“ต้น...ตื่นหรือยังลูก ตะวันสายโด่งแล้วนะ”...กระปุกได้ยินเสียงคุณนายสุขใจกระโกนปลุกต้นดังมาจากข้างล่าง...เขาละสายตาจากหนังสือพิมพ์ที่กำลังอ่านอยู่ แล้วเดินตรงไปที่เตียง
...ชีวิตวัยทำงานที่ต้องตื่นแต่เช้า เจอกับลูกค้ามากหน้าหลายตาตลอดทั้งวัน แถมช่วงเวลากลับบ้าน ก็ต้องผจญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพอีก...วันหยุดแบบนี้ จึงถือเป็นโอกาสดีที่เดียวที่จะได้เก็บเกี่ยวช่วงเวลานอนที่เสียไปตลอดทั้งสัปดาห์...ต้นกล้าก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
กระปุกเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง...เขามองไปที่ต้นกล้า ซึ่งกำลังหลับชดเชยความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์...นาฬิกาบอกเวลา 10 โมงกว่าแล้ว แค่นี้น่าจะพอชดเชยได้แล้วมั้ง…
“ต้น ต้น” กระปุกเขย่าตัวปลุกต้นกล้า “ตื่นได้แล้ว...นี่มัน 10 โมงกว่าแล้วนะ”
“อืมมมม...ขอนอนต่ออีกสักชั่วโมงได้ไหม วันนี้วันหยุดนะ”
“แม่นายเรียกปลุกแนะตะกี้”
“งั้นฝากบอกแม่หน่อยซิ ว่าฉันขอนอนต่ออีกซักชั่วโมง”
“ว่าไงนะ!!!...พูดไม่คิดอีกแล้วนะนายนะ” กระปุกเตือนสติต้นกล้า...พอได้ยินเช่นนั้น ต้นกล้าก็ลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงทันที...ตอนนี้เขายืนอยู่บนเตียงด้วยความสลึมสลือ ก่อนจะใช้มือยีผมที่ยุ่งเหยิงไปมาแล้วนั่งลงบนเตียง
“ต้นขอโทษนะกระปุก...ต้นไม่ทันคิดนะ” ต้นหันไปมองกระปุกด้วยสายตาสำนึกผิด
“ไม่เป็นไร ถือว่าฉันไม่ได้ยินละกัน...ว่าแต่ตื่นแล้วใช่ไหม?
“แหงละ...”
“เสียงแม่นายเรียกแนะตะกี้...ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า เพราะปกติแม่จะปล่อยให้นายตื่นเองมากกว่า”
“วันนี้เหรอ...เอ ก็ไม่มีอะไรนี่น่า…อืมมมม แต่คุ้นๆ เหมือนว่ามีนะ เอ...” ต้นทำท่าครุ่นคิด
“อย่ามัวแต่คิดเลย ลุกไปอาบน้ำได้แล้วไป” ต้นกล้าบิดขี้เกียจอีกรอบ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ต้นกล้าฮัมเพลงเดินลงบันไดมา...แม้จะตื่นสายหน่อย แต่การได้อาบน้ำเย็นๆ ก็ช่วยทำให้สดใสได้เหมือนกัน
“ตื่นแล้วเหรอเจ้าต้น...นี่ถ้าแม่ไม่เรียกก็ไม่รู้ป่านนี้จะตื่นกี่โมงละซิเรา” ต้นกล้าเงยหน้าขึ้น เขาหันไปตามเสียงบ่นของคุณนายสุขใจ
“ก็...” ต้นกล้าเปลี่ยนคำพูดที่กำลังจะแก้ตัวเป็น “อ้าว...น้าเอก” พอต้นกล้าเห็นหน้าน้าเอก ก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่า...หลังทานมื้อค่ำเมื่อวาน แม่บอกว่าวันนี้ น้าเอกจะมาเที่ยวบ้านเรา็...น้าเอกเป็นน้องชายของแม่ แกแต่งงานแล้วย้ายไปทำสวนทุเรียนอยู่ที่ระยองกับภรรยา...น้าเอกมีลูกชาย 1 คนเหมือนกัน เท่าที่จำได้ตอนนี้น่าจะอายุสักประมาณ 20 กว่าๆ แล้ว
“สวัสดีครับ น้าเอก...” ต้นกล้ายกมือไหว้
“หวัดดีเจ้าต้น…ไม่ได้เจอหน้าซะนาน หล่อขึ้นเป็นกองเลยนะเรา”
“ชมกันแบบนี้ ผมก็เขินแย่ซะครับน้าเอก…แล้วนี่น้าเอกมาคนเดียวเหรอครับ น้าเล็กกับอาร์มไม่มาด้วยเหรอครับ”
