ตลท.เผยหลังเดินทางโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น นักลงทุนแดนปลาดิบพอใจกับข้อมูลที่ได้รับ และเกิดความมั่นใจที่จะเข้าลงทุนในตลาดทุนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะการยกเลิกมาตรการ 30% และการลงทุนเมกะโปรเจกต์ เชื่อผู้ลงทุนญี่ปุ่นเพิ่มการลงทุนมากขึ้น
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การไปให้ข้อมูลและพบปะกับผู้ลงทุน ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17–21 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น ได้มีการพบกับทั้งผู้ลงทุนสถาบันตามคำเชิญของ บล.พัฒนสิน ร่วมกับ Nomura Securities และพบกับผู้ลงทุนบุคคลตามคำเชิญของ บล.ยูไนเต็ด ร่วมกับ United World Japan K.K. ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการไปให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนญี่ปุ่นได้รับทราบข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดทุนไทยมากขึ้น โดยเห็นได้ว่าผู้ลงทุนพอใจกับข้อมูลที่ได้รับ ทำให้มีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยมากยิ่งขึ้น หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดแล้ว
สำหรับการให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันระหว่างวันที่ 17-19 มี.ค.นั้น ผู้ลงทุนที่มารับฟังข้อมูลประกอบด้วย ผู้บริหารและผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน บริษัทที่ปรึกษาการลงทุน และสถาบันการเงินจำนวน 12 ราย โดยมีการพบปะทั้งแบบตัวต่อตัว (One-on-One Meeting) การประชุมกลุ่ม (Group Meeting) และมีโอกาสเข้าพบเยี่ยมเยียนผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินต่างๆ ด้วย
โดย บริษัทจดทะเบียนที่ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลด้วย ได้แก่ บมจ.ธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.ปตท.(PTT) บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) และ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN) ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตัวแทนภาคธุรกิจที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ โดยได้พบและให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนสถาบันแบบตัวต่อตัวบริษัทละไม่ต่ำกว่า 5 การประชุม รวมทั้งสิ้นถึง 35 การประชุม
“การให้ข้อมูลครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จ โดยจากการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเห็นความสำคัญของตลาดทุนไทยจากรัฐบาล การมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การยกเลิกมาตรการกันเงินทุนสำรองระยะสั้นร้อยละ 30 รวมทั้งการเดินหน้านโยบายลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ลงทุนสถาบันมั่นใจในการมาลงทุนในตลาดทุนไทยมากยิ่งขึ้น โดยสถาบันการเงินที่ ตลท.ได้เข้าพบ มีมุมมองที่เป็นบวกกับตลาดทุนไทย โดยบางแห่งได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไทย (Overweight) มีการแนะนำให้ซื้อหุ้นในไทย สิ่งที่สำคัญ คือ นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ดี ไม่แกว่งตัวมากเหมือนตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในเอเชียด้วย จึงเชื่อมั่นว่าจะมีการเพิ่มการลงทุนจากผู้ลงทุนญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น” นางภัทรียา กล่าว
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ไปให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนบุคคลกล่าว ว่า ผู้ลงทุนบุคคลชาวญี่ปุ่นมีความพอใจกับข้อมูลที่ไปนำเสนอและไม่เป็นห่วงใสถานการณ์การเมือง และเชื่อถือในสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ได้รับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และภาพรวมเกี่ยวกับตลาดทุนไทย และมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อไป
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การไปให้ข้อมูลและพบปะกับผู้ลงทุน ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17–21 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น ได้มีการพบกับทั้งผู้ลงทุนสถาบันตามคำเชิญของ บล.พัฒนสิน ร่วมกับ Nomura Securities และพบกับผู้ลงทุนบุคคลตามคำเชิญของ บล.ยูไนเต็ด ร่วมกับ United World Japan K.K. ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการไปให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนญี่ปุ่นได้รับทราบข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดทุนไทยมากขึ้น โดยเห็นได้ว่าผู้ลงทุนพอใจกับข้อมูลที่ได้รับ ทำให้มีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยมากยิ่งขึ้น หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดแล้ว
สำหรับการให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันระหว่างวันที่ 17-19 มี.ค.นั้น ผู้ลงทุนที่มารับฟังข้อมูลประกอบด้วย ผู้บริหารและผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน บริษัทที่ปรึกษาการลงทุน และสถาบันการเงินจำนวน 12 ราย โดยมีการพบปะทั้งแบบตัวต่อตัว (One-on-One Meeting) การประชุมกลุ่ม (Group Meeting) และมีโอกาสเข้าพบเยี่ยมเยียนผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินต่างๆ ด้วย
โดย บริษัทจดทะเบียนที่ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลด้วย ได้แก่ บมจ.ธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.ปตท.(PTT) บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) และ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN) ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตัวแทนภาคธุรกิจที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ โดยได้พบและให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนสถาบันแบบตัวต่อตัวบริษัทละไม่ต่ำกว่า 5 การประชุม รวมทั้งสิ้นถึง 35 การประชุม
“การให้ข้อมูลครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จ โดยจากการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเห็นความสำคัญของตลาดทุนไทยจากรัฐบาล การมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การยกเลิกมาตรการกันเงินทุนสำรองระยะสั้นร้อยละ 30 รวมทั้งการเดินหน้านโยบายลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ลงทุนสถาบันมั่นใจในการมาลงทุนในตลาดทุนไทยมากยิ่งขึ้น โดยสถาบันการเงินที่ ตลท.ได้เข้าพบ มีมุมมองที่เป็นบวกกับตลาดทุนไทย โดยบางแห่งได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไทย (Overweight) มีการแนะนำให้ซื้อหุ้นในไทย สิ่งที่สำคัญ คือ นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ดี ไม่แกว่งตัวมากเหมือนตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในเอเชียด้วย จึงเชื่อมั่นว่าจะมีการเพิ่มการลงทุนจากผู้ลงทุนญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น” นางภัทรียา กล่าว
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ไปให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนบุคคลกล่าว ว่า ผู้ลงทุนบุคคลชาวญี่ปุ่นมีความพอใจกับข้อมูลที่ไปนำเสนอและไม่เป็นห่วงใสถานการณ์การเมือง และเชื่อถือในสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ได้รับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และภาพรวมเกี่ยวกับตลาดทุนไทย และมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อไป
