นิทานการลงทุน
ต้นกล้ากับกระปุกออมสิน
...ต่อจากฉบับที่แล้ว
ต้นกล้าและเข้มได้ของที่แต่ละคนต้องการแล้ว หลังจากใช้เวลาเดินเลือกอยู่พักใหญ่....ต้นกล้าเลือกเมล็ดพันธุ์ผักมาหลายชนิดอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นพักบุ้ง คะน้า ผักกาดขาว กวางตุ้ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผักสวนครัวทั้งสิ้น นอกจากนั้นเขายังไม่ลืมซื้อกิ่งพันธุ์ชะอมที่เขาโปรดปรานมากที่สุดเวลากินกับน้ำพริกปลาทูฝีมือคุณนายสุขใจมาด้วย 5 กิ่ง...งานนี้ต้นกล้ากะไม่ให้แม่ออกไปจ่ายตลาดเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้นกล้าหิ้วมาด้วย ก็คือ ขวดโหลพร้อมด้วยลังไม้สีเหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งของสองสิ่งนี้เองที่ทำเอาเข้มและกระปุกงงว่า ต้นกล้าซื้อไปทำไม...การจะซื้อเมล็ดพันธุ์ผักแล้วให้ใครไปทั้งห่ออย่างนั้น แน่นอนว่ามันไม่เหมาะกับการเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่ ดังนั้นต้นกล้าก็เลยทำให้มันดูดีขึ้นมาซะหน่อย
ทั้งสองคนหอบข้าวของพะรุงพะรังออกมาจากสวนจตุจัตร และใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะโบกรถแท็กซี่ได้คันหนึ่ง ต้นกล้าให้เข้มไปก่อน เพราะเข้มซื้อของมาค่อนข้างเยอะ...แต่ก่อนไป เข้มไม่ลืมที่จะย้ำกับต้นต้นกล้าว่า "แล้วเจอกันวันจันทร์"
ต้นกล้าและกระปุกใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะโบกรถแท็กซี่กลับบ้านได้...ช่วงเวลาที่นักชอปทุกคนมุ่งหน้ากลับบ้านแบบนี้ คงต้องอาศัยจังหวะแย่งรถกันหน่อยละ...หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว ต้นกล้าก็จัดแจงเปิดกระเป๋าเป้ที่เขาวางมันเอาไว้เบาะหลังคนขับ เพื่อให้กระปุกได้ออกมารับลมเย็นๆ จากแอร์ในรถ เพราะอุดอู้อยู่ในกระเป๋ามานานแล้ว...
"เป็นไงบ้างกระปุก" ต้นกล้าก้มลงไปกระซิบเบาๆ
"ยังสบายดีอยู่ แต่อากาศร้อนเป็นบ้าเลย"
"จริงเหรอ? ไม่เห็นร้อนเลย"
"นายลืมไปหรือเปล่าว่าฉันอยู่ในกระเป๋า"
"แฮ่ๆๆๆ ลืมไป โทษที...กระปุก! เดี๋ยวต้นจะขยับไปนั่งที่ตรงนั้น แล้วให้กระปุกขึ้นมานั่งบนตักเอาไหม?"
"มันจะดีเหรอ"
"เอาน่า...อยู่หลังเบาะแบบนี้ พี่คนขับเขามองไม่เห็นหรอกน่า นายจะได้เปิดหูเปิดตา ดูบรรยากาศของกรุงเทพบ้าง..โอเคนะ?"
