xs
xsm
sm
md
lg

ขอเพิ่มกรอบไฟรเวตฟันด์ลุยตปท. เปิดช่องหาผลตอบแทนเฮจด์ฟันด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมบลจ. ยื่นหนังสือหารือสำนักงาน ก.ล.ต.ขอขยายกรอบการลงทุนต่างประเทศของกองทุนส่วนบุคคล เพิ่มช่องทางลุยหุ้นของประเทศที่อยู่นอกเหนือ IOSCO หาผลตอบแทนในหน่วยลงทุนของกองทุนเก็งกำไร และนอนรีเทลฟันด์ พร้อมเปิดโอกาสอ้างอิงดัชนีคอมมอดิตีรายตัว เชื่อนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ เหตุส่วนใหญ่มีความรู้การลงทุนเป็นอย่างดี

นางสาวดวงกมล พิศาล ผู้อำนวยการและเลขาธิการ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) เปิดเผยว่า สมาคมบลจ. ได้ทำหนังสือให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พิจารณาเพิ่มกรอบการลงทุนในตราสารต่างประเทศสำหรับการลงทุนของกองทุนส่วนบุคคล (ไฟรเวตฟันด์) ซึ่งเดิมที่ สำนักงานก.ล.ต. เองมีแนวคิดที่จะเพิ่มกรอบการลงทุนดังกล่าวอยู่แล้ว แต่การยื่นหนังสือไปในครั้งนี้ เพื่อให้สำนักงานพิจารณารวมไปเลยทีเดียว เพราะหากมีอะไรนอกเหนือกว่านั้น จะได้ไม่ต้องมาแก้ไขอีกครั้งภายหลัง

โดยสิ่งที่สมาคมบลจ. ขอไปนั้น ประกอบด้วย การกำหนดกรอบการลงทุนในแนวเดียวกับกองทุนรวมต่างประเทศ หากกองทุนรวมสามารถลงทุนอะไรได้ ก็ขอให้กองทุนส่วนบุคคลลงทุนได้ตามนั้นเช่นกัน นอกจากนั้น ยังขอขยายกรอบการลงทุนในหุ้นให้กว้างขึ้น โดยขอให้ใช้ระบบบริหารความเสี่ยงเดิมกับการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ ได้ เช่น หุ้นของประเทศอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือ IOSCO หน่วยลงทุนของกองทุนเก็งกำไร (เฮจด์ฟันด์) ด้วย รวมถึงนอนรีเทลฟันด์หรือกองทุนที่ไม่ได้เสนอขายให้บุคคลทั่วไปด้วย

ขณะเดียวกัน ยังได้ขอขยายกรอบการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมอดิตี) มากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนที่อ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนีสินค้าคอมมอดิตี ที่ขอให้เพิ่มตัวแปรสำหรับการอ้างอิงให้กว้างขึ้น เช่น ซอร์ฟคอมมอดิตี สินค้าเกษตร โลหะมีค่า แร่ธาตุ รวมถึงดัชนีสินค้าพลังงานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นถ่านหิน ก๊าสธรรมชาติ จากเดิมที่อนุญาตให้กองทุนสามารถลงทุนได้เพียงบางส่วนเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น ยังขอเพิ่มกรอบการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ อัตราแลกเปลี่ยน และ CDO CDS ด้วย

นางสาวดวงกมลกล่าวว่า การขยายกรอบการลงทุนดังกล่าว เป็นการเพิ่มช่องทางการลงทุนเฉพาะกองทุนส่วนบุคคลเท่านั้น เนื่องจากต้องการพัฒนาการลงทุนในต่างประเทศของกองทุนส่วนบุคคลให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจและข้อมูลการลงทุนที่กว้างกว่าผู้ลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป และที่สำคัญ สามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูงกว่าด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไปจะมีการขยายกรอบการลงทุนดังกล่าว รวมมาถึงกองทุนรวมด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสำนักงาน ก.ล.ต. เองว่า ต้องการเห็นกองทุนรวมพัฒนาและต้องการเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับนักลงทุนหรือไม่

“สิ่งที่เราเสนอไปทั้งหมดเป็นความต้องการร่วมกันของสมาชิก ซึ่งเดิมทีสำนักงานก.ล.ต. เองก็มีแนวคิดที่จะทำอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเสนอเขาไปด้วยว่าเราอยากได้อะไร สำนักงานจะได้พิจารณาไปในทีเดียว ไม่ต้องมาเปลี่ยนกฎทีหลัง ซึ่งการหารือดังกล่าวเป็นการหารือในเบื้องต้นเท่านั้น โดยหลังจากนี้ คงจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง”นางสาวดวงกมลกล่าว

ทั้งนี้ กรอบการลงทุนที่สำนักงานก.ล.ต. กำหนดให้กองทุนส่วนบุคคลสามารถออกไปลงทุนได้ เช่น หุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายใต้ IOSCO และหุ้นที่ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ภาครัฐ เอกชน หน่วยลงทุนของกองทุนรวมโดยกำหนดให้ลงทุนในหน่วยลงทุนที่ลงทุนโดยตรงในทองคำ แต่ต้องไม่ใช่หน่วยลงทุนของกองทุนเฮจด์ฟันด์ ธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่กำหนดตัวแปรเป็นหลักทรัพย์หรือดัชนีหลักทรัพย์ อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ทองคำ น้ำมันดิบ หรือดัชนีกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น

รายงานข่าวกล่าวว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดโอกาสให้กองทุนส่วนบุคคลสามารถออกไปลงทุนต่างประเทศได้ ปรากฏว่าล่าสุด ธปท. ได้อนุมัติวงเงินดังกล่าวแล้วประมาณ 160 วงเงิน ซึ่งวงเงินดังกล่าวรวมในส่วนที่มาจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบว่ามีการนำเงินออกไปลงทุนแต่อย่างใด โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องจากนักลงทุนอาจจะกังวลสถานการณ์การลงทุนในต่างประเทศที่ยังผันผวนอยู่ ขณะเดียวกัน วงเงินดังกล่าวยังไม่จำเป็นต้องออกไปลงทุนทันที เพราะมีกรอบกำหนดไว้ว่าต้องลงทุนภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติวงเงินแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น