บลจ.วรรณปลื้ม เอ็นเอวี "กองทุนไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ" ขยายตัวต่อเนื่อง เผยผลงานรอบ 9 เดือนแรก ขยับขึ้นมาแตะที่ระดับ 3,500 ล้านบาท จากช่วงไอพีโอเพียง 1,010.98 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรการเติบโตถึง 242% "สมจินต์" เผย เล็งเดินสายโรดโชว์ ฮ่องกงไตรมาส 3 พร้อมกับร่วมสนับสนุนกิจกรรม "SET Click2WIN2008" สร้าง "TDEX" เป็นที่รู้จัก ดันมูลค่าทรัพย์สินสุทธิขยับเป็นหมื่นล้าน
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) หลังจากที่ได้มีการเปิดซื้อขายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 หรือเมื่อประมาณ 9 เดือนก่อนนั้น มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นไปแตะที่ระดับ 3,500 ล้านบาท ล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 5 พฤษภาคม 2551 พบว่ากองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3,463.76 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) 5.8312 บาทต่อหน่วย จากช่วงเปิดไอพีโอที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010.98 ล้านบาท และมีมูลค่าที่ตราไว้ 5.6796 บาทต่อหน่วยหรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 2452.78 ล้านบาท หรือ 242% ขณะที่จำนวนนักลงทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4,000 ราย และในจำนวนนี้แบ่งออกเป็นนักลงทุนประเภทสถาบันทั้งในประเทศ และต่างประเทศประมาณ 55% นักลงทุนรายย่อยประมาณ 45% จากช่วงที่เปิดเสนตอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ที่มีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนใน TDEX เพียง 700 รายเท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทได้มีแผนในการประชาสัมพันธ์กองทุน โดยได้ให้การสนับสนุนโครงการ SET Click2WIN2008 : Thailand Stock Simulation การเขียนบทความให้ความรู้ อาทิ หนังสือ และร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต่างๆ ในการให้ความรู้ผ่านเจ้าหน้าที่ทางการตลาดด้วย นอกจากนี้ มีแผนจะไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนในต่างประเทศ (Road Show) ในฮ่องกง คาดว่าจะเริ่มไปโรดโชว์ในไตรมาส 3/2551 และเตรียมเพิ่มขนาดของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเป็น 10,000 ล้านบาทด้วย
สำหรับกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ เป็นกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) และพยายามดำรงค่าความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอางอิง (tracking error) ไม่เกิน 1.0% ต่อปี
นายสมจินต์ กล่าวว่า การลงทุนแบบแบ่งหมวดทรัพย์ (Asset Allocation) หรือการกระจายลงทุนตามประเภทหลักทรัพย์ต่างๆ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งกองทุน TDEX มีประโยชน์ต่อนักลงทุน โดยนักลงทุนไม่ต้องไปเลือกหุ้นเอง มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ยงต่ำ และจะมีการให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เมื่อนักลงทุนเห็นว่าการลงทุนในกองทุน TDEX ดีกว่าการเลือกหุ้นเอง ก็จะหันไปลงทุนในกองทุน TDEX มากขึ้นตามลำดับ เพราะว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า และจะเป็นที่ต้องการของนักลงทุน และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนมากขึ้น
ส่วนการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/1 (1FIXFIF1Y/1) โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม - 4 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าสามารถระดมทุนได้ 264 ล้านบาท สำหรับการตอบรับนับว่าเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นกองทุนแรกที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยจะลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ระดับ AA ขึ้นไป เกือบ 100% และคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควรประมาณ 4%
กองทุน 1FIXFIF1Y/1 เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และมีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้(Investment Grade) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และเงินลงทุน
ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝากในประเทศที่มีอายุของตราสารหรือสัญญาหรือระยะเวลาการฝากเงิน (แล้วแต่กรณี) ไม่เกิน 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต.
ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) หลังจากที่ได้มีการเปิดซื้อขายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 หรือเมื่อประมาณ 9 เดือนก่อนนั้น มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นไปแตะที่ระดับ 3,500 ล้านบาท ล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 5 พฤษภาคม 2551 พบว่ากองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3,463.76 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) 5.8312 บาทต่อหน่วย จากช่วงเปิดไอพีโอที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010.98 ล้านบาท และมีมูลค่าที่ตราไว้ 5.6796 บาทต่อหน่วยหรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 2452.78 ล้านบาท หรือ 242% ขณะที่จำนวนนักลงทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4,000 ราย และในจำนวนนี้แบ่งออกเป็นนักลงทุนประเภทสถาบันทั้งในประเทศ และต่างประเทศประมาณ 55% นักลงทุนรายย่อยประมาณ 45% จากช่วงที่เปิดเสนตอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ที่มีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนใน TDEX เพียง 700 รายเท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทได้มีแผนในการประชาสัมพันธ์กองทุน โดยได้ให้การสนับสนุนโครงการ SET Click2WIN2008 : Thailand Stock Simulation การเขียนบทความให้ความรู้ อาทิ หนังสือ และร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต่างๆ ในการให้ความรู้ผ่านเจ้าหน้าที่ทางการตลาดด้วย นอกจากนี้ มีแผนจะไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนในต่างประเทศ (Road Show) ในฮ่องกง คาดว่าจะเริ่มไปโรดโชว์ในไตรมาส 3/2551 และเตรียมเพิ่มขนาดของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเป็น 10,000 ล้านบาทด้วย
สำหรับกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ เป็นกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) และพยายามดำรงค่าความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอางอิง (tracking error) ไม่เกิน 1.0% ต่อปี
นายสมจินต์ กล่าวว่า การลงทุนแบบแบ่งหมวดทรัพย์ (Asset Allocation) หรือการกระจายลงทุนตามประเภทหลักทรัพย์ต่างๆ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งกองทุน TDEX มีประโยชน์ต่อนักลงทุน โดยนักลงทุนไม่ต้องไปเลือกหุ้นเอง มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ยงต่ำ และจะมีการให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เมื่อนักลงทุนเห็นว่าการลงทุนในกองทุน TDEX ดีกว่าการเลือกหุ้นเอง ก็จะหันไปลงทุนในกองทุน TDEX มากขึ้นตามลำดับ เพราะว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า และจะเป็นที่ต้องการของนักลงทุน และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนมากขึ้น
ส่วนการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/1 (1FIXFIF1Y/1) โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม - 4 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าสามารถระดมทุนได้ 264 ล้านบาท สำหรับการตอบรับนับว่าเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นกองทุนแรกที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยจะลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ระดับ AA ขึ้นไป เกือบ 100% และคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควรประมาณ 4%
กองทุน 1FIXFIF1Y/1 เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และมีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้(Investment Grade) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และเงินลงทุน
ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝากในประเทศที่มีอายุของตราสารหรือสัญญาหรือระยะเวลาการฝากเงิน (แล้วแต่กรณี) ไม่เกิน 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต.
ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
