xs
xsm
sm
md
lg

สินเชื่อแบงก์พ.ค.เพิ่ม8หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งสินเชื่อ-เงินฝากแบงก์เดือนพ.ค. มียอดเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 1.51% และเพิ่มขึ้น 10.56%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินเชื่อธนาคารขนาดใหญ่-เล็กยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารขนาดกลาง 2 แห่ง "ทหารไทย-นครหลวงไทย"ยังมียอดสินเชื่อลดลง และหากเทียบสิ้นปี 50 มีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 3 แสนล้าน หรือเพิ่มขึ้น 5.88%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานตัวเลขสินเชื่อ เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2551 โดยยอดคงค้างสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย เดือนพฤษภาคม 2551 มีจำนวน 5,459,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 81,205 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มร้อยละ 1.51 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.56

สำหรับการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง มีสินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 70,603 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.99 นำโดยธนาคารกรุงเทพมีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 32,848 ล้านบาทตามลำดับ ตามมาด้วยธนาคารกรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ จำนวน 14,248 14,001 และ 9,506 ล้านบาทตามลำดับ

ขณะที่กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่ง สินเชื่อรวมปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า 7,110 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 0.65 จากการลดลงของสินเชื่อธนาคารทหารไทยจำนวน 7,162 ล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทย มีสินเชื่อลดลงจำนวน 965 ล้านบาท ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1,018 ล้านบาท

และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่ง สินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 17,711 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.39 โดยกระจายไปยังแทบทั้งกลุ่ม นำโดยธนาคารธนชาต และยูโอบี มีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 5,867 และ 4,532 ล้านบาท ตามมาด้วยธนาคารเกียรตินาคิน ทิสโก้ และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย มีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 2,537 2,010 และ 1,958 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนธนาคารสินเอเซีย และไทยธนาคารไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2550 จะพบว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมียอดสินเชื่อ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 เพิ่มขึ้นจำนวน 303,122 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.88 นำโดยการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อที่กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก จำนวน 225,747 และ 58,531 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มธนาคารขนาดกลางมีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 18,845 ล้านบาท

ด้านเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเดือนพฤษภาคม 2551 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 6,271,537 ล้านบาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว 17,955 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 0.29 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.87 โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง เงินฝากปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 5,306 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.13 ตามการลดลงของเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำนวน 17,775 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย มีเงินฝากเพิ่มขึ้นจำนวน 7,604 3,608 และ 1,257 ล้านบาทตามลำดับ

กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่ง เงินฝากเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 6,458 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.48 จากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 21,983 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารทหารไทย และนครหลวงไทย มีเงินฝากลดลง 14,327 และ1,199 ล้านบาทตามลำดับ

และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่ง เงินฝากลดลงจากเดือนที่แล้ว จำนวน 19,107 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 2.41 ซึ่งเป็นการลดลงทั้งกลุ่ม นำโดยธนาคารไทยธนาคาร สินเอเซีย และทิสโก้ จำนวน 5,241 3,934 และ 3,897 ล้านบาทตามลำดับ ตามมาด้วยธนาคารยูโอบี และเกียรตินาคิน มีเงินฝากลดลง 2,917 และ 2,532 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย และธนชาต ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2550 จะพบว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมียอดเงินฝาก ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 เพิ่มขึ้นจำนวน 342,790 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.78 สูงกว่าการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อสุทธิประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนสภาพคล่องในระบบการเงินที่ยังเพียงพอต่อความต้องการสินเชื่อ

ทั้งนี้ เงินฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ จะมาจากกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่จำนวน 249,833 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคารขนาดเล็กจำนวน 48,973 ล้านบาท และกลุ่มธนาคารขนาดกลางจำนวน 43,984 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น