แอสเซทพลัสปลื้ม 6M4 ปิดยอดไอพีโอสุดหรู 1.3 พันล้านบาท เตรียมเปิดกองบอนด์โสม 6M เพิ่มอีก ระยะเวลาลงทุน 6 เดือน ชูผลตอบแทน 3.35-3.40%* ต่อปี เชื่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศเกาหลีจะมีช่องว่างในการสร้างผลตอบแทนอีกระยะหนึ่งก่อนปรับสู่สมดุล
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด (บริษัทฯ) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเอฟไอเอฟตราสารหนี้ 6M4 ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้อายุ 6 เดือน ซึ่งปิดการเสนอขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 เมษายน ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี โดยปิดยอดจองซื้อได้ 1,315.88 ล้านบาท และสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน 3.40% ต่อปี
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเอฟไอเอฟตราสารหนี้ 6M ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ระยะสั้นเพียง 6 เดือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารระยะสั้นไม่เกิน 1 ปีแต่สามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ โดยกองทุนดังกล่าวจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 12 พฤษภาคม นี้
กองทุนเปิดเอฟไอเอฟตราสารหนี้ 6M มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยบริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ และหรือเงินฝากระยะสั้น หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด (Near cash) ระยะสั้น ซึ่งสถาบันการเงินในประเทศที่กองทุนได้ลงทุนเป็นผู้ออก โดยอาจทำสัญญาสวอปและ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) รวมถึง Credit Linked Note กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์สภาพคล่อง ตราสารแห่งหนี้ เงินฝากในประเทศ ที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี
“จากการประมาณการผลตอบแทนของกองทุน ซึ่งจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ อายุประมาณ 6 เดือน เช่น Korea Treasury Bond, Korea Stabilization Bond, Korean Development Bank และ Export-Import Bank of Korea ในสัดส่วน 100% ให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับ 4.00-4.15%* โดยหลังจากทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 0.65% แล้ว คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนประมาณ 3.35-3.40%** ต่อปี”
นางลดาวรรณ กล่าวอีกว่า ภาวะตลาดการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศช่วงนี้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ยังเป็นตราสารที่สนใจของผู้ลงทุน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำและเป็นประเทศที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ AA และสามารถให้ผลตอบแทนที่หลังปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนแล้วยังอยู่ในระดับที่จูงใจ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาวะผลตอบแทนพันธบัตรเกาหลีใต้ที่อยู่ในระดับสูงจากส่วนต่างดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศเกาหลีใต้ดังกล่าวจะยังคงอยู่อีกระยะหนึ่ง และอาจปรับตัวลดลงหลังจากที่ตลาดปรับสมดุลแล้ว” นางลดาวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ในปี 2551 อีกอย่างน้อย 10,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 45% จากปีที่ผ่านมา โดยจะมาจากการเพิ่มขึ้นของธุรกิจกองทุนรวมเป็นหลัก โดยในปีนี้มีแผนออกกองทุนใหม่ ทั้งกองทุนตราสารหนี้และตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศ และการขยายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมเดิม