บลจ.พรีมาเวสท์คาดปีนี้ ออกพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ได้อย่างน้อย 1 กองทุน เผยเป็นกองทุนเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ชี้ยกเลิก 30% ดันตลาดกองทุนอสังหาฯ โตขึ้น แนะภาครัฐ เปิดทางลงทุน REATs ต่างประเทศ 100% หวังเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุน
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภายในปีนี้คาดว่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ได้อย่างน้อย 1 กองทุน โดยเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์ มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนเดิมที่วางแผนออกไปก่อนการประกาศยกเลิกมาตรการกันเงินสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อยู่อีกประมาณ 1-2 ราย โดยมีมูลค่าโครงการที่ใหญ่ขึ้น เพราะตั้งเป้าหมายระดมทุนจากนักลงทุนต่างชาติด้วย แต่ตอนนี้ งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะจัดตั้งกองทุนได้ทันในปีนี้หรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างการเจรจา
"ที่แน่นอนแล้วในปีนี้ น่าจะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างน้อย 1 กองทุน แต่ตอนนี้ก็ยังมีการเจรจากับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ อีกประมาณ 1-2 ราย ซึ่งมีมูลค่าที่ใหญ่ขึ้น และตั้งเป้าขายให้กับนักลงทุนต่างชาติด้วย"นายเพิ่มพลกล่าว
สำหรับการยกเลิกมาตรการกันเงินสำรอง 30% นั้น นายเพิ่มพลกล่าวว่า คงจะส่งผลดีให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่สามารถลงได้โดยไม่ต้องกันเงินไว้อย่างเดิมแล้ว ซึ่งเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาดังกล่าว จะมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมกองทุนนี้ขยายตัวได้เพิ่มมากขึ้นด้วย หลังจากช่วงที่มาตรการ 30% มีผล มีกองทุนใหม่ออกมาระดมทุนเพียงไม่กี่กองทุนเท่านั้น ขณะเดียวกันก็จะเห็นกองทุนขนาดใหญ่ออกมาระดมทุนมากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์ มีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 1 กองทุน นั่นคือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เจซี (JCP) มูลค่าโครงการ 620 ล้านบาท โดยกองทุนเข้าไปลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารเจซี เควิน ทาวเวอร์เอ เป็นระยะเวลา 30 ปี และมีสิทธิที่จะต่ออายุสัญญาเช่าได้อีก 5 ปี โดยเริ่มจากวันที่กองทุนรวมจดทะเบียนการเช่ากับบริษัท วี.ซี.เอ.แอล. บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอาคาร ต่อสำนักงานที่ดิน และนำอสังหาริมทรัพย์ที่เช่าดังกล่าวออกให้เช่าช่วงแก่ผู้เช่าพื้นที่ทั่วไปเพื่อการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนรวม
ล่าสุด กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เจซี (JCP) ได้ทำการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2549 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 19 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.610 บาท
นายเพิ่มพลกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการส่งเสริมให้กองทุนสามารถทำอะไรได้มากขึ้นในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้กองทุนสามารถกู้ยืมได้ 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ซึ่งหากมองในแง่ของกองทุนของเราแล้วอาจจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่สำหรับกองทุนขนาดใหญ่ ก็อาจจะเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการลงทุนในต่างประเทศนั้น หากสำนักงาน ก.ล.ต. อนุญาตให้กองทุนสามารถออกไปลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REATs) ในต่างประเทศได้เต็ม 100% ก็น่าจะเป็นการช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนได้มากขึ้น
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภายในปีนี้คาดว่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ได้อย่างน้อย 1 กองทุน โดยเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์ มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนเดิมที่วางแผนออกไปก่อนการประกาศยกเลิกมาตรการกันเงินสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อยู่อีกประมาณ 1-2 ราย โดยมีมูลค่าโครงการที่ใหญ่ขึ้น เพราะตั้งเป้าหมายระดมทุนจากนักลงทุนต่างชาติด้วย แต่ตอนนี้ งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะจัดตั้งกองทุนได้ทันในปีนี้หรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างการเจรจา
"ที่แน่นอนแล้วในปีนี้ น่าจะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างน้อย 1 กองทุน แต่ตอนนี้ก็ยังมีการเจรจากับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ อีกประมาณ 1-2 ราย ซึ่งมีมูลค่าที่ใหญ่ขึ้น และตั้งเป้าขายให้กับนักลงทุนต่างชาติด้วย"นายเพิ่มพลกล่าว
สำหรับการยกเลิกมาตรการกันเงินสำรอง 30% นั้น นายเพิ่มพลกล่าวว่า คงจะส่งผลดีให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่สามารถลงได้โดยไม่ต้องกันเงินไว้อย่างเดิมแล้ว ซึ่งเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาดังกล่าว จะมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมกองทุนนี้ขยายตัวได้เพิ่มมากขึ้นด้วย หลังจากช่วงที่มาตรการ 30% มีผล มีกองทุนใหม่ออกมาระดมทุนเพียงไม่กี่กองทุนเท่านั้น ขณะเดียวกันก็จะเห็นกองทุนขนาดใหญ่ออกมาระดมทุนมากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์ มีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 1 กองทุน นั่นคือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เจซี (JCP) มูลค่าโครงการ 620 ล้านบาท โดยกองทุนเข้าไปลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารเจซี เควิน ทาวเวอร์เอ เป็นระยะเวลา 30 ปี และมีสิทธิที่จะต่ออายุสัญญาเช่าได้อีก 5 ปี โดยเริ่มจากวันที่กองทุนรวมจดทะเบียนการเช่ากับบริษัท วี.ซี.เอ.แอล. บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอาคาร ต่อสำนักงานที่ดิน และนำอสังหาริมทรัพย์ที่เช่าดังกล่าวออกให้เช่าช่วงแก่ผู้เช่าพื้นที่ทั่วไปเพื่อการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนรวม
ล่าสุด กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เจซี (JCP) ได้ทำการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2549 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 19 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.610 บาท
นายเพิ่มพลกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการส่งเสริมให้กองทุนสามารถทำอะไรได้มากขึ้นในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้กองทุนสามารถกู้ยืมได้ 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ซึ่งหากมองในแง่ของกองทุนของเราแล้วอาจจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่สำหรับกองทุนขนาดใหญ่ ก็อาจจะเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการลงทุนในต่างประเทศนั้น หากสำนักงาน ก.ล.ต. อนุญาตให้กองทุนสามารถออกไปลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REATs) ในต่างประเทศได้เต็ม 100% ก็น่าจะเป็นการช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนได้มากขึ้น