บลจ.ทหารไทยเตรียมขายหน่วยลงทุนของกองทุน ETF พลังงานครั้งแรก 21 - 28 ก.ค.51 ใช้ชื่อ "Mtrack Energy ETF" เผยตอนนี้รอ ก.ล.ต.ไฟเขียว พร้อมระบุฤกษ์เทรด 7 ส.ค.นี้ ด้าน "โชติกา" เชื่อเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุนรายย่อยทั้งระยะสั้นและระยะยาว เตรียมเดินหน้าโรดโชว์ 4 จังหวัดใหญ่เชียงใหม่-อุดรธานี-นครราชสีมา-หาดใหญ่
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุน Equity ETF ที่อ้างอิงดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคว่า บริษัทได้กำหนดวันเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวเป็นครั้งแรกในช่วงวันที่ 21-28 กรกฎาคม 2551 และกำหนดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 7 สิงหาคม 2551
ทั้งนี้ปัจจุบันกองทุน Equity ETF ที่อ้างอิงดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยใช้ชื่อว่า Mtrack Energy ETF และมีมูลค่าในการจัดตั้งเริ่มต้น 3,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าวด้วยในวงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท ซึ่งกองทุน Mtrack Energy ETF จะมีราคาพาร์เท่ากับดัชนีหลักทรัพย์หมวดพลังงานและสาธารณูปโภคหารด้วย 4,000
สำหรับกองทุน Mtrack Energy ETF มีนโยบายเข้าลงทุนในหุ้นหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค จำนวนประมาณ 10 บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง ซึ่งจะประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT , บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP , บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP , บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU , บริษัท ไออาร์ซีพี จำกัด (มหาชน) หรือ IRCP , บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR , บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH , บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO , บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO คิดเป็นประมาณ 97.5% ซึ่งกลุ่มหุ้นดังกล่าวสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับภาวะดัชนีในช่วงนั้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีกลุ่มดังกล่าว และทำให้เกิด tracking error น้อยที่สุด ซึ่งกองทุนนี้มีโอกาสรับเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี
“การจัดตั้ง ETF พลังงาน ช่วยนักลงทุนรายย่อยลดความเสี่ยง ไม่ว่าเป็นนักลงทุนแบบระยะสั้นหรือชอบลงทุนระยะยาวก็ลงทุนได้ คนที่อยากลงทุนในธุรกิจพลังงานก็มีทางเลือกมากขึ้น แทนที่จะเลือกลงทุนเป็นรายหลักทรัพย์ก็สามารถเลือกทั้งกลุ่มได้เพื่อกระจายความเสี่ยงและสามารถครอบคลุมราคาความเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์ในกลุ่มพลังงานได้ทั้งกลุ่ม โดยปัจจุบัน ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2551 มาร์เก็ตแคปของกลุ่มพลังงานอยู่ที่ประมาณ 36.11% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม หรือประมาณ 2.12 ล้านล้านบาท รวมทั้งมูลค่าการซื้อขายก็มีสภาพคล่องมาก จึงเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่ผู้ลงทุนอยากจะเลือกลงทุน” นางโชติกากล่าว
นางโชติกา กล่าวว่า คุณสมบัติที่โดดเด่นของกองทุน Mtrack Energy ETF คือ การนำข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมและการลงทุนในหุ้นมารวมกัน ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ตลอดทั้งวันและทราบราคาซื้อขายได้ตลอดเวลา (Real time) ทันทีเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น โดยจะมีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องในการทำหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าไปในตลาดในราคาที่ใกล้เคียงกับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ใกล้เคียงกับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากที่สุด นอกจากนี้กองทุนจะมีการประกาศประมาณการมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ทุก 15 วินาที ที่ www.tmbam.com เพื่อให้ผู้ลงทุนใช้ในการอ้างอิงในการซื้อขาย นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายกองทุนที่ต่ำเพียง 0.10%
ขณะเดียวกันบลจ.ทหารไทยจะมีการออกไปโรดโชว์ ใน 4 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ ประกอบด้วย เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา และหาดใหญ่ รวมทั้งในวันพุธที่ 9 กรกฎาคมนี้ บริษัทได้เตรียมจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุน Mtrack Energy ETF กับนักลงทุน ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ โดยผู้สนใจเข้าร่วมฟังสัมมนาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ บลจ. ทหารไทย โทร.1725
