ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยยอดสินเชื่อธนาคารพาณิชย์สิ้นเดือน ม.ค. 2551 เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค. 2550 เพียงร้อยละ 0.01
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานตัวเลขสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ของไทย ณ วันที่ 31 ม.ค.2551 ว่า ยอดคงค้างสินเชื่อ (หักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้ว) มีจำนวน 5,156,711 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2550 จำนวน 618 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.01 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 6.59 โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง สินเชื่อปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 6,974 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.21 ตามการลดลงของสินเชื่อธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 23,877 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารอื่นในกลุ่มมีสินเชื่อเพิ่มขึ้น นำโดยธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย จำนวน 7,348 ล้านบาท และ 6,177 ล้านบาทตามลำดับ ตามมาด้วยธนาคารกรุงเทพ มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 3,378 ล้านบาท
ขณะที่กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่ง สินเชื่อรวมปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า 1,954 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.18 จากการลดลงของสินเชื่อธนาคารทหารไทย จำนวน 4,039 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารนครหลวงไทย มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 1,838 ล้านบาท และ 247 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่ง สินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 9,546 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.36 จากการเพิ่มของสินเชื่อธนาคารธนชาต ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย ธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารทิสโก้ จำนวน 5,579 ล้านบาท 4,179 ล้านบาท 2,785 ล้านบาท และ 1,113 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ธนาคารยูโอบี ธนาคารไทยธนาคาร และธนาคารสินเอเซีย มีสินเชื่อลดลงจำนวน 2,088 ล้านบาท 1,553 ล้านบาท และ 469 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเดือน ม.ค. 2551 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 6,043,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 115,246 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 1.94 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนเพียงร้อยละ 0.69 โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง เงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 39,306 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.01 จากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย จำนวน 40,922 ล้านบาท และ 7,268 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ มีเงินฝากลดลง 6,211 ล้านบาท และ 2,672 ล้านบาทตามลำดับ
โดยกลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่ง เงินฝากเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 24,369 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.88 นำโดยธนาคารนครหลวงไทย จำนวน 18,646 ล้านบาท และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 6,810 ล้านบาท ส่วนธนาคารทหารไทย มีเงินฝากลดลง 1,087 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่ง เงินฝากเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว จำนวน 51,571 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.10 นำโดยธนาคารธนชาต และธนาคารทิสโก้ มีเงินฝากเพิ่มขึ้น 23,015 ล้านบาท และ 16,238 ล้านบาท ตามมาด้วยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย ธนาคารยูโอบี และธนาคารเกียรตินาคิน มีเงินฝากเพิ่มขึ้น 8,807 ล้านบาท 7,111 ล้านบาท และ 2,864 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ธนาคารไทยธนาคาร และธนาคารสินเอเซีย มีเงินฝากลดลงจำนวน 4,048 ล้านบาท และ 2,415 ล้านบาทตามลำดับ
สำหรับสินทรัพย์รวมในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ วันที่ 31 ม.ค. 2551 มีจำนวน 7,772,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 26,302 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.34 นำโดยธนาคารกรุงไทย มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นสูงสุดจำนวน 51,283 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ มีสินทรัพย์รวมลดลง 32,629 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานตัวเลขสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ของไทย ณ วันที่ 31 ม.ค.2551 ว่า ยอดคงค้างสินเชื่อ (หักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้ว) มีจำนวน 5,156,711 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2550 จำนวน 618 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.01 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 6.59 โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง สินเชื่อปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 6,974 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.21 ตามการลดลงของสินเชื่อธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 23,877 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารอื่นในกลุ่มมีสินเชื่อเพิ่มขึ้น นำโดยธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย จำนวน 7,348 ล้านบาท และ 6,177 ล้านบาทตามลำดับ ตามมาด้วยธนาคารกรุงเทพ มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 3,378 ล้านบาท
ขณะที่กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่ง สินเชื่อรวมปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า 1,954 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.18 จากการลดลงของสินเชื่อธนาคารทหารไทย จำนวน 4,039 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารนครหลวงไทย มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นจำนวน 1,838 ล้านบาท และ 247 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่ง สินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 9,546 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.36 จากการเพิ่มของสินเชื่อธนาคารธนชาต ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย ธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารทิสโก้ จำนวน 5,579 ล้านบาท 4,179 ล้านบาท 2,785 ล้านบาท และ 1,113 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ธนาคารยูโอบี ธนาคารไทยธนาคาร และธนาคารสินเอเซีย มีสินเชื่อลดลงจำนวน 2,088 ล้านบาท 1,553 ล้านบาท และ 469 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเดือน ม.ค. 2551 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 6,043,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 115,246 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 1.94 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนเพียงร้อยละ 0.69 โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง เงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 39,306 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.01 จากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย จำนวน 40,922 ล้านบาท และ 7,268 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ มีเงินฝากลดลง 6,211 ล้านบาท และ 2,672 ล้านบาทตามลำดับ
โดยกลุ่มธนาคารขนาดกลาง 3 แห่ง เงินฝากเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 24,369 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.88 นำโดยธนาคารนครหลวงไทย จำนวน 18,646 ล้านบาท และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 6,810 ล้านบาท ส่วนธนาคารทหารไทย มีเงินฝากลดลง 1,087 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 7 แห่ง เงินฝากเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว จำนวน 51,571 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.10 นำโดยธนาคารธนชาต และธนาคารทิสโก้ มีเงินฝากเพิ่มขึ้น 23,015 ล้านบาท และ 16,238 ล้านบาท ตามมาด้วยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย ธนาคารยูโอบี และธนาคารเกียรตินาคิน มีเงินฝากเพิ่มขึ้น 8,807 ล้านบาท 7,111 ล้านบาท และ 2,864 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ธนาคารไทยธนาคาร และธนาคารสินเอเซีย มีเงินฝากลดลงจำนวน 4,048 ล้านบาท และ 2,415 ล้านบาทตามลำดับ
สำหรับสินทรัพย์รวมในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ณ วันที่ 31 ม.ค. 2551 มีจำนวน 7,772,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 26,302 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.34 นำโดยธนาคารกรุงไทย มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นสูงสุดจำนวน 51,283 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ มีสินทรัพย์รวมลดลง 32,629 ล้านบาท