บลจ.ไอเอ็นจี เข็นกองทุน "ไอเอ็นจี ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล อินคัม 1"เข้าตลาดชิมลางกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ คาดผลตอบแทนสูงถึง 3.8% ไอพีโอถึง 3 เม.ย. 51
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล อินคัม 1 (ING II1) ครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 เมษายน 2551 และจะไม่เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนภายหลังการเสนอขายครั้งแรก โดยกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
ขณะที่กองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ และคาดการณ์ผลตอบแทนของการลงทุนประมาณ 3.8% ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่สูงขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากอัตราสวอปเรสที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
"กองทุนนี้แม้ตามหนังสือชี้ชวนจะจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมผสม แต่จริงแล้วจะเน้นลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ โดยคาดผลตอบแทนประมาณ 3.8% ซึ่งสูงกว่าที่ผ่านมา เพราะสวอปเรสปรับตัวขึ้น" นายจุมพล กล่าว
สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล อินคัม 1 เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่ลงทุนในตราสารทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific fund) และมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้เงินฝาก และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structures Note) หรือ Credit Linked Note ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และสถาบันการเงินต่างประเทศ
โดยตราสารดังกล่าวได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสาร จากสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grad) ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงทุน
ทั้งนี้กรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 1 ปี โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารเพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 1 ปี
ส่วนในภาวะปกติ กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เว้นแต่ในช่วงระหว่างรอการลงทุน ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 15 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สิน และในช่วงระยะก่อนเลิกโครงการ สัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศอาจต่ำกว่ากำหนดไว้ในโครงการตามข้างต้นได้
ขณะเดียวกันเงินทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ที่ไม่ขัดต่อประกาศของก.ล.ต. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีวัตุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล อินคัม 1 (ING II1) ครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 เมษายน 2551 และจะไม่เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนภายหลังการเสนอขายครั้งแรก โดยกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
ขณะที่กองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ และคาดการณ์ผลตอบแทนของการลงทุนประมาณ 3.8% ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่สูงขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากอัตราสวอปเรสที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
"กองทุนนี้แม้ตามหนังสือชี้ชวนจะจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมผสม แต่จริงแล้วจะเน้นลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ โดยคาดผลตอบแทนประมาณ 3.8% ซึ่งสูงกว่าที่ผ่านมา เพราะสวอปเรสปรับตัวขึ้น" นายจุมพล กล่าว
สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล อินคัม 1 เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่ลงทุนในตราสารทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific fund) และมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้เงินฝาก และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structures Note) หรือ Credit Linked Note ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และสถาบันการเงินต่างประเทศ
โดยตราสารดังกล่าวได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสาร จากสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grad) ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงทุน
ทั้งนี้กรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 1 ปี โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารเพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 1 ปี
ส่วนในภาวะปกติ กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เว้นแต่ในช่วงระหว่างรอการลงทุน ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 15 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สิน และในช่วงระยะก่อนเลิกโครงการ สัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศอาจต่ำกว่ากำหนดไว้ในโครงการตามข้างต้นได้
ขณะเดียวกันเงินทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ที่ไม่ขัดต่อประกาศของก.ล.ต. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีวัตุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร