ซินหัวเน็ต - หลังหุ้นจีนได้มีโอกาสขึ้นบ้างในช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าอาจจะเป็นช่วงพักหายใจ และอาจจะทำให้ดัชนีตลาดหันมาอยู่ในแดนบวกมากขึ้น อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์แนะว่าระหว่างนี้เป็นช่วงเปลี่ยนระบบการประเมินราคาใหม่ จึงควรหันมาถือหุ้นในภาคการผลิต และหุ้นด้านสาธารณูปโภค
ดัชนีหุ้นในวันจันทร์ของตลาดเซี่ยงไฮ้ปิดบวก 4.45% ด้วยแรงซื้อจากต่างชาติในหุ้นเหล็กและทรัพยากร โดยเป็นการขึ้นมาถึง 160.87 จุด ทั้งที่ในหลายเดือนที่ผ่านมาดัชนีหุ้นกระดานเอของจีนได้ตกร่วงลงมาเกือบตลอด จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ก็มีอาการตกที่ค่อยๆเบาลง จนกระทั่งรีบาวด์ขึ้นมาในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเฉพาะหุ้นธนาคาร หรือหุ้นในกลุ่มเหล็กเป็นต้น จากสถานการณ์นี้ ได้ทำให้หลายฝ่ายมองว่าหุ้นกระดานเอที่ร่วงอย่างหนักมาตลอด อาจจะมีโอกาสได้หยุดพักหายใจบ้าง
คนในวงในตลาดหลักทรัพย์ได้มองว่า การที่ดัชนีหุ้นกระดานเอร่วงลงมากถึงเพียงนี้ น่าจะมีสาเหตุที่หลากหลาย ด้านหนึ่งคือนโยบายการควบคุมเข้มงวดด้านการเงินนั้น ก็ยังไม่ได้ข่าวการปรับตามที่คาดแต่อย่างใด บวกกับผลประกอบการของบริษัทที่เข้าสู่ตลาดก็มีอัตราการเติบโตที่ลดลง บวกกับการประเมินมูลค่าในระบบเก่าและใหม่ของตลาดที่ค่อนข้างสับสน ทำให้หุ้นกระดานเอพบกับโศกนาฏกรรมถึงเพียงนี้
ทว่า เมื่อถึงช่วงปลายสัปดาห์ ที่หุ้นหลายตัวอาทิหุ้นของกลุ่มธนาคาร ที่สามารถฝ่ากระแสการดิ่งเหวของตลาดหลักทรัพย์มังกรมาได้ ก็เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า ในระยะสั้น หุ้นกระดานเอของจีนอาจจะได้พักหายใจ หรืออาจถึงกับสามารถดีดตัวกลับขึ้นไปใหม่ได้ สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ในช่วงเวลานี้ อาจจะมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งที่จะเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรก ซึ่งอาจจะทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ดิ่งกลับไปใหม่อีกครั้ง
ด้านนักวิเคราะห์ได้ระบุว่า "แม้ว่าผลกำไรของบริษัทในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. จะลดลงเป็นอย่างมาก แต่สาเหตุนั้นมาจากผลประกอบการโรงกลั่นของบริษัทน้ำมัน กับธุรกิจไฟฟ้าที่ลดลงมาก หากตัดทั้ง 2 นี้ออกแล้ว อัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นน่าจะยังสูงอยู่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ในตลาดกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนระบบการประเมินราคาเก่ากับใหม่ ซึ่งอาจจะมีผลให้หุ้นที่มีราคาสมเหตุสมผลอยู่แล้วนั้นสามารถมีราคาพุ่งขึ้น และอัตราการทำกำไรในไตรมาสแรกก็อาจจะเพิ่มขึ้นจากที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ในขณะเดียวกัน หุ้นบางตัวที่ขาดการผลิตเป็นตัวหนุนอาจจะมีผลกำไรลดต่ำลง