“น้าเล็กอะ เขาติดงานสมาคมแม่บ้านเขา ส่วนเจ้าอาร์มเล่นกับข้าวต้มมัดอยู่หน้าบ้านนู่น”
ต้นกล้าชะเง้อออกไปดูหน้าบ้าน เห็นอาร์มกำลังวิ่งเล่นหยอกล้อกับข้าวต้มมัดอยู่ “งั้นผมไปหาอาร์มก่อนนะครับ” พูดยังไม่ทันจบต้นกล้าก็วิ่งออกไปก่อน
“สงสัยคงจะคิดถึงน้องมากนะเจ้าต้นนี่” คุณนายสุขใจบ่นเล็กน้อยที่ต้นกล้าวิ่งพรวดออกไป
“อาร์ม”
“อ้าว พี่ต้น ตื่นแล้วเหรอ นอนตื่นสายจังนะพี่เรา”
“นายมาถึงนานแล้วเหรอ”
“ไม่นานเท่าไหร่หรอก…ทีแรกอาร์มจะขึ้นไปปลุกพี่ต้นแล้วละ แต่พ่อบอกว่าให้พี่อาร์มนอนไปเถอะ วันหยุดทั้งที”
“ชีวิตคนทำงานก็แบบนี้ละ…ว่าแต่นายสบายดีไหม”
“สบายดีครับ” ข้าวต้มมัดวิ่งเข้ามาคลอเคลียที่ขาต้น... “เจ้านายแกมาก็ทิ้งฉันเลยนะ ข้าวต้มมัด ตะกี้ยังเล่นกับฉันอยู่เลย”
ต้นกล้าก้มลง แล้วเอามือถูหน้าข้าวต้นมัดทั้งสองข้าง “ไงข้าวต้มมัด คิดถึงอาร์มเหมือนกันนะซิเรา เห็นหยอกล้อกันใหญ่เลย...พี่ว่าเราเข้าไปในบ้านดีกว่า”
“ครับพี่”
“งานที่แบงก์เป็นยังไงบ้างละต้น” น้าเอกเริ่มต้นบทสนทนา…หลังจากไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบระหว่างกันไปพักใหญ่...ตอนนี้ทุกคนนั่งรวมกันอยู่ที่โต๊ะรับแขกของบ้าน มีพ่อ แม่ น้าเอก อาร์ม แล้วก็ต้น
“ก็ดีครับ แต่ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าทำอะไรกับเงินมากนัก”
“พ่อบอกว่าพี่ต้นขายกองทุนรวมเหรอครับ” อาร์มถามด้วยความสนใจ
“ก็ไม่เชิงนะ เรียกว่าเป็นที่ปรึกษาทางการลงทุนให้ลูกค้ามากกว่า แต่จะเน้นหนักไปที่กองทุนรวมนะ”
“อาร์มเคยได้ยินมาเหมือนกันนะครับ ไอ้กองทุนรวมเนี้ยะ พอดีมีรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเขาสนใจเรื่องนี้อยู่พอดี”
“เราเรียนอยู่ปีไหนแล้วนะ พี่จำไม่ได้แล้ว”
“ปี 2 ที่มหาวิทยาลัยบูรพาครับ”
“คณะเศรษฐศาสตร์ใช่ไหม”
“ครับผม…เออพี่ต้น อาร์มอยากรู้ว่า อย่างอาร์มซื้อกองทุนรวมได้ไหมครับ”
“ทำไมจะซื้อไม่ได้ละ เขาไม่ได้กำหนดอายุซักหน่อย”
“พอดีอาร์มมีเงินเก็บจากค่าขนมอยู่จำนวนหนึ่ง ตอนนี้ฝากบัญชีออมทรัพย์เอาไว้...อาร์มรู้สึกว่าอยากให้มันมีอะไรตื่นเต้นนอกเหนือจากดอกเบี้ยที่ได้ 0.75% นะครับ...อาร์มก็เลยปรึกษาพ่อ แล้วพ่อก็บอกว่าให้มาขอคำปรึกษากับพี่ต้นนะครับ”
“ถามถูกคนแล้วละ เจ้าอาร์ม” คุณนายสุขใจยกหางลูกตัวเองซะแล้ว
“แม่ครับ...ผมไม่ได้เก่งอะไรมากมายหรอกครับ” ต้นกล้าถ่อมตัวก่อนจะหันไปคุยกับอาร์มต่อ “พี่ว่าอายุน้อยๆ อย่างอาร์ม เริ่มต้นรู้จักการลงทุนก็ดีเหมือนกันนะ อนาคตจะได้บริหารเงินออมของเราเองได้”
"แล้วอาร์มจะลงทุนแบบไหนดีครับ”
“อืมมม...อาร์มเก็บค่าขนมที่พ่อให้เข้าบัญชีทุกเดือนรึป่าว”
“ครับพี่ต้น”
“แสดงว่าตอนนี้ ก็น่าจะมีเงินในบัญชีอยู่จำนวนหนึ่งแล้ว”
“ใช่ครับ”
“เราสนใจออมแบบ Saving Plan หรือเปล่า”
“Saving Plan คืออะไรครับ”
“ก็เป็นรูปแบบการออมเงินอย่างหนึ่ง...เหมือนกับอาร์มฝากเงินทุกเดือนนั่นแหละ เพียงแต่เงินนั้นเอาไปลงทุนในกองทุนรวมแทนเท่านั้นเอง…อาร์มเคยได้ยินคำว่า Dollar Cost Averaging รึเปล่า”
