บลจ.นครหลวงไทย เสนอขายกองทุนต่างประเทศต่อเนื่อง หลังจากได้รับผลตอบรับล้นหลามจากนักลงทุน ล่าสุดเปิดขาย SCI KO Bond 2 และ SCI KO Bond 3 อายุประมาณ 1 ปี และ 6 เดือน เสนอขายนักลงทุนจนถึงวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ชูกลยุทธ์รับผลตอบแทน Auto redemption เป็นรายไตรมาส และครั้งเดียวเมื่อครบอายุ
นางสาวอัจฉรา สุทธิศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัทฯ ได้เสนอขายกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ และ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลีซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี มียอดจองซื้อ IPO เต็มทั้ง 2 กองทุน แล้วนั้นทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ไม่สามารถลงทุนในครั้งที่แล้วได้ทัน บริษัทฯ จึงมีนโยบายเสนอขายกองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศ อีกครั้ง
สำหรับ กองทุนใหม่ทั้ง 2 โครงการของบริษัทในครั้งนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลี 2 (SCI Korean Bond Fund 2 : SCI KO Bond 2) อายุประมาณ 11-13 เดือน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาส แบบอัตโนมัติ auto redemption 3 เดือน ครั้ง รวม 6 ครั้ง และได้รับเงินต้นในการ auto redemption ครั้งสุดท้าย และกองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลี 3 (SCI Korean Bond Fund 3 : SCI KO Bond 3) อายุประมาณ 5-7 เดือน ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนพร้อมเงินต้น แบบอัตโนมัติ Auto redemption ครั้งเดียวในวันครบกำหนดของอายุโครงการ
โดยทั้ง 2 กองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ และกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully hedge) ดังนั้นผู้ลงทุนจึงไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด กองทุนทั้ง 2 มีมูลค่าโครงการละ 1,500 ล้านบาท ราคา 10 บาทต่อหน่วย มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุนเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ นโยบายการลงทุนของกองทุนทั้ง 2 ดังกล่าว เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในต่างประเทศ (FIF) ซึ่งเป็นตราสารภาครัฐที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ใน 2 อันดับแรก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด โดยตราสารที่กองทุนลงทุนส่วนใหญ่จะมีอายุคงเหลือใกล้เคียงกับอายุโครงการเพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดและสภาพคล่อง จากการลงทุนในตราสารประเภทนี้ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนนี้ จึงเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคง อีกทั้ง ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนเกินทุน
สำหรับกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ และ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลีซึ่งได้ปิดเสนอขายหน่วยลงทุนไปนั้น เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) โดยกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐต่างประเทศ โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศนิวซีแลนด์ ที่ได้รับการจัดเรตติ้งอยู่ในระดับ AAA หรือมีอันดับความเชื่ออยู่ใน 2 อันดับแรก โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนกองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลี เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมตราสารแห่งนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตราสารหนี้ภาครัฐที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ใน 2 อันดับแรก หรือมีเครดิตเรตติ้งที่ AA ขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวบริษัทจัดการกอลงทุนได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็ม 100% เนื่องจากเป็นการเข้าลงทุนในรูปสกุลเงินบาท
นางสาวอัจฉรา สุทธิศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัทฯ ได้เสนอขายกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ และ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลีซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี มียอดจองซื้อ IPO เต็มทั้ง 2 กองทุน แล้วนั้นทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ไม่สามารถลงทุนในครั้งที่แล้วได้ทัน บริษัทฯ จึงมีนโยบายเสนอขายกองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศ อีกครั้ง
สำหรับ กองทุนใหม่ทั้ง 2 โครงการของบริษัทในครั้งนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลี 2 (SCI Korean Bond Fund 2 : SCI KO Bond 2) อายุประมาณ 11-13 เดือน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาส แบบอัตโนมัติ auto redemption 3 เดือน ครั้ง รวม 6 ครั้ง และได้รับเงินต้นในการ auto redemption ครั้งสุดท้าย และกองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลี 3 (SCI Korean Bond Fund 3 : SCI KO Bond 3) อายุประมาณ 5-7 เดือน ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนพร้อมเงินต้น แบบอัตโนมัติ Auto redemption ครั้งเดียวในวันครบกำหนดของอายุโครงการ
โดยทั้ง 2 กองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ และกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully hedge) ดังนั้นผู้ลงทุนจึงไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด กองทุนทั้ง 2 มีมูลค่าโครงการละ 1,500 ล้านบาท ราคา 10 บาทต่อหน่วย มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุนเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ นโยบายการลงทุนของกองทุนทั้ง 2 ดังกล่าว เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในต่างประเทศ (FIF) ซึ่งเป็นตราสารภาครัฐที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ใน 2 อันดับแรก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด โดยตราสารที่กองทุนลงทุนส่วนใหญ่จะมีอายุคงเหลือใกล้เคียงกับอายุโครงการเพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดและสภาพคล่อง จากการลงทุนในตราสารประเภทนี้ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนนี้ จึงเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคง อีกทั้ง ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนเกินทุน
สำหรับกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ และ กองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลีซึ่งได้ปิดเสนอขายหน่วยลงทุนไปนั้น เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) โดยกองทุนเปิดเอสซีไอ นิวซีแลนด์ บอนด์ มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐต่างประเทศ โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศนิวซีแลนด์ ที่ได้รับการจัดเรตติ้งอยู่ในระดับ AAA หรือมีอันดับความเชื่ออยู่ใน 2 อันดับแรก โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนกองทุนเปิดเอสซีไอ พันธบัตรเกาหลี เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมตราสารแห่งนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตราสารหนี้ภาครัฐที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ใน 2 อันดับแรก หรือมีเครดิตเรตติ้งที่ AA ขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวบริษัทจัดการกอลงทุนได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็ม 100% เนื่องจากเป็นการเข้าลงทุนในรูปสกุลเงินบาท