xs
xsm
sm
md
lg

กองSET50แพ้ภัยหุ้นบิ้กแคปผันผวน ผลตอบแทนครึ่งปีแรกตามหลังเซทดินเด็กซ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุนหุ้นที่ลงทุนใน SET 50 ครึ่งปีแรกผลตอบแทนต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX ที่ให้ยิลด์ -10.43% นำโดย "เอ็มเอฟซี SET 50" ที่ผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -11.17% ขณะที่ "ทหารไทย SET50 ปันผล " รองลงมาให้ยิลด์ -10.88%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 ภาวะการลงทุนโดยรวมในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ค่อนข้างจะประสบกับความผันผวนอย่างมาก เนื่องมาจากปัจจัยกดดันจากภายในและภายนอกประเทศ ภาพรวมดัชนีปรับตัวลดลง โดยดัชนีปิดไตรมาส 2 ที่ระดับ 768.59 จุด ลดลงจากดัชนีเปิดปีที่ 858.10 จุด และการลงทุนในตลท.ช่วงครึ่งปีแรกให้ผลตอบแทน - 10.43% อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนใน SET Index จะให้ผลตอบแทนติดลบ แต่ถ้ามองเปรียบเทียบกับการลงทุนในดัชนี SET 50 ซึ่งเป็นดัชนีที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ 50 ตัวที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูง การซื้อขายมีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ จะพบว่าการลงทุนใน SET 50 ในช่วงครึ่งปีแรกกลับให้ผลตอบแทนติดลบ 12.97% ซึ่งเป็นระดับที่น้อยกว่าการลงทุนใน SET Index

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่าหลายฝ่ายมักจะประมาณการลงทุนใน SET 50 ว่าน่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนใน SET Index เนื่องมาจากเป็นการเน้นลงทุนผ่านหุ้นที่มีมูลค่าตลาดและมีสภาพคล่องสูง แต่ในภาวะหุ้นที่เกิดความผันผวนเช่นปัจจุบัน ประกอบกับแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่มักจะเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว น่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลทำให้ดัชนี SET 50 เกิดการปรับตัวลดลงมากกว่าดัชนี SET Index

ขณะเดียวกันจากการรวบรวมข้อมูลผลตอบแทนกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุน (กองทุนหุ้น) สิ้นสุดประจำไตรมาส 2 (30 มิถุนายน) ปี 2551 ซึ่งจัดทำโดย LIPPER พบว่ากองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน SET 50 จำนวนรวม 7 กองทุน ส่วนใหญ่สามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่น้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -10.43%

โดยกองทุนที่ให้ผลตอบแทนน้อยที่สุดคือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี SET 50 (M-S50) กองทุนภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (จำกัด) มหาชน ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลท.เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับ SET 50 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -11.17% น้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX จำนวน 0.74% , รองลงมาคือ กองทุนเปิดทหารไทย SET50 ปันผล (TMB SET 50 Divident) ที่มีนโยบายพยายามลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (fully invested) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ของบลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -10.88% น้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX จำนวน 0.45%

อันดับ 3 กองทุนเปิดเค เซ็ท 50 (K-SET50) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งมีนโยบายลงทุนส่วนใหญ่ในหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลท.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี SET50 เป็นจำนวนเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -10.82% น้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX จำนวน 0.39% , อันดับ 4 กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) กองทุนอีทีเอฟที่เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง กองทุนภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.วรรณ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -10.79% น้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX จำนวน 0.36%

อันดับ 5 กองทุนเปิดทหารไทย SET 50 (TMB SET 50) อีกหนึ่งกองทุนภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ทหารไทย ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (fully invested) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -10.78% น้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX จำนวน 0.35%

อย่างไรก็ตามสำหรับอันดับที่ 6 และ 7 ซึ่งได้แก่กองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์เซ็ท 50 (AYFENSET50) และกองทุนเปิด วรรณเอเอ็มเซ็ท 50 (1AMSET50) ยังคงสามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์มาตราฐานดัชนี SET ได้ โดยกองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์เซ็ท 50 ซึ่งลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET 50 โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของบลจ.อยุธยา ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -8.99% มากกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX จำนวน 1.44% และกองทุนเปิด วรรณเอเอ็มเซ็ท 50 ของบลจ.วรรณ ที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญประมาณ 25 - 30 บริษัทที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -8.61% มากกว่าเกณฑ์มาตราฐาน SET INDEX จำนวน 1.82%
กำลังโหลดความคิดเห็น