บลจ. ธนชาต ประกาศจ่ายปันผลกองทุนเปิด “ธนสาร” ในอัตรา 0.21 บาทต่อหน่วย ผู้ถือหน่วยเฮรับพร้อมกัน 31 ก.ค. นี้ ขณะเดียวกันเปิดขาย กองทุนเปิด “ธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/4” อีกครั้งวันนี้ (24 ก.ค.) เพิ่มทางเลือกลงทุนพันธบัตรรัฐบาล
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดธนสาร (TSARN) มีมติในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาจ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่17/2551 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 ให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ในอัตราหน่วยละ 0.21 บาท โดยกำหนดให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ปรากฎในวันและเวลาปิดสมุดทะเบียนดังกล่าวในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551
ทั้งนี้กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2551 ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.46% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -6.11% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.63% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.95% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 3.78% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 0.58% ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 3.96% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.91% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.74% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 3.18% ส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิหรือเอ็นเอวีอยู่ที่ 904.40 ล้านบาท และมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.38 บาทต่อหน่วย
นอกจากนี้ กองทุน TSARN มีสัดส่วนในการลงทุน ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2551 ดังนี้ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 78.65% หุ้นกู้ภาคเอกชน 9.09% หุ้นกู้สถาบันการเงิน 4.49% พันธบัตรรัฐบาลที่ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง 1.04% ตั๋วสัญญาใช้เงิน 3.33% ตั๋วเเลกเงิน 3.30% ส่วนผู้ออกหลักทรัพย์ที่องทุนเข้าไปลงทุน 5 อันดับแรก ที่เข้าไปลงทุนในหุ้นกู้และพันธบัตร ประกอบด้วย 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย 78.65% 2. บริษัทเงินทุน เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) 4.49% 3. บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) 4.04% 4. บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 3.41% , 5. กระทรวงการคลัง 1.04% ส่วนตั๋วแลกเงิน กองทุนเข้าไปลงทุนใน บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3.30% และในส่วนของเงินฝากและอื่นๆ กองทุนได้เข้าไปลงทุนใน บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด 3.33% , ธนาคารคาลิยง 2.67% และบริษัท เงินทุนทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 0.48%
สำหรับการจ่ายเงินปันผลนั้น กองทุนได้ทำการจ่ายเงินปันผลไปเเล้วทั้งสิ้น 8 ครั้ง โดยครั้งเเรกจ่ายปันผลที่ 0.10 บาท ครั้งที่ 2 ปันผลที่ 0.14 บาท ครั้งที่ 3 ปันผลที่ 0.07 บาท ครั้งที่ 4 ปันผลอยู่ที่ 0.065 บาท ครั้งที่ 5 ปันผลในอัตราที่ 0.14 บาท ครั้งที่ 6 ปันผลในอัตราละ0.30 บาท ครั้งที่ 7 ปันผลอยู่ที่ 0.20 บาท เเละครั้งที่ 8 ปันผลอยู่ที่อัตราละ 0.30 บาท
ขณะเดียวกัน บลจ. ธนชาต จะเปิดขาย กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มทครองเงินต้น 3M/4 (TGOV3M4) อีกครั้งในวันที่ 24 กรกฏาคม 2551 ซึ่งกองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลังพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรองผู้รับอาวัลหรือผู้ค้ำประกัน โดยจะลงทุนใน ตราสารแห่งหนี้ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับรอบระยะเวลาที่เปิดขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) และเมื่อครบ กำหนดอายุของตราสารดังกล่าว กองทุนจะได้รับ เงินคืนอย่างน้อยเท่ากับมูลค่าตามราคาหน้าตั๋วของตราสารที่ได้ลงทุนนั้นโดนี้จะมีสัดส่วนลงทุนในพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 67.76% เเละพันธบัตรรัฐบาล ที่ค่ำประกันโดยกระทรวงการคลัง 32.25%
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดธนสาร (TSARN) มีมติในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาจ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่17/2551 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 ให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ในอัตราหน่วยละ 0.21 บาท โดยกำหนดให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ปรากฎในวันและเวลาปิดสมุดทะเบียนดังกล่าวในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551
ทั้งนี้กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2551 ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.46% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -6.11% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.63% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -1.95% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 3.78% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 0.58% ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 3.96% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.91% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.74% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 3.18% ส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิหรือเอ็นเอวีอยู่ที่ 904.40 ล้านบาท และมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.38 บาทต่อหน่วย
นอกจากนี้ กองทุน TSARN มีสัดส่วนในการลงทุน ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2551 ดังนี้ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 78.65% หุ้นกู้ภาคเอกชน 9.09% หุ้นกู้สถาบันการเงิน 4.49% พันธบัตรรัฐบาลที่ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง 1.04% ตั๋วสัญญาใช้เงิน 3.33% ตั๋วเเลกเงิน 3.30% ส่วนผู้ออกหลักทรัพย์ที่องทุนเข้าไปลงทุน 5 อันดับแรก ที่เข้าไปลงทุนในหุ้นกู้และพันธบัตร ประกอบด้วย 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย 78.65% 2. บริษัทเงินทุน เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) 4.49% 3. บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) 4.04% 4. บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 3.41% , 5. กระทรวงการคลัง 1.04% ส่วนตั๋วแลกเงิน กองทุนเข้าไปลงทุนใน บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3.30% และในส่วนของเงินฝากและอื่นๆ กองทุนได้เข้าไปลงทุนใน บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด 3.33% , ธนาคารคาลิยง 2.67% และบริษัท เงินทุนทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 0.48%
สำหรับการจ่ายเงินปันผลนั้น กองทุนได้ทำการจ่ายเงินปันผลไปเเล้วทั้งสิ้น 8 ครั้ง โดยครั้งเเรกจ่ายปันผลที่ 0.10 บาท ครั้งที่ 2 ปันผลที่ 0.14 บาท ครั้งที่ 3 ปันผลที่ 0.07 บาท ครั้งที่ 4 ปันผลอยู่ที่ 0.065 บาท ครั้งที่ 5 ปันผลในอัตราที่ 0.14 บาท ครั้งที่ 6 ปันผลในอัตราละ0.30 บาท ครั้งที่ 7 ปันผลอยู่ที่ 0.20 บาท เเละครั้งที่ 8 ปันผลอยู่ที่อัตราละ 0.30 บาท
ขณะเดียวกัน บลจ. ธนชาต จะเปิดขาย กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มทครองเงินต้น 3M/4 (TGOV3M4) อีกครั้งในวันที่ 24 กรกฏาคม 2551 ซึ่งกองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลังพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรองผู้รับอาวัลหรือผู้ค้ำประกัน โดยจะลงทุนใน ตราสารแห่งหนี้ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับรอบระยะเวลาที่เปิดขายหน่วยลงทุน (ประมาณ 3 เดือน) และเมื่อครบ กำหนดอายุของตราสารดังกล่าว กองทุนจะได้รับ เงินคืนอย่างน้อยเท่ากับมูลค่าตามราคาหน้าตั๋วของตราสารที่ได้ลงทุนนั้นโดนี้จะมีสัดส่วนลงทุนในพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ 67.76% เเละพันธบัตรรัฐบาล ที่ค่ำประกันโดยกระทรวงการคลัง 32.25%