xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนรวมพลังแข็งข้อยักษ์ใหญ่ บีบเอ็กซอนโมบิลรับผิดชอบสังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - แม้เป็นบริษัทอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดและมีกำไรสูงสุด แต่เอ็กซอนโมบิลกำลังเจอการต่อต้านจากผู้ถือหุ้น ที่กล่าวหาว่ายักษ์ใหญ่น้ำมันล้มเหลวในการเป็นพลเมืองบรรษัทที่มีความรับผิดชอบ

การเผชิญหน้าจะเกิดขึ้นในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่เมืองดัลลัส วันพุธนี้ (21) เมื่อมีการยื่นข้อเสนอเพื่อเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานของเอ็กซอนโมบิล และผลักดันให้บริษัทดำเนินการในลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

แม้ความเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่ผิดปกติคือ นักลงทุนประเภทสถาบันขนาดใหญ่ รวมถึงสมาชิกในตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ อันเป็นตระกูลผู้ก่อตั้ง ให้การสนับสนุนเรื่องนี้ด้วย

สมาชิกส่วนใหญ่ของตระกูลดังกล่าวประกาศเมื่อเดือนเมษายน สนับสนุนข้อเรียกร้องของนักลงทุนให้บริษัทน้ำมันแห่งเทกซัสรายนี้มีประธานกรรมการที่เป็นอิสระ

ปัจจุบัน เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอ็กซอนโมบิล รับหน้าที่ประธานบอร์ดด้วย แม้มีความพยายามเคลื่อนไหวเพื่อให้แยกสองตำแหน่งดังกล่าวออกจากกัน

สมาชิกตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ยังสนับสนุนมติที่เรียกร้องให้เอ็กซอนโมบิลมองไปไกลกว่าโฟกัสน้ำมันและก๊าซปัจจุบัน เพื่อรับมือกับวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การแข็งข้อของผู้ถือหุ้นได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนประเภทสถาบันอย่างน้อย 19 แห่ง โดยในจำนวนนี้หลายรายจัดอยู่ในระดับผู้ถือหุ้นมากที่สุดของบริษัท ทั้งนี้นักลงทุนประเภทสถาบันเหล่านี้ก็ต้องการที่จะกดดันให้เอ็กซอนโมบิลยอมรับมติในการจัดการกับภาวะโลกร้อน และแยกตำแหน่งประธานกรรมการออกจากซีอีโอ

นักลงทุนประเภทสถาบันที่ทรงอิทธิพลเหล่านี้ มีอาทิ กองทุนบำนาญของลูกจ้างรัฐแคลิฟอร์ (CalPERS) กองทุนบำนาญของสมาคมครูแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (CalSTRS) และกองทุนบำนาญของรัฐจากนิวยอร์ก คอนเน็กติกัต เมน และเวอร์มอนต์

บิลล์ ล็อกเยอร์ เจ้าหน้าที่บริหารการเงินของรัฐแคลิฟอร์เนีย และสมาชิกบอร์ด CalPERS และ CalSTRS ชี้ว่า ความเชื่องช้าของเอ็กซอนโมบิลในการจัดการกับการลดการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจก และการลงทุนในพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้มูลค่าการลงทุนของนักลงทุนตกอยู่ในความเสี่ยง

วิลเลียม ทอมป์สัน เจ้าหน้าที่บริหารการเงินของนิวยอร์กซิตี้สำทับว่า เอ็กซอนต้องเริ่มจากการแยกตำแหน่งประธานบอร์ดกับซีอีโอออกจากกัน เพื่อให้บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานแนวใหม่แทนที่จะเป็นผู้ตามอย่างที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ยังได้แนวร่วมจากกลุ่มเซเรส หรือเครือข่ายนักลงทุนแห่งสหรัฐฯ องค์กรสิ่งแวดล้อมและกลุ่มผลประโยชน์สาธารณะที่กดดันบริษัทต่างๆ ให้ตระหนักถึงปัญหาเกี่ยวกับความยั่งยืน

ขณะเดียวกัน มติบางข้อได้รับการหนุนหลังจากโรเบิร์ต มองก์ส นักกฎหมายจากรัฐเมนที่รณรงค์ต่อสู้เพื่อผู้ถือหุ้น ซึ่งมองว่าเอ็กซอนควรเดินตามบีพีและเชลล์ ที่แยกตำแหน่งซีอีโอกับประธานบอร์ดออกจากกัน เพราะจะทำให้บอร์ดสามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดโดยไม่ติดขัดกับปัญหาความพึงพอใจและประสบการณ์เก่าแก่ของทีมบริหารปัจจุบัน รวมทั้งร่างมาตรการปฏิบัติเพื่อทำให้บริษัทคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม เฮนรี หู นักวิชาการด้านบรรษัทภิบาลของมหาวิทยาลัยเทกซัส บอกว่าแนวคิดในการแยกตำแหน่งบริหารระดับสูงเช่นนี้ กำลังกลายเป็นความคิดที่มีผู้สนับสนุนมากขึ้นในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าซีอีโออาจมีอำนาจมากเกินไป กระนั้น แนวทางนี้ก็ไม่ได้เหมาะสมกับทุกบริษัท

เขาชี้ว่า การแยกตำแหน่งทั้งสอง ย่อมหมายถึงว่าตัวประธานกรรมการจะไม่ได้มีอำนาจหน้าที่บริหารโดยตรง ในบางกรณี จึงอาจนำไปสู่ภาวะซึ่งบุคคลที่มีบทบาทในการจัดการ แต่ไม่ได้มีข้อมูลสมบูรณ์เพียงพอ

หูยังเชื่อว่า เป้าหมายหลักของบริษัทมหาชนคือ การสร้างผลกำไรหรือผลประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น

เอ็กซอนไม่ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ เหล่านี้ แต่ใน "รายงานการเป็นพลเมืองดีภาคบรรษัท"ประจำปี ที่เอ็กซอนนำออกมาเผยแพร่เมื่อวันพุธ(21) ระบุว่าบริษัทได้ปรับปรุงผลงานด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม ควบคู่กับการสานต่อมาตรการจัดหาพลังงานที่จำเป็นต่อการเติบโต และยกระดับมาตรฐานการครองชีพ

ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 17% ทำสถิติใหม่ที่ 10,890 ล้านดอลลาร์ และกำไรประจำปีที่แล้ว 40,600 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจอเมริกัน แต่ไม่วายถูกวิจารณ์ว่ากำไรเหล่านั้นมาจากความทุกข์ร้อนของผู้บริโภคที่ต้องจ่ายค่าน้ำแพงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ผู้นำในอุตสาหกรรมแก้ต่างว่า ผลกำไรของบริษัทพลังงานสอดคล้องกับอุตสาหกรรมอื่นๆ พร้อมอ้างถึงความจำเป็นในการใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น