xs
xsm
sm
md
lg

สไตล์ออม...พีรพล ประเสริฐศรี ทองคำ - กองทุนรวม..สำคัญยิ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สัปดาห์นี้ ผู้จัดการคุยกับนักลงทุน ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ ดร. พีรพล ประเสริฐศรี หรือ "ดร.โอ๊ต" กับตำแหน่งใหม่ล่าสุด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) กับแบบฉบับที่เป็นกันเองในเรื่องราวส่วนตัวที่ใครอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน รวมกระทั้งถึงเรื่องราวการจัดสรรเงินอย่างไรกับสถานการณ์ปัจจุบัน และกับตำแหน่งผอ.ฝ่ายวิจัย ว่ามีความรับผิดชอบทำอะไรบ้าง...

ดร.โอ๊ต เริ่มเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เรียนจบปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ จาก UNIVERSITY OF FLORIDA, USA ตนได้มาเป็นอาจารย์พิเศษตอนอยู่ที่ที่เรียนซักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานที่ประเทศไทย โดยมาสมัครงานที่ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือAFET ในตำแหน่ง นักวิจัยอาวุโส ฝ่ายวิจัย ทำได้สักระยะหนึ่งก็ได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้จัดการส่วนวิจัยและพัฒนา ฝ่ายวิจัย ต่อด้วยตำแหน่งผู้จัดการส่วนบริหารความเสี่ยง สำนักหักบัญชี และตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายโครงการพิเศษ จนล่าสุดกับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ซึ่งดร. โอ๊ต ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา

โดยตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย นั้น ดร.โอ๊ต บอกว่า กับตำแหน่งดังกล่าวได้มีการเตรียมการทำงานไว้ 3 หลักใหญ่ ๆด้วยกัน อย่างแรกคือเรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์การซื้อขายล่วงหน้าให้มีความสอดคล้องกับตลาด 2. เป็นแหล่งรวมราคาซื้อขายอ้างอิงให้กับตลาดสินค้าเกษรล่วงหน้าทั่วโลก ซึ่งต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ตลาดสินค้า

“AFETให้ความสำคัญของการกำกับดูแลการซื้อขายเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง โดยยึดหลักความเป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้ลงทุน นอกจากนี้ยังมีระบบการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของสมาชิกให้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง เท่าเทียมกันและมีความน่าเชื่อถือในการซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงของผู้ลงทุน รวมทั้งมีหน้าที่สำคัญในการกำกับดูแลระบบการซื้อขายที่ผ่านทางสื่ออิเล็กโทรนิกส์ เพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลอีกด้วย” ดร.โอ๊ต บอก

สำหรับ การทำงานให้ประสบความสำเร็จนั้น ดร.โอ๊ต บอกว่า “ผมอาจจะมีