I-Natural โชว์ผลการดำเนินงานย้อนหลังดีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 4 เดือนให้ผลตอบแทน 11.50% ชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ให้ผลตอบแทนเพียง 5.96% "พิชิต" ชี้อานิสงส์แนวโน้มความต้องการทรัพยากรธรรมชาติทั้งน้ำมัน โลหะที่มีอย่างต่อเนื่องจากจำนวนประชากรโลกที่มากขึ้น รวมถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติและภาวะโลกร้อน ดันกองทุน I-Natural เติบโตสูงตามไปด้วย
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สืบเนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้มีความต้องการทรัพยากรธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจากวิกฤตภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดคือวาตภัยจากพายุนาร์กีสในประเทศพม่า และแผ่นดินไหวที่ประเทศจีน ที่มีประชาชนเสียชีวิตและสูญหายกว่าแสนคน ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาอาหาร และสินค้าเกษตร รวมทั้งน้ำมันในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น โลหะที่ใช้ในอุตสาหกรรมยังเป็นที่ต้องการสูง เพื่อขยายเมืองและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่ทรัพยากรธรรมชาติมีอย่างจำกัด ประกอบกับโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เพชร ซึ่งเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลกระทบจากสภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวทำให้การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติมีความจำเป็น และเติบโตต่อเนื่องตามไปด้วย ซึ่งกองทุนเปิด I-Natural ของเอ็มเอฟซีนับเป็นกองทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศทั่วโลกที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น เหมืองแร่ ทองคำ โลหะต่างๆ น้ำมันและก๊าซ ธุรกิจครบวงจรในการจัดเก็บและจัดจำหน่ายทรัพยากรต่างๆ และสารอาหารทางการเกษตร เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส เป็นต้น
โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเปิด I-Natural เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2550 ผลการดำเนินงานของกองทุนดังกล่าวดีอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถชนะดัชนีมาตรฐาน (Dow Jones-AIG Index) กล่าวคือ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนเท่ากับร้อยละ 12.24 ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานเท่ากับร้อยละ 4.06 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2551 เท่ากับร้อยละ 11.50 เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานเท่ากับร้อยละ 5.96 และผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนร้อยละ 11.55 เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานเท่ากับร้อยละ 5.31 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2551)
นอกจากผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องแล้ว กองทุนเปิด I-Natural ยังมีจุดเด่นคือมี New Gate Capital Management LLC ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ และเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) และในหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติทั่วโลก (Global Resources) เป็น ผู้จัดการกองทุนร่วม
โดยปัจจุบันกองทุนเปิด I-Natural ลงทุนในหุ้นเช่น หุ้น Agrium ของแคนาดา ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและการตลาดสินค้าเกี่ยวกับสารอาหารเพื่อการเกษตร หุ้น CF Industries Holdings Inc. ของอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปุ๋ยไนโตรเจนและฟอสเฟตในอเมริกาเหนือ หุ้น Powershares DB Agriculture Fund ของอเมริกาซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ติดตามดัชนี Deutsche Bank Liquid Commodity และดัชนี Optimum Yield Agriculture Excess Return ที่สะท้อนกลุ่มเกษตรกรรม หุ้น Stillwater Mining ของอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนา ผลิต และทำการตลาดธาตุเพิลเลเดียม ทองคำขาว หุ้น Great Basin Gold Ltd ของแคนาดา ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและพัฒนาเหมืองทองในลุ่มน้ำประเทศแอฟริกาใต้และอเมริกา หุ้น Chicago Bridge and Iron ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านวิศวกรรม การจัดหา และก่อสร้าง ซึ่งเชี่ยวชาญการทำโครงการแบบครบวงจรแก่ลูกค้าที่ผลิต ดำเนินการ จัดเก็บ และจัดจำหน่ายทรัพยากรธรรมชาติของโลก เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2551)
สำหรับกองทุนเปิด I-Natural มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ และ/หรือกำไรสะสม ผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สืบเนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้มีความต้องการทรัพยากรธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจากวิกฤตภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดคือวาตภัยจากพายุนาร์กีสในประเทศพม่า และแผ่นดินไหวที่ประเทศจีน ที่มีประชาชนเสียชีวิตและสูญหายกว่าแสนคน ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาอาหาร และสินค้าเกษตร รวมทั้งน้ำมันในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น โลหะที่ใช้ในอุตสาหกรรมยังเป็นที่ต้องการสูง เพื่อขยายเมืองและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่ทรัพยากรธรรมชาติมีอย่างจำกัด ประกอบกับโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เพชร ซึ่งเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลกระทบจากสภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวทำให้การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติมีความจำเป็น และเติบโตต่อเนื่องตามไปด้วย ซึ่งกองทุนเปิด I-Natural ของเอ็มเอฟซีนับเป็นกองทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศทั่วโลกที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น เหมืองแร่ ทองคำ โลหะต่างๆ น้ำมันและก๊าซ ธุรกิจครบวงจรในการจัดเก็บและจัดจำหน่ายทรัพยากรต่างๆ และสารอาหารทางการเกษตร เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส เป็นต้น
โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเปิด I-Natural เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2550 ผลการดำเนินงานของกองทุนดังกล่าวดีอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถชนะดัชนีมาตรฐาน (Dow Jones-AIG Index) กล่าวคือ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนเท่ากับร้อยละ 12.24 ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานเท่ากับร้อยละ 4.06 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2551 เท่ากับร้อยละ 11.50 เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานเท่ากับร้อยละ 5.96 และผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนร้อยละ 11.55 เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานเท่ากับร้อยละ 5.31 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2551)
นอกจากผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องแล้ว กองทุนเปิด I-Natural ยังมีจุดเด่นคือมี New Gate Capital Management LLC ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ และเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) และในหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติทั่วโลก (Global Resources) เป็น ผู้จัดการกองทุนร่วม
โดยปัจจุบันกองทุนเปิด I-Natural ลงทุนในหุ้นเช่น หุ้น Agrium ของแคนาดา ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและการตลาดสินค้าเกี่ยวกับสารอาหารเพื่อการเกษตร หุ้น CF Industries Holdings Inc. ของอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปุ๋ยไนโตรเจนและฟอสเฟตในอเมริกาเหนือ หุ้น Powershares DB Agriculture Fund ของอเมริกาซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ติดตามดัชนี Deutsche Bank Liquid Commodity และดัชนี Optimum Yield Agriculture Excess Return ที่สะท้อนกลุ่มเกษตรกรรม หุ้น Stillwater Mining ของอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนา ผลิต และทำการตลาดธาตุเพิลเลเดียม ทองคำขาว หุ้น Great Basin Gold Ltd ของแคนาดา ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและพัฒนาเหมืองทองในลุ่มน้ำประเทศแอฟริกาใต้และอเมริกา หุ้น Chicago Bridge and Iron ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านวิศวกรรม การจัดหา และก่อสร้าง ซึ่งเชี่ยวชาญการทำโครงการแบบครบวงจรแก่ลูกค้าที่ผลิต ดำเนินการ จัดเก็บ และจัดจำหน่ายทรัพยากรธรรมชาติของโลก เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2551)
สำหรับกองทุนเปิด I-Natural มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ และ/หรือกำไรสะสม ผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป