xs
xsm
sm
md
lg

หาโอกาสสร้างกำไรจากน้ำมัน ลงทุน"ไอเอ็นจีไทยดับบลิวทีไอออยล์ลิงค์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทุกวันนี้ เลี้ยวรถเข้าปั้มเติมน้ำมันแต่ละครั้ง นอกจากจะต้องดูเงินในกระเป๋าให้ดีแล้ว ยังต้องคำนวนด้วยว่าปริมาณน้ำมันที่เติมเพียงพอที่จะใช้ได้สักกี่วัน เพราะราคาน้ำมันเรียกได้ว่าปรับเป็นรายวัน ซึ่งสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตในอัตราที่น่ากลัว อย่างประเทศจีนและอินเดีย

นอกจากนี้จากวิกฤตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่เกิดขึ้นในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ยังส่งผลทำให้กองทุนเก็งกำไร (เฮดจ์ฟันด์) บางส่วนที่เคยเก็งกำไรอยู่ในตลาดบ้านราคาถูก ต้องเปลี่ยนวิธีการหากำไร และเข้ามาเก็งกำไรในราคาน้ำมันแทน ไม่รวมกับภาวะความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศแถบตะวันออกกลางที่เป็นผู้ค้าน้ำมันคนสำคัญ ก็เป็นอีกปัจจัยเร่งที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส เมื่อสถานการณ์ราคาน้ำมันยังไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลายได้ง่ายๆ ทำไมเราจึงไม่แสวงหาผลตอบแทนจากปัญหาดังกล่าว วันนี้ " Mutalfund IPO" ขอแนะนำกองทุนใหม่ล่าสุดที่พลิกวิกฤตปัญหาราคาน้ำมันแพงให้กลายเป็นโอกาสในการลงทุน นั้นคือ "กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทยดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์" ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 22-29 กรกฎาคม 2551 (วันที่ดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)

กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทยดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ เป็นกองทุนตราสารแห่งหนี้ที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)โดยตราสารดังกล่าวมีผลตอบแทนอ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (NYMEX WTI Crude Oil) หรือ CL1 ที่เพิ่มขึ้น และกองทุนเป็นกองทุนตราสารแห่งหนี้ที่ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง แบบคุ้มครองเงินต้น 100% ในสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ณ ขณะที่ลงทุนอยู่ใน 2 อันดับแรกของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะพิจารณาระดับราคาน้ำมันเพื่อทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติและยกเลิกกองทุนเมื่อราคาน้ำมันของเวสต์เท็กซัสมีการเพิ่มขึ้นถึงระดับที่กำหนดไว้ที่ 6% นับจากวันที่ลงทุน โดยกองทุนได้กำหนดเงื่อนไขในการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติและยกเลิกกองทุน คือ ถ้าราคาน้ำมันของเวสต์เท็กซัสมีการปรับตัวขึ้นมาเท่ากับหรือมากกว่า 6% ของราคาน้ำมันในช่วงเริ่มต้นลงทุน ณ ประมาณเดือนที่ 6 ของการลงทุน กองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนและทำการปิดกองทุน โดยผู้ออกตราสารจะชำระคืนเงินต้น 100% บวกกับผลตอบแทนในอัตรา 5% ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย

โดยถ้าราคาน้ำมันของเวสต์เท็กซัสมีการปรับตัวขึ้นมาเท่ากับหรือมากกว่า 6% ของราคาน้ำมันในช่วงเริ่มต้นลงทุน ณ ประมาณเดือนที่ 12 ของการลงทุน กองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนและทำการปิดกองทุน โดยผู้ออกตราสารจะชำระคืนเงินต้น 100% บวกกับผลตอบแทนในอัตรา 10% ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย และถ้าราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาเท่ากับหรือมากกว่า 6% ของราคาน้ำมันในช่วงเริ่มต้นลงทุน ณ ประมาณเดือนที่ 18 กองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนและทำการปิดกองทุน โดยผู้ออกตราสารจะชำระคืนเงินต้น 100% บวกกับผลตอบแทนในอัตรา 15% ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย

ขณะเดียวกันถ้าราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาเท่ากับหรือมากกว่าระดับที่กำหนด ณ ประมาณเดือนที่ 24 ของการลงทุน กองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนและทำการปิดกองทุน โดยผู้ออกตราสารจะชำระคืนเงินต้น 100% บวกกับผลตอบแทนในอัตรา 20% ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย และถ้าภายใน 24 เดือน ราคาน้ำมันไม่มีการปรับตัวขึ้นตามระดับที่กำหนดไว้ ผู้ออกตราสารจะชำระคืนเงินต้นทั้งหมดในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
จุมพล สายมาลา
จุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวแนะนำกองทุนว่า สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทยดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ ผู้ลงทุนจะมีโอกาสลงทุนทั้งจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันและการแข็งค่าของค่าเงินออสเตรเลีย ซึ่งจากการทำสถิติย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2544 - 26 พฤษภาคม 2549 ที่เป็นข้อมูลล่าสุด เพราะกองทุนนี้มีระยะเวลาการลงทุน 2 ปี พบว่า ผู้ลงทุนประมาณ 68.15% จะได้รับผลตอบแทนภายใน 6 เดือน , ผู้ลงทุนประมาณ 14.44% ได้รับผลตอบแทนภายใน 12 เดือน , ผู้ลงทุนประมาณ 14.33% ได้ผลตอบแทนภายใน 18 เดือน , ผู้ลงทุนประมาณ 2.91% ได้ผลตอบแทนภายใน 24 เดือน และมีผู้ลงทุนเพียงประมาณ 0.16% เท่านั้น ที่ไม่ได้รับผลตอบแทนแต่ได้เงินต้นคืน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผู้ลงทุนประมาณ 99.83% มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

นอกจากนี้ปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกมากกว่าการเข้ามาเก็งกำไรของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยปัจจุบันความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก 30% เกิดมาจากภาคการขนส่ง แม้ว่าจะมีการรณรงค์ให้ประหยัดการใช้พลังงานมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถลดการใช้ได้อย่างรวดเร็วในระยะสั้น ในขณะที่ปัญหาทางการเมืองของประเทศผู้ค้าน้ำมันหลายประเทศก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันเช่นเดียวกัน

"ตอนนี้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจของโลก มากกว่าเพิ่มจากการเก็งกำไร ดังนั้นเชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะสามารถปรับตัวได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าว

ทั้งนี้ ยอมรับว่ากองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทยดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิงค์ อาจจะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตามแนวโน้มของอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันนั้น ค่าเงินออสเตรเลียมีการแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 8% เมื่อเทียบกับค่าเงินบาทของไทย และคาดว่าในระยะยาวค่าเงินออสเตรเลียน่าจะยังคงแข็งค่าขึ้นอีก เพราะดอกเบี้ยของประเทศออสเตรเลียอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทำให้เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยคงจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ประเทศออสเตรเลียยังเป็นประเทศที่ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งตอนนี้ราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทำให้เชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการลงทุนของกองทุนเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น