xs
xsm
sm
md
lg

"QHOP"ได้ฤกษ์เปิดเทรด3เม.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาติให้กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ เปิดซื้อขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 3 เมษายนนี้ ใช้ชื่อย่อ "QHOP" ขณะที่ " ควอลิตี้ อินน์ - สำนักงาน ประกันสังคม - ธนาคาร ทหารไทย" ครองตำแหน่ง 3 ผู้ถือหน่วยรายใหญ่สุดหลังปิดไอพีโอ

นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้มีมติให้รับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยกำหนดให้หน่วยลงทุนของกองทุนจำนวน 191.30 ล้านหน่วย ในมูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท รวม 1,913 ล้านบาท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2551 เป็นต้นไป ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "QHOP"

สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้นั้น เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนและเป็นกองทุนรวมที่ระบุเฉพาะเจาะจง ไม่กำหนดอายุโครงการ โดยกองทุนจะลงทุนโดยการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นอาคารโรงแรม (Hotel) จำนวน 1โครงการ ได้แก่ โครงการโรงแรมอมารี บูเลอวาร์ด (Amari Boulevard Hotel) เป็นระยะเวลา 30 ปี และได้เปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 3-11 มีนาคม 2551

โดยกองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในกรณีที่กองทุนรวมมีกำไรสุทธิในแต่ละปี โดยบริษัทจัดการจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิประจำปี

ทั้งนี้รายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ ณ วันที่ 17 มีนาคม 2551 ปรากฎดังต่อไปนี้ อันดับ 1 บริษัท ควอลิตี้ อินน์ จำกัด ถือหน่วยลงทุนจำนวน 63,766,600 หน่วย คิดเป็น 33.33% , อันดับ 2 สำนักงาน ประกันสังคม ถือหน่วยลงทุน จำนวน 63,000,000 หน่วย คิดเป็น 32.93% , อันดับ 3 ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุน จำนวน 33,802,400 หน่วย คิดเป็น 17.67% , อันดับ 4 นาย พิภพ วีระพงษ์ ถือหน่วยลงทุน จำนวน 2,000,000 หน่วย คิดเป็น 1.05%

ขณะเดียวกันอันดับ 5 ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ถือหน่วยลงทุน จำนวน 2,000,000 หน่วย คิดเป็น 1.05% , อันดับ 6 บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด โดย บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ถือหน่วยลงทุน จำนวน 2,000,000 หน่วย คิดเป็น 1.05% , อันดับ 7 นาย อานันท์ ตันติจรัสชีพ ถือหน่วยลงทุน จำนวน 1,100,000 หน่วย คิดเป็น 0.58% , อันดับ 8 นาย สมลักษณ์ ทูลกำธรชัย ถือหน่วยลงทุน จำนวน 1,000,000 หน่วย คิดเป็น 0.52%

ส่วนอันดับ 9 นาย ชลิน หมู่ธนะกิจภิญโญ ถือหน่วยลงทุน จำนวน 800,000 หน่วย คิดเป็น 0.42% และอันดับ 10 นาย บัณฑิต วณิเกียรติ ถือหน่วยลงทุน จำนวน 700,000 หน่วย คิดเป็น 0.37%

ก่อนหน้านี้ นายมาริษท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ เปิดเผยว่ากองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ มีนโยบายเน้นลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารโรงแรมอมารี บูเลอวาร์ด เป็นระยะเวลา 30 ปี ซึ่งในการเข้าไปลงทุนกองทุนจะได้รับรายได้เป็นค่าเช่าคงที่ปีละประมาณ 125 ล้านบาท โดยเป็นการทำสัญญาเช่าเหมาอายุ 3 ปี พร้อมเงื่อนไขต่อสัญญาอีก 9 ครั้ง

นอกจากค่าเช่าคงที่ซึ่งกองทุนจะได้รับแล้ว กองทุนรวมยังได้รับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นตามผลประกอบการจริงของโรงแรม ขณะเดียวกันในช่วง 5 ปีแรกของการลงทุนเจ้าของโรงแรมได้รับประกันค่าเช่าขั้นต่ำ โดยใน 2 ปีแรก เจ้าของโรงแรมรับประกันค่าเช่าขั้นต่ำที่กองทุนจะได้รับประมาณ 173 ล้านบาท และ 3 ปีถัดไปมีการรับประกันค่าเช่าขั้นต่ำประมาณ 163 ล้านบาท และได้มีการทำหนังสือค้ำประกันธนาคาร ในวงเงินค้ำประกัน 100 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันการชำระค่าเช่าขั้นต่ำดังกล่าว

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในปีแรกของการลงทุนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ น่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 8.73% และคาดการณ์ผลตอบแทนการลงทุนตลอดอายุสิทธิการเช่า 30 ปี กองทุนน่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 11%
กำลังโหลดความคิดเห็น