“กลับมาแล้วครับแม่...เฮ้อ! เหนื่อยจังเลยวันนี้” ต้นกล้าทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า
คุณนายสุขใจเดินมาพร้อมกับแก้วน้ำ “ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนลูก จะได้สดชื่น” เธอนั่งลงข้างๆลูก
“ขอบคุณครับแม่…แม่นี่น่ารักจังเลยนะครับ” ต้นกล้าถือโอกาสประจบแม่ ก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม “ฮ้า...เย็นสดชื่นดีจัง”
“วันนี้งานเยอะเหรอลูก ทำไมถึงได้หมดสภาพขนาดนี้”
“สุดๆ เลยครับแม่...ตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่รู้ลูกค้ามาจากไหนกัน สงสัยว่าช่วงนี้ คนคงมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อนะครับแม่ ดูจากลูกค้าเงินฝากเองก็โยกเงินมาซื้อกองทุนรวมกันเยอะทีเดียว”
“ก็แหงละ...ดอกเบี้ยเงินฝากขี้ประติ๋งแบบนี้ จะไปพอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ยังไง”
“ว่าแต่วันนี้มีอะไรกินบ้างครับแม่..” ต้นกล้าโผตัวเข้าไปกอด ออดอ้อนอีกตามเคย
“โตแล้วยังอ้อนแม่เป็นเด็กนะเรา...วันนี้แม่ทำแกงจืดซี่โครงหมูใส่ผักกาดดอง แล้วก็...”
“จริงเหรอครับแม่!” ต้นกล้าทำท่าดีอกดีใจ “ผมไม่ได้ทานเมนูนี้มานานแล้วนะครับ”
“จ้า...แม่ยังมีผัดวุ้นเส้น แล้วก็ยำผักกะเฉดด้วยนะ”
“เหรอครับ สงสัยวันนี้ได้อิ่มพุงกางอีกแน่เลย พูดแล้วก็น้ำลายไหลแล้วครับ” ต้นกล้าเอามือลูบมุมปากทั้งสองข้าง
“ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป...จะได้สดชื่น มัวแต่มานั่งอ้อนแม่อยู่นี่แหละ”
“ก็ผมรักแม่นี่ครับ”
“จ้ารู้แล้ว...”
“งั้นต้นขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ...”
************************************
ต้นกล้าขอตัวพ่อกับแม่ขึ้นไปนอน หลังจากใช้เวลานั่งย่อยอาหารมื้ออร่อยอยู่พักใหญ่...ถึงแม้วันนี้ต้นกล้าจะเหนื่อยมาทั้งวัน แต่การกลับบ้านมาเจอครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นแบบนี้ เขาแทบจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทั้ง...ชีวิตคนเราคงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการมีความสุข กับครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้ ว่าไหม?
ต้นกล้าเปิดประตูห้องเข้ามา ในขณะที่กระปุกกำลังง่วนทำอะไรอยู่สักอย่าง
“ทำอะไรอยู่เหรอกระปุก?” เขาเดิมมาในห้อง แล้วนั่งลงข้างๆ กระปุก
“เปล่าหรอก...อ่านนู้นอ่านนี่ไปเรื่อยแหละ ว่าแต่ท่าทางแบบนี้ อิ่มมาอีกแล้วละซิ”
“แฮะๆๆๆ” ต้นกล้าทำหน้าแสยะยิ้ม “วันนี้กับข้าวมันอร่อยนะ”
“กระปุกก็เห็นอร่อยทุกวันนั่นแหละ…ระวังนะกินอิ่มๆ แบบนอนแบบนี้จะอ้วนเข้าให้สักวัน”
“ไม่ต้องรอสักวันหรอก ตอนนี้น้ำหนักขึ้นมา 3 กิโลแล้ว”
“หัดออกกำลังการบ้างนะนาย”
“ครับผม...” ต้นกล้าลากเสียงยาว “ว่าแต่อ่านอะไรอยู่เหรอ” ต้นกล้าชะโงกหน้าไปดู “กำหนดเป้าหมายแล้วทยอยลงทุน” เขาอ่านหัวเรื่องที่กระปุกกำลังอ่านอยู่
“น่าสนใจใช่ไหม”
“ก็น่าสนใจนะ…ว่าแต่มันเป็นยังไงเหรอเล่าให้ฟังหน่อยซิ” ต้นกล้าทำท่าทางจะอ้อนกระปุกอีกคนแล้ว
“นายนี่นอกจากจะกินจุแล้ว ยังขี้เกียจอีกนะ”
ต้นกล้ายิ้มอย่างเดียว ก่อนจะลุกขึ้นไปนอนแผ่ราบบนเตียง...หลังจากนั้น กระปุกก็กระโดดตามขึ้นไปบนเตียง
“นายเคยตั้งเป้าหมายชีวิตของตัวเองรึเปล่า ว่าอยากทำอะไรหรืออยากได้อะไรบ้าง” กระปุกเริ่มบทเรียนก่อนนอนวันนี้
“ตั้งเป้าหมายเหรอ...อยากพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวรอบโลก อยากมีครบครัวที่อบอุ่นเหมือนพ่อกับแม่ อยากมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้ยามแก่ตัวไป อ้อ แล้วก็อยากได้รถสักคน...แต่เป้าหมายเหล่านี้ ก็น่าจะเป็นเป้าหมายของคนทุกคนนะ”
“ก็ถูกนะ...แล้วนายเคยคิดไหมว่าจะทำให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ยังไง”
“ฟังดูซีเรียสจังกระปุก” ต้นกล้าลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แต่จะว่าไปแล้วมันก็จริงนะ คิดว่าแต่ว่าทำงานไปเรื่อยๆ เดี๋ยวสักวันคงเป็นไปได้เอง”
“คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้แหละ สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรสำเร็จสักอย่าง...ถูกไหม?" กระปุกหันไปมองหน้าต้นกล้า ใช้สายตามถามเป็นนัยๆ ว่าจริงใหม? ต้นกล้าพยักหน้าตอบ...กระปุกพูดต่อ “ที่เป็นอย่างนั้น เพราะคนส่วนใหญ่ จะเก็บเงินไว้ก้อนเดียวเท่านั้น ซึ่งเงินก้อนเดียวนี้เอง ก็เอาไปใช้จ่ายซะทุกอย่าง ดังนั้น เป้าหมายจึงสำเร็จได้ยาก”
“กระปุกกำลังจะบอกว่า ให้เราแยกเงินออกเป็นหลายๆ ก้อนเหรอ”เหมือนต้นกล้ากำลังมาถูกทาง
“ใช่แล้ว!ถ้าเรามีเป้าหมายหลายอย่าง เราก็น่าจะแยกเงินออกมาเป็นก้อนๆ ตามเป้าหมายนั้น ...หลังจากนั้น ก็ถามตัวเองว่า แล้วจะทำอย่างไรให้เงินแต่ละก้อนงอกเงยขึ้นมาได้”
“นั่นนะซิ แล้วจะทำยังไง”
“เป้าหมายคนแต่ละอย่าง หรือแต่ละคน แน่นอนว่าใช้เวลาต่างกัน คนที่มีเงินก้อนอยู่แล้วอาจจะไม่ยาก แต่สำหรับคนที่มีเงินน้อยหรือมนุษย์เงินเดือนทั่วไป อาจจะใช้เวลานาน แต่สิ่งที่จะตอบคำถามนี้ได้ ก็คือ การให้เงินลงทุนยังไงละ”
“ให้เงินลงทุนเหรอ...แต่หลายคนก็ลงทุนอยู่แล้วนี่น่า”
“อย่างที่กระปุกบอกไปแล้วว่า แต่ละคนมีเป้าหมายหลายอย่าง และเป้าหมายแต่ละอย่างหรือแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน ทำให้การลงทุนเพียงก้อนเดียว ไม่สามารถตอบสนองเป้าหมายเราได้ทั้งหมด แต่หากเราแยกเงินลงทุนออกมา แล้วจัดพอร์ตลงทุนให้ตรงตามเป้าหมายละ…"
ต้นกล้าคิดตาม “ถ้าเราอยากไปเที่ยว ก็จัดพอร์ตลงทุนที่เสี่ยงสูงๆ ได้ เช่นลงทุนในหุ้นเยอะๆ เพราะเรื่องเที่ยวเราไม่ต้องรีบก็ได้ แต่ถ้าเราอยากลงทุนเพื่อเก็บไว้ใช้ยามเกษียณ ก็อาจจะจัดพอร์ตที่เสี่ยงต่ำ โดยให้น้ำหนักในตราสารหนี้เยอะหน่อย เป็นการทยอยสะสมไปเรื่อยๆ ...” ต้นกล้าหันไปมองหน้ากระปุก “ถูกไหม” เขาถาม “ถูกต้องนะครับ” ต้นกล้าตอบคำถามตัวเอง
“ใช่แล้วละ...เป้าหมายเราใช่ว่าจะต้องทำให้สำเร็จทีเดียวพร้อมกันทั้งหมด ดังนั้น หากเราจัดพอร์ตการลงทุนได้เหมาะสม ทั้งสินทรัพย์ที่จะไปลงทุนและระยะเวลาที่ลงทุน แน่นอนว่าเราไม่ต้องมานั่งกังวลว่าเมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยวซะที หรือเมื่อไหร่จะมีเงินซื้อรถซะที เพราะการลงทุนมันจะตอบโจทย์แทนเราเอง”
“แค่พูดฟังดูง่ายนะ...แต่มันเราจะทำให้เราถึงเป้าหมายได้จริงหรือเปล่านะซิ” ต้นกล้าชักลังเลในความคิดของตัวเอง
“แน่นอนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าเราลงทุนตามความเสี่ยงที่เรารับได้ กระปุกว่ามันก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่านะ โดยเฉพาะคนที่ฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยน้อยๆ อยู่ในตอนนี้...อีกอย่าง การลงทุนเหล่านี้ เราสามารถทยอยลงทุนได้ ใช่ว่าจะต้องลงทุนตูมเดียวซะเมื่อไหร่...!”
“อืมห์...ลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป ดีกว่าปล่อยให้เงินเสื่อมค่าช่วงเงินเฟ้อสูงแบบนี้...งั้นกระปุกจัดพอร์ตให้ต้นกล้าหน่อยซิ”
“ว่าแต่คุณต้นกล้า มีเป้าหมายจะทำอะไรบ้างละครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” กระปุกวางฟอร์มเป็นที่ปรึกษามืออาชีทันที
“เออ....คือว่า ผมนะ อยากไปเที่ยวรอบโลกนะครับ...ขอย้ำว่ารอบโลกนะครับ ผมต้องลงทุนยังไงบ้างครับ…”
“ฉันละเชื่อนายจริงๆ” กระปุกทำหน้าเซ็งก่อนจะหันหลังกระโดดลงจากเตียงไป
“อ้าวกลับมาก่อนซิกระปุก...นี่นายจะไม่ช่วยฉันเหรอ”
....อ่านต่อฉบับหน้า