xs
xsm
sm
md
lg

วรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ เปลี่ยนวิกฤติหุ้นสหรัฐให้เป็นโอกาสลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การลงทุนในต่างประเทศนับว่าเครื่องทางการลงทุนชนิดหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนได้ในระดับสูง แต่ในทางกลับกันก็มีความเสี่ยงไม่น้อย และหากเป็นการลงทุนในประเทศที่ประสบกับปัญหานานับประการอย่างสหรัฐอเมริกาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐ (ซับไพรม์) ที่ยังไม่ทีท่าว่าจะจบสิ้น ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสูงทำสถิติแทบไม่เว้นแต่ละวันนั้น การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐจะยังมีความน่าสนใจหรือคุ้มค่าต่อการเสี่ยงหรือเข้าไปลงทุนหรือไม่

โดยนับตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ตลาดหุ้นสหรัฐได้ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก ขณะที่มาตรการกระตุ้นทางการเงินหรือการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ การอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และสภาวะตลาดที่ under perform (ให้นำหนักต่ำกว่าตลาด)เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะเดียวกัน การประเมินมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐ ณ ปัจจุบัน มีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับราคาในอดีตด้วย

สำหรับเป็นกองทุนเปิด วรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ นับว่าเป็นกองทุนใหม่ที่ออกมา เพื่อให้เกิดทางเลือกกับนักลงทุน และหากจะว่าไปแล้ว กองทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนมาก บางครั้งต้องมีองค์ประกอบของผลตอบแทนที่มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการกล้าคิดก่อน กล้าคิดแตกต่าง และตัดสินใจลงทุน จึงจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยการลงทุนดังกล่าวเป็นการหาวิกฤติการณ์ให้เป็นโอกาส ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยง และต้องการกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศ

วันนี้ “MutualFund IPO” จึงขอพาไปดู กองทุนเปิด วรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ (1 A.M. US Recovery Opportunity Fund : 1US-OPP) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุน ที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) และเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเลือกลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำ ซึ่งระดับราคาได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ เช่น ธนาคารซิตี้แบงก์ โกลด์แมน แซกส์ แอปเปิล และบริษัทอื่นๆ เป็นต้น

สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เล่าให้ฟังว่า บริษัทได้นำเสนอแนวคิดในการลงทุนแบบที่คิดต่างเพื่อมองหาโอกาสในการลงทุนจากวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยจะเสนอขาย กองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ ระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม - 11 มิถุนายน 2551 ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะเข้าไปหาประโยชน์จากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐในปัจจุบันเช่นเดียวกับที่นักลงทุนต่างชาติเคยเข้ามาลงทุนเพื่อหาประโยชน์จากเศรษฐกิจไทยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เช่นเดียวกัน

โดยกองทุน 1US-OPP จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตสูง (Growth Stock) ทั้งในภาคการเงินและภาคการผลิตที่แท้จริงและสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือในปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐมีระดับราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ลดลงมาเหลือประมาณ 15 เท่า ในขณะที่ก่อนวิกฤติซับไพรม์มีระดับ P/E สูงถึง 18-20 เท่า อีกทั้งตลาดหุ้นสหรัฐยัง under perform ตลาดหุ้นในประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) มาตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ทั้งที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของภาคการผลิตที่แท้จริงของสหรัฐเองไม่ได้ออกมาแย่เท่าไรนัก

แต่ผลประกอบการที่เป็นลบของบริษัทในภาคสถาบันการเงินทำให้ภาพการเติบโตของกำไรโดยรวมตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงมา ซึ่งราคาของหุ้นในภาคการผลิตที่แท้จริงยังไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัทเหล่านี้ที ดังจะเห็นได้จาก P/E ของหุ้นที่มีการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับ P/E ของหุ้นมูลค่าใกล้เคียงกันมากประมาณ 1 เท่า ซึ่งปกติ P/E ของหุ้นที่มีการเติบโตสูงจะมี P/E ที่สูงกว่า P/E ของหุ้นมูลค่าประมาณ 1.5-2.0 เท่า นี่แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นเหล่านี้ซึ่งกองทุนจะเข้าไปลงทุน

"ในขณะนี้ประเทศที่มีวิกฤติมากคือสหรัฐฯ ทำให้ดัชนีหุ้นตกลงมามาก เมื่อหุ้นตกลงมามาก และอัตราแลกเปลี่ยนได้ปรับตัวลงมา ทำให้หุ้นหลายตัวกลับมาเป็นที่น่าสนใจ โดยมองว่าบริษัทของสหรัฐฯจำนวนมากไม่ได้ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของทั้งโลก และเศรษฐกิจทั้งโลกยังมีการเจริญเติบโตที่ยังพอไปได้ ทำให้ความสามารถในการทำกำไรกลับมาได้เช่นเดิม ซึ่งบริษัทที่ดีที่อยู่กับโลกมานานนับ 100 ปี อาทิ เช่น ธนาคารซิตี้แบงก์ โกลด์แมน แซกส์ และบริษัท แอปเปิล มีระดับราคาหุ้นที่ต่ำ และเป็นที่น่าสนใจ"

สมจินต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นในสหรัฐตอนนี้ของกองทุน 1US-OPP ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะถ้าออกหลังจากนี้ไปอาจจะช้าเกินไป เพราะหลังจากที่มีการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้วมีโอกาสที่รัฐบาลสหรัฐจะขึ้นภาษีหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้คนออกมาซื้อบ้านหลังจากที่ชะลอการตัดสินใจมาในช่วงที่ดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ในช่วงขาลง เพราะปัจจุบันทางธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ออกมาส่งสัญญาณแล้วว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ เวลานี้จึงถือเป็นเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ ซึ่งเรามั่นใจว่ากองทุน 1US-OPP มีโอกาสสูงมากที่จะทำผลตอบแทนถึงเป้าหมาย 20% ได้ก่อน 2 ปี

อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ (1 US-OPP) เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติและมีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) อายุโครงการประมาณ 2 ปี นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม โดยกองทุนดังกล่าว มีมูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 2 ปี โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม - 11 มิถุนายน 2551 มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท

ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทจัดการและตามความเหมาะสมกับสภาวะการ์ในแต่ละขณะ โดยกองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management)และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.

โดยกองทุนนี้มีลักษณะพิเศษคือ จะขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อกองทุนมีอายุครบ 2 ปี หรือราคามูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลา 3 วันทําการติดต่อกัน (ราคา NAV 12.00 บาทขึ้นไป)

กองทุนเปิดวรรณ ยูเอส รีคอฟเวอรี่ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ มีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท และหลังจากนั้นจะสามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนได้ในช่วงทุกวันทำการ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ บลจ.วรรณ โทร. 0-2659-8888 กด 1 หรือเว็บไซต์ www.one-asset.com
กำลังโหลดความคิดเห็น