นักวิเคราะห์ได้แนะนำว่า ผู้ลงทุนควรอาศัยช่วงเวลาการปรับตัวขึ้นของตลาดในตอนนี้ในการสับเปลี่ยนหุ้น โดยให้ปล่อยหุ้นที่ไม่มีภาคการผลิตจริงหนุนหลังอยู่ เพื่อป้องกันการขาดทุน แล้วหันไปถือหุ้นที่มีเสถียรภาพในระยะยาวแทน นอกจากนั้นยังสามารถตามหุ้นด้านสาธารณูปโภคเช่นประปา ไฟฟ้า ทางด่วน หรือหุ้นทรัพยากรได้
ดัชนีหุ้นในวันจันทร์ของตลาดเซี่ยงไฮ้ปิดบวก 4.45% ด้วยแรงซื้อจากต่างชาติในหุ้นเหล็กและทรัพยากร โดยเป็นการขึ้นมาถึง 160.87 จุด ทั้งที่ในหลายเดือนที่ผ่านมาดัชนีหุ้นกระดานเอของจีนได้ตกร่วงลงมาเกือบตลอด จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ก็มีอาการตกที่ค่อยๆเบาลง จนกระทั่งรีบาวด์ขึ้นมาในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเฉพาะหุ้นธนาคาร หรือหุ้นในกลุ่มเหล็กเป็นต้น จากสถานการณ์นี้ ได้ทำให้หลายฝ่ายมองว่าหุ้นกระดานเอที่ร่วงอย่างหนักมาตลอด อาจจะมีโอกาสได้หยุดพักหายใจบ้าง
คนในวงในตลาดหลักทรัพย์ได้มองว่า การที่ดัชนีหุ้นกระดานเอร่วงลงมากถึงเพียงนี้ น่าจะมีสาเหตุที่หลากหลาย ด้านหนึ่งคือนโยบายการควบคุมเข้มงวดด้านการเงินนั้น ก็ยังไม่ได้ข่าวการปรับตามที่คาดแต่อย่างใด บวกกับผลประกอบการของบริษัทที่เข้าสู่ตลาดก็มีอัตราการเติบโตที่ลดลง บวกกับการประเมินมูลค่าในระบบเก่าและใหม่ของตลาดที่ค่อนข้างสับสน ทำให้หุ้นกระดานเอพบกับโศกนาฏกรรมถึงเพียงนี้
ทว่า เมื่อถึงช่วงปลายสัปดาห์ ที่หุ้นหลายตัวอาทิหุ้นของกลุ่มธนาคาร ที่สามารถฝ่ากระแสการดิ่งเหวของตลาดหลักทรัพย์มังกรมาได้ ก็เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า ในระยะสั้น หุ้นกระดานเอของจีนอาจจะได้พักหายใจ หรืออาจถึงกับสามารถดีดตัวกลับขึ้นไปใหม่ได้ สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ในช่วงเวลานี้ อาจจะมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งที่จะเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรก ซึ่งอาจจะทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ดิ่งกลับไปใหม่อีกครั้ง
ด้านนักวิเคราะห์ได้ระบุว่า "แม้ว่าผลกำไรของบริษัทในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. จะลดลงเป็นอย่างมาก แต่สาเหตุนั้นมาจากผลประกอบการโรงกลั่นของบริษัทน้ำมัน กับธุรกิจไฟฟ้าที่ลดลงมาก หากตัดทั้ง 2 นี้ออกแล้ว อัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นน่าจะยังสูงอยู่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้ในตลาดกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนระบบการประเมินราคาเก่ากับใหม่ ซึ่งอาจจะมีผลให้หุ้นที่มีราคาสมเหตุสมผลอยู่แล้วนั้นสามารถมีราคาพุ่งขึ้น และอัตราการทำกำไรในไตรมาสแรกก็อาจจะเพิ่มขึ้นจากที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ในขณะเดียวกัน หุ้นบางตัวที่ขาดการผลิตเป็นตัวหนุนอาจจะมีผลกำไรลดต่ำลง
นักวิเคราะห์ได้แนะนำว่า ผู้ลงทุนควรอาศัยช่วงเวลาการปรับตัวขึ้นของตลาดในตอนนี้ในการสับเปลี่ยนหุ้น โดยให้ปล่อยหุ้นที่ไม่มีภาคการผลิตจริงหนุนหลังอยู่ เพื่อป้องกันการขาดทุน แล้วหันไปถือหุ้นที่มีเสถียรภาพในระยะยาวแทน นอกจากนั้นยังสามารถตามหุ้นด้านสาธารณูปโภคเช่นประปา ไฟฟ้า ทางด่วน หรือหุ้นทรัพยากรได้