“ยังไม่เคยครับ”
“คนส่วนใหญ่นะ จะเลือกลงทุนเพียงครั้งเดียวไม่ต้นปีก็ปลายปี ซึ่งรูปแบบการลงทุนเช่นนี้ อาจจะทำให้เราเสียโอกาสการลงทุนช่วงระหว่างปีไปได้ ดังนั้น การทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี นอกจากจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าลงทุนแบบครั้งเดียวแล้ว ต้นทุนโดยเฉลี่ยที่เราซื้อหน่วยลงทุนก็จะน้อยกว่าด้วย นี่แหละคือหลักการของ Dollar Cost Averaging ละ”
“อืมมม...แล้วแบบนี้ ...เขาจะเอาเงินเราไปลงทุนในอะไรครับ”
“กองทุนรวมมีให้ลงทุนได้หลากหลาย ทั้งตราสารหนี้ หุ้น หรือลงทุนผสมทั้งหุ้นและตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ ลงทุนในประเทศ ต่างประเทศ…ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ ขึ้นอยู่ความเสี่ยงว่าเรารับได้มากน้อยแค่ไหน”
“แล้วอย่างอาร์มควรเริ่มต้นแบบไหนครับ”
“พี่ว่าอย่างอาร์มน่าจะเริ่มต้นลงทุนในอะไรที่เซฟๆ ก่อน เพราะเงินนี้อาร์มคงเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาอยู่แล้ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“ดังนั้น ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ประเภทมั่นนี่มาร์เกตน่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะกองทุนนี้เขาจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีรัฐบาลค้ำประกัน ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างน้อยที่เงินต้นเราจะขาดทุน อีกอย่างกองทุนนี้เข้าใจง่าย เหมาะกับคนเริ่มต้นลงทุนอย่างอาร์ม เพราะมันไม่ต่างกับเงินฝากมากนัก”
“ไม่ต่างยังไงครับ”
“เวลาเราฝากเงิน เราได้ดอกเบี้ยกลับมาใช่ไหม...กองทุนตราสารหนี้ก็เหมือนกัน เขาก็จะเอาเงินเราไปซื้อพันธบัตร ซึ่งพันธบัตรนั้นก็ให้ดอกเบี้ยกองทุนกลับมา เราซึ่งเป็นผู้ลงทุนในกองทุนนี้ ก็จะได้ดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน”
“แบบนี้นี่เอง…แล้วดอกเบี้ยมันต่างกันเยอะไหมครับ”
“ส่วนต่างก็ขึ้นอยู่กับอายุของตราสารที่กองทุนออกไปลงทุน แต่ก็ไม่มาก...แต่ความน่าสนใจมันอยู่ที่ กองทุนรวมไม่ต้องเสียภาษี 15% เหมือนเงินฝากนะ”
“จริงเหรอ...น้าเพิ่งรู้นะเนี้ยะ” น้าเอกก็สนใจเช่นกัน
“แต่ว่าการลงทุนในกองทุนรวม เราจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนให้กองทุนเขาด้วยนะครับ...แต่ไม่ต้องห่วง เพราะหลังหักค่าธรรมเนียมแล้ว ส่วนใหญ่ก็ยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากอยู่ดี”
“ดีจังเลย...งั้นเดี๋ยวอาร์มลงทุนกับพี่ต้นเลยดีกว่า”
“ใจเย็นๆ ก่อน ไม่ต้องรีบ...เพราะก่อนลงทุนอะไร เราต้องทำความเข้าใจให้ละเอียดถี่ถ้วนซะก่อน”
“พี่ต้นนี่รอบคอบจังเลยนะครับ”
“ก็แหงละ...ดูแลเงินให้คนอื่น ความรอบคอบ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยละ” คุณนายสุขใจเสริม
.....อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า