xs
xsm
sm
md
lg

กรุงไทยเร่งเครื่อง"Wealth Plus" ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าลงทุนสม่ำเสมอ5000ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงไทยเร่งเครื่อง" Wealth Plus" ดันยอดออมผ่านกองทุนรวมLTF-RMF ด้วยการตัดบัญชีให้ได้ 5000 ราย จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 900 ราย พร้อมประเดิมขยายฐานลูกค้าจากองค์กรภายในที่เกี่ยวข้องกับแบงก์กรุงไทยก่อนด้วยการจัดงาน"สัปดาห์เพื่อการออมในอนาคต" ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-8 ส.ค.นี้ ระบุสถานการณ์ขณะนี้ถือเป็นจังหวะดีในการลงทุนLTF-RMF

นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ และการตลาด1 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เริ่มโครงการออมเงินเพื่ออนาคต Wealth Plus โดยการให้คำปรึกษาและคำนวณด้านการลงทุนให้กับลูกค้าของบริษัท ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมแล้วถึง 900 ราย จากที่บริษัทมีการตั้งเป้าผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 5,000 ราย

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าด้านการออมเพื่ออนาคต โดยจะมีการให้ความรู้แก่ลูกค้า พนักงานของธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือให้เห็นถึงความสำคัญด้านการออมเงินอย่างสม่ำเสมอผ่านกองทุน RMF และLTF มากขึ้น

“เราจะเริ่มให้พนักงานของแบงก์สนใจออมแบบตัดเป็นรายเดือนมากขึ้น และจะขยายไปตามสาขาต่างจังหวัด ร่วมถึงบริษัทในเครือ และลูกค้าของเรา โดยที่ผ่านมากการลงทุนใน LTF และ RMF ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในช่วงปลายปีเท่านั้น”นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การส่งเสริมโครงการนี้มิได้นำมาเพื่อรองรับ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ แต่บริษัทต้องการส่งเสริมการออมเงินเพื่ออนาคตมากกว่า โดยโครงการนี้จะมีการวางแผนคำนวณเงินลงทุนที่สามารถทำได้ ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการเงินออมไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณอย่างครบวงจร

โดยล่าสุด บริษัทได้เตรียมจัดงานสัปดาห์เพื่อการออมในอนาคตระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม- 1 สิงหาคมนี้ ณ Bank Hall อาคารสำนักงานนานเหนือ และระหว่างวันที่ 4-8 สิงหาคมนี้ ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาคารสุขุมวิท
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากกองทุน LTF และ RMF บริษัทจะมีการให้ความรู้กับนักลงทุนในกองทุนประเภทอื่นๆ ของบริษัทด้วยว่าจะเหมาะสมกับนักลงทุนอย่างไรบ้าง

“เรามีจะแนะนำการโปรดักซ์อื่นไปในตัว ซึ่งบางคนอาจรับความเสี่ยงได้น้อยเราก็มีกองมันนี่มาร์เก็ต และRMF ที่เป็นตราสารหนี้ให้เลือกลงทุน แต่ทีแนะนำให้ลงทุนผ่านกองทุนดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงนี้นับเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุน”นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า การประกาศใช้พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากในปีแรกนั้น คาดว่าประชาชนคงจะยังไม่ตื่นตัวมากนัก เพราะยังให้ความคุ้มครองเงินฝากเต็ม 100% แต่จะเริ่มเห็นผลในปีถัดไป ซึ่งจะให้คุ้มครองลดลงตามลำดับ โดยเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาในส่วนของกองทุนรวมระยะแรก น่าจะเป็นกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำ หรือกองทุนคุ้มครองเงินต้นก่อน

ทั้งนี้ ทางบริษัทมีกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเช่น กองทุนตลาดเงินเอาไว้รองรับอยู่แล้ว โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐมากขึ้น ส่วนกองทุนในลักษณะอื่นๆ ของบริษัทคงจะต้องดูความต้องการ พิจารณาสาถการณ์อีกครั้งหนึ่ง หลังจากกนี้

อนึ่ง นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของโครงการ Wealth Plus ว่า ตอนปลายปี 2550 ทางบลจ.มีโอกาสเข้าไปพบผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย จึงได้พูดคุยว่า เราอยากขยายฐานผู้ลงทุนในตลาดหุ้น เราจึงกลับมาดูว่ากองทุนไหนที่พร้อมทำโครงกล่าวดังกล่าวรวมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ

หลังจากนั้น เรากลับมาดูว่ากองทุนไหนพร้อมที่สุด ซึ่งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เเละกองทุนรวมหุ้นระยะยาว( LTF) น่าจะเหมาะที่สุด เพราะทั้ง 2 กองทุนเป็นกองทุนที่ลงทุนระยะยาวที่สำคัญการลงทุนในรูปแบบดังกล่าวเป็นการออมเพื่อวัยเกษียณ์ โดยเราเริ่มโครงการ Wealth Plus กับพนักงานในเครือ กรุงไทย ก่อน

"สิ่งที่เราทำต่อมาคือ ขยายฐานลูกค้า จากพนักงานในเครือกรุงไทย เป็นผู้ที่ลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบลจ.กรุงไทย ก็ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี เนื่องจาก Wealth Plus ตัดบัญชีขั้นต่ำเพียง 500 บาทเท่านั้น ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการก็คิดว่า Wealth Plus เหมือนเป็นการออมเงินอย่างหนึ่ง"
กำลังโหลดความคิดเห็น