบค่อนข้างมาก ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยสื่อสารออกไป รวมทั้งพนักงานขาย (Marketing) ที่เห็นประโยชน์ว่ากองทุน TDEX มีความเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่เข้าลงทุนเริ่มต้นในตลาดหุ้นไทย และบางครั้งตลาดหุ้นมีความผันผวน การลงทุนในหุ้นตัวเดียว มีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษกว่าการลงทุนในกองทุนที่มีการกระจายการลงทุนไปในหุ้นประมาณ 50 ตัว ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ" นายสมจินต์ กล่าว
ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญบางท่าน ได้กล่าวว่าในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก การลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียวมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในกองดัชนี และกองทุน TDEX เป็นคำตอบได้ในระดับหนึ่ง และนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่มักจะนิยมเข้าไปลงทุนในประเทศอื่นผ่านทางกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) โดยล่าสุดมีสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติประมาณ 12%
นายสมจินต์ กล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมขยายฐานของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นใช้การประชาสัมพันธ์แบบการตลาดผสมผสานไปกับการให้ความรู้ (Education Marketing) โดยได้ร่วมมือกับโครงการ SET Click2WIN2008 : Thailand Stock Simulation ในการสนับสนุนให้นักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามารู้จักกองทุน TDEX มากขึ้น และมีการออกไปประชาสัมพันธ์ในเชิงให้ความรู้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) รวมทั้งการเขียนบทความให้ความรู้ อาทิ หนังสือ นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนต่างชาติ (Road Show) ที่ฮ่องกง ประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ เพื่อเพิ่มขนาดของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนอีก 200% หรือมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) เป็นกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) ที่เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วยและส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) และพยายามดำรงค่าความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอางอิง (tracking error) ไม่เกิน 1.0% ต่อปี
