อีกครั้งกับรอบการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 มีนาคมนี้...และแม้ใน รอบก่อนหน้านี้และรอบฉุกเฉินที่ปรับลดลงไปแล้วรวมกัน 1.25% แต่ในรอบนี้ ก็ยังถูกคาดการณ์ว่า เฟดจะขยับดอกเบี้ยได้อีก 0.50% ขึ้นไป....ซึ่งปัจจัยหลักของการลดดอกเบี้ย ก็ยังหนีไม่พ้นสภาวะเศรษฐกิจถอถอยจากปัญหาซับไพรม์นั่นเอง////หากเฟดลดดอกเบี้ยอีกในรอบนี้...เชื่อแน่นอนว่าแบงก์ชาติคงต้องหันกลับมามองอัตราดอกเบี้ยในประเทศอีกครั้ง เพราะหากปรับลดตั้งแต่ 0.50% ขึ้นไป จะทำให้ส่วนต่างของอาร์/พีและเฟด ขยับขึ้นไปสูงถึง 0.75% เป็นอย่างน้อย และถ้าเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่าฟันด์โฟลจะไหลเข้ามาลงทุนในบ้านเราเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะส่วนต่างสูงๆ แบบนี้ ใครจะปล่อยให้โอกาสลอยนวลไปเปล่าๆ ซะละ...แล้วยิ่งหมดมาตรการกันเงินสำรอง 30% ออกไปแล้ว เป็นไปได้ว่าเงินที่ไหลเข้ามาจะกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นไปได้อีก..../////และวิธีที่จะพอบรรเทาได้บ้างไม่มากก็น้อย ก็เห็นจะเป็น การส่งเงินออกไปลงทุนต่างประเทศ เพื่อให้เงินไหล-เข้าออกสมดุลกัน...งานนี้ "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" เลขาธิการ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็เลยออกประกาศการลงทุนในต่างประเทศของกองทุนส่วนบุคคล รับลูกออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ประกาศนี้ "ต้นกล้า" ถือว่าเป็นประกาศที่รวดเร็วและไม่ต้องรอนานอย่างประกาศเรื่องอื่นๆ ของก.ล.ต. ...ก็แหม!เป็นใบสั่งทั้งที จะให้นิ่งเฉยอยู่ได้ไงละครับ/////สอดคล้องกับกระแสที่มาแรงทีเดียว สำหรับกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศหรือที่เรียกกันติดปากว่า "เอฟไอเอฟ" ในช่วงนี้...เพราะหลายค่าย ต่างงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาช่วงชิงพื้นที่ทางการตลาดกันอย่างขมักเขม้น ไม่ว่าจะเป็นกองทุนใหม่หรือกองทุนเก่าที่มีอยู่ในพอร์ต/////ซึ่งกองทุนที่ออกมาเยอะในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นกระแสกองทุนพันธบัตรเกาหลี ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนต้องออกกองทุนแล้วกองทุนเล่า...แต่ในโอกาสเช่นนี้ กลับไม่เห็นการขยับตัวของ "บลจ.ยูโอบี"...และเมื่อมีโอกาสได้คุยกับ "วนา พูลผล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของค่ายนี้ ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า..."ไม่กล้าเสี่ยง"...ก็ว่ากันไปครับ ใครอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ ก็รับต้องรับความเสี่ยงสูงกันไป////กลับมาที่ค่ายทิสโก้กันบ้าง....หลังจากผุดไอเดียออกกองทุนทาร์เก็ตฟันด์เป็นกองแรก ภายใต้ชื่อ "ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15%" ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะหลังจากปิดไอพีโอแล้ว ระดมทุนได้กว่า 500 ล้านบาท.../////ด้าน บลจ.อยุธยา ก็โหมโปรโมชันกระตุ้นยอดขายกองทุนเปิดอยุธยาอาเซียน เวียดนาม โฟกัสเต็มที่...โดยผู้ที่ลงทุน 200,000 บาท รับหน่วยลงทุนเพิ่ม 200 บาท , ผู้ที่ลงทุน 500,000 บาท รับหน่วยลงทุนเพิ่ม 750 บาท และผู้ที่ลงทุนทุกๆ 1,000,000 บาท รับหน่วยลงทุนเพิ่ม 2,000 บาท**...นอกจากแคมเปญน่าสนแล้ว ยังมีงานสัมนาให้ข้อมูลต่อในวันพุธที่ 19 มีนาคม 2551 เวลา 14.00 - 16.30 น. ด้วย ซึ่งงานนี้ใช้ชื่อว่า "อาเซียน เวียดนาม โอกาสใหม่ในการลงทุน" งานนี้มี รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา พิธีกรชื่อดัง จากรายการ Money Talk , ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน , Mr. Reginald Tan Director - Investments and Head of Research Credit Agricole Asset Management และประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา ร่วมเสวนา....พิเศษสุด สำหรับ 100 ท่านแรกที่สำรองที่นั่ง รับฟรี กระเป๋าผ้า Stop Global Warming/////สองวันก่อนในงานแถลงข่าวเซ็น MOU ระหว่างสมาคมบล.ไทยกับสมาคมบล.ไตหวัน อดบ่นไม่ได้กับมารยาทในการพูดจาของ 1 ในทีมจัดงานหลังถามหารายละเอียดการจัดงานกับย้อนผู้สื่อข่าวว่า "ถ้าไม่เข้าไปในงานก็ไม่ต้องเอา" แหมถ้าไม่ให้รู้รายอะเอียดแล้วจะทำข่าว จดชื่อแหล่งข่าวได้อย่างไงละครับ ฝากผู้ใหญ่ในสมาคมดูแลหน่อยนะครับ/////