"ว่าไงก็ว่าตามกัน"
กระปุกรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะนานแล้วที่เขาไม่ได้ออกมาเปิดหูเปิดตาแบบนี้... "บรรยากาศของกรุงเทพยามโพล้เพล้แบบนี้ ก็น่าดูเหมือนกันแฮะ" กระปุกคิดในใจ
"พี่ครับ ผมรบกวนพี่เปิดเพลงฟังหน่อยได้ไหมครับ"
"ได้ครับ...เอาคลื่นนี้แล้วกันนะครับ"
"ยังไงก็ได้ครับพี่" เขาตั้งใจพูดคำนี้ออกมา เพื่อให้แน่ใจว่าพี่คนขับแท็กซี่จะมองไม่เห็นความผิดปกติข้างหลังเบาะ...แล้วก็เป็นอย่างที่ต้นกล้าคิด "ไม่เห็นจริงๆ ด้วย กระปุกสบายใจได้" เขากระซิบบอกกระปุก
ทั้งต้นกล้าและกระปุกดื่มด่ำกับบรรยากาศของกรุงเทพ ในยามที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เคล้าคลอไปกับเสียงเพลงจากคลื่นวิทยุที่เปิดแบบต่อเนื่อง โดยไม่มีดีเจมาพูดคั่นให้เสียอารมณ์...ต้นกล้ามองไปทีกระปุก เขาดีใจที่เห็นกระปุกดูตื่นเต้นกับการออกมาพจญภัยในครั้งนี้
เสียงเพลงเล่นต่อเนื่อง 4 เพลงรวด ก่อนจะถูกคั่นด้วยสปอตโฆษณา...ซึ่งเป็นโฆษณาของ บลจ.แห่งหนึ่งที่กำลงัเชิญชวนให้คนฟังไปลงทุนด้วย "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน" เป็นประโยคที่ปิดท้ายสปอตโฆษณาตัวนี้
ต้นกล้ากับกระปุกหันมามองหน้ากัน "เดี๋ยวนี้รายการวิทยุก็มีโฆษณาของกองทุนรวมด้วย" ต้นกล้ากระซิบ...กระปุกพยักหน้ากลับมาแทนคำพูด
"ต้นว่านี่คงจะเป็นการเตรียมความพร้อมของบลจ.เพื่อรับมือกับ พ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝากที่กำลังจะมีผลบังคับใช้เร็วๆนี้" กระปุกพยักหน้าตอบอีกครั้ง
**********************
คนขับรถแท็กซี่ยังคงมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่ต้นกล้าบอกไว้...เสียงเพลงทำให้ต้นกล้าเคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนกระปุกก็ชื่นชมบรรยากาศยามค่ำคืนของกรุงเทพตลอดทาง และระหว่างนั้นเอง เขาก็เหลือบไปเห็นบิลบอร์ดโฆษณาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมถนน...บิลบอร์ดที่ว่านี้ เป็นข้อความโฆษณาเชิญชวนลงทุนของ บลจ.แห่งเดียวกันกับที่เขาได้ยินจากคลื่นวิทยุเมื่อสักครู่ใหญ่ที่ผ่านมา... กระปุกหันไปมองต้นกล้าที่ยังหลับอยู่...ตอนนี้เขาเห็นด้วยกับต้นกล้าแล้วว่า หลังจากนี้ บลจ.คงต้องแข่งกันสร้างแบนด์ของตัวเองเพื่อให้เป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนมากขึ้น เพราะของแบบนี้ใครเริ่มก่อนย่อมได้เปรียบ
ผ่านบิลบอร์ดโฆษณาขนาดใหญ่ไป กระปุกก็เริ่มคุ้นกับเส้นทางมากขึ้น "นี่มันทางกลับบ้านนี่น่า" กระปุกอุทานเบาๆ ก่อนจะหันไปเขย่าตัวต้นกล้า... "ต้นกล้า"
"ถึงบ้านแล้วเหรอกระปุก"
"ว่าไงนะครับ" เสียงคนขับรถถามกลับมา
"อ๋อ ไม่มีอะไรครับ คือจะถึงแล้วครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยวเข้าซอยหน้า แล้วตรงไปจนสุดซอยเลยนะครับ"
"ครับผม"
ต้นกล้าถอนหายใจ "เกือบไปแล้วเรา"
*****************
"กลับมาแล้วครับแม่" ไม่มีเสียงตอบรับ ต้นกล้าวางของและกระเป๋าเอาไว้ที่โซฟา "แม่ครับ...พ่อครับ" ไม่มีเสียงตอบรับอีก ต้นกล้าเดินอ้อมไปดูหลังบ้าน "กำลังง่วนอยู่ที่แปลงผักจริงๆ ด้วย" เป็นอย่างที่ต้นกล้าคิดเอาไว้...เขาเดินกลับมาเอาของขึ้นไปเก็บไวที่ห้อง
คุณนายสุขใจเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับผักเต็มตะกร้า "อ้าว นี่มันกระเป๋าเจ้าต้นนี่น่า กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ละลูกคนนี่ แล้วดูซิกระเป๋าก็ไม่รูดซิปปิดให้ดีๆ เจ้าลูกค้นนี้นี่" คุณนายสุขใจวางตะกร้าผัก หยิบกระเป๋าขึ้นมาหวังจะปิดให้ แต่สิ่งที่เห็นทำเอาเธอแปลกใจพอสมควร
"นี่เจ้าต้นมันเอากระปุกออมสินติดตัวไปด้วยเหรอนี่" คุณนายสุขใจหยิบกระปุกออมสินออกมาจากกระเป๋า...เธอนึกย้อนกลับไปถึงวันที่ต้นกล้าวิ่งหน้าตาตื่นเอากระปุกออมสินตัวนี้มารบเร้าให้ล้างทำความสะอาดให้ แถมยังบอกอีกว่ากระปุกออมสินตัวนี้มันขยับได้ คุณนายสุขใจลองเขย่าดู "ไม่เห็นจะขยับได้เลย"
ตอนนี้กระปุกออมสินใจเต้นตูมตามไม่เป็นจังหวะ เขาคิดในใจว่า "ต้นกล้านะต้นกล้า ได้ของไปแล้วลืมเราสนิทเลย"
เสียงฝีเท้าวิ่งลงมาจากบันได
"อ้าวต้น จะรีบไปไหนลูก เดี๋ยวก็หกล้มเอาหรอก...แล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ละเรา"
ต้นกล้ายืนนิ่งอยู่สักพัก...เพราะภาพที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ คือ ภาพที่แม่กำลังถือกระปุกไว้ในมือ
"เออ....กลับมาได้สักพักแล้วครับ พอดีเห็นพ่อกับแม่อยู่หลังบ้านก็เลยเอาของขึ้นไปเก็บก่อน" ต้นกล้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
"ทำไมเสียงสั่นๆ อย่างนั้นละลูก ไม่สบายหรือเปล่า"
"เออ...เปล่าครับแม่" เสียงต้นกล้ายังสั่นอยู่
"เอ้า...นี่กระปุกออมสินของเรา พอดีแม่เห็นกระเป๋าเปิดอยู่ ว่าจะปิดให้ซะหน่อยก็ไปเห็นเจ้านี่เข้า...ว่าแต่ลูกเอากระปุกออมสินติดตัวไปด้วยเหรอ"
"ครับ" ต้นกล้ารับกระปุกมาจากมือแม่
"แล้วไม่หนักแย่เหรอลูกแบกไปด้วยแบบนี้"
"ไม่ครับ"
"ไปกันใหญ่แล้ว...เป็นอะไรหรือเปล่าลูก เสียงสั่นๆ แถมยังถามคำตอบคำอีก" คุณนายสุขใจเดินไปแตะหน้าผากต้นกล้า"ตัวก็ไม่ร้อนซะหน่อย"
"ต้นสบายดีครับแม่"
"ไป...เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ แล้วอาบน้ำอาบท่าลงมาทานข้าวได้แล้วลูก"
"ครับแม่"
ต้นกล้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากแม่เดินลับหลังไป "เฮ้อ....เกือบไปแล้วเรา" ต้นกล้ารีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง...เขาวางกระปุกลงที่โต๊ะ "ไม่มีอะไรแล้วกระปุก"
กระปุกถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโต๊ะ "นายนี่มันจริงๆ เลย เล่นเอาฉันตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกเลย"
"ขอโทษคราบ...อย่าว่าแต่กระปุกเลย ต้นก็แข็งทื่อไปเหมือนกันตอนที่เห็นกระปุกอยู่ที่มือแม่...แต่ก็ตื่นเต้นดีนะ"**
"ไม่ตลกเลยนะต้น"
"แฮะๆๆๆ...งั้นต้นไปอาบน้ำก่อนนะ"
"ต้น..."
"หืมม์" ต้นกล้าหันมาตามเสียงเรียก
กระปุกยิ้มให้ ก่อนพูดออกมาว่า "ขอบใจนะที่พากระปุกออกไปเที่ยววันนี้"
ต้นกล้ายิ้ม "สำหรับเพื่อนแค่นี้จิ๊บ จิ๊บ" ...แต่ในใจเขาดีใจที่เห็นกระปุกยิ้มได้แล้ว
...อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า