กองทุนอีทีเอฟพลังงาน "MTrack Energy ETF" ปิดยอดไอพีโอได้ตามเป้าที่ 308.6 ล้านบาท ด้าน "โชติกา" ชี้ปัจจัยลบภายใน-นอกประเทศทำหุ้นผันผวน แนะนำใช้กลยุทธ์ "ทยอยซื้อ" ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของดัชนี เตรียมเข็นเข้าจดทะเบียนทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 7 สิ.ค.นี้
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงยอดขายของกองทุน MTrack Energy ETF ซึ่งได้มีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรกในระหว่างวันที่ 21-28 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมาว่า กองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมียอดจองซื้อเข้ามาถึง 308.6 ล้านบาท ซึ่งจำนวนยอดจองดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทคาดไว้ว่าจะระดมทุนได้ในช่วงเปิดเสนอขายครั้งแรกประมาณ 300 ล้านบาท
ทั้งนี้มั่นใจว่ากองทุน MTrack Energy ETF จะสามารถเป็นทางเลือกที่ดีให้กับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากเป็นช่องทางลงทุนในการกระจายความเสี่ยงในหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงถึง 10 บริษัท
สำหรับกองทุนMTrack Energy ETF นั้น มีราคาพาร์ที่ 4.1088 บาท เกิดมาจากการคำนวนด้วยดัชนีหลักทรัพย์หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2551 หารด้วย 4,000 ทำให้มีจำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น 75 ล้านหน่วย โดยบริษัทจะทำการโอนหน่วยเข้าบัญชีกองทุนให้ลูกค้าได้ในวันที่ 4 สิงหาคม 2551 นี้ขณะเดียวกันจะโอนเงินทอนซึ่งเหลือจากการลงทุนเข้าในบัญชีลูกค้าต่อไป
อย่างไรก็ตามปัจจุบันปัจจัยกดดันทั้งจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ ส่งผลทำให้การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงมีความผันผวนสูง ดังนั้นผู้ลงทุนที่จะลงทุนในกองทุน MTrack Energy ETF ควรจะต้องสามารถรับความผันผวนของตลาดได้ ขณะที่ผู้ลงทุนอาจจะใช้กลยุทธ์การทยอยซื้อเพื่อลดความเสี่ยงของความผันผวนของตลาด โดยผู้สนใจสามารถเข้าซื้อขาย MTrack Energy ETF อีกครั้งได้เมื่อบริษัทนำกองทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 สิงหาคม 2551
"ส่วนตัวมองว่าทิศทางของหุ้นกลุ่มพลังงานจะมีแนวโน้มที่ดีและกองทุนจะสามารถขยายตัวได้ในระยะยาว โดยบริษัทได้จดทะเบียนกองทุนเพื่อรองรับไว้มูลค่ารวมถึง 3,000 ล้านบาทด้วยกัน" นางโชติกา กล่าว
กองทุน Mtrack Energy ETF เป็นกองทุน Equity ETF ที่อ้างอิงดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคมีมูลค่าในการจัดตั้งเริ่มต้น 3,000 ล้านบาท โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าวด้วยในวงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท ซึ่งกองทุน Mtrack Energy ETF จะมีราคาพาร์เท่ากับดัชนีหลักทรัพย์หมวดพลังงานและสาธารณูปโภคหารด้วย 4,000
สำหรับกองทุนมีนโยบายเข้าลงทุนในหุ้นหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค จำนวนประมาณ 10 บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง ซึ่งจะประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT , บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP , บมจ. ไทยออยล์ หรือ TOP , บมจ.บ้านปู หรือ BANPU , บมจ.ไออาร์ซีพี หรือ IRCP , บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น หรือ PTTAR , บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง หรือ RATCH , บมจ.ผลิตไฟฟ้า หรือ EGCO , บมจ.โกลว์ พลังงาน หรือ GLOW และบมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ ESSO คิดเป็นประมาณ 97.5% ซึ่งกลุ่มหุ้นดังกล่าวสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับภาวะดัชนีในช่วงนั้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีกลุ่มดังกล่าว และทำให้เกิด tracking error น้อยที่สุด ซึ่งกองทุนนี้มีโอกาสรับเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี
ก่อนหน้านี้นางโชติกา กล่าวว่า กองทุน Mtrack Energy ETF นับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยตอนนี้กลุ่มพลังงานมี PE อยู่ที่ระดับประมาณ 9 -10 เท่า ยกเว้นบางตัวที่อาจจะมีระดับ PE ที่สูงกว่านั้น แต่โดยรวมยังนับว่าเป็นระดับราคาที่ถูกมาก และเป็นระดับที่ดีกว่า SET 50 ซึ่งทางบริษัทได้ประมาณการณ์ผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวที่ 4% ต่อปี และจะพยายามจ่ายปันผลทุกไตรมาสเมื่อมีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง และไม่สามารถประมาณได้ว่าจุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนควรอาศัยจังหวะการทยอยซื้อ
ทั้งนี้ข้อดีของกองทุนคือเป็นทางเลือกเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนมากกว่าการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ รวมไปถึงยังสามารถทำการซื้อขายหน่วยลงทุนได้ตลอดทั้งวันและทราบราคาซื้อขายได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันการลงทุนผ่านกองทุนยังมีระดับราคาที่ต่ำกว่าการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีระดับราคาที่สูงกว่ามากและค่าธรรมเนียมในการซื้อขายยังต่ำกว่าค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์โดยปกติอีกด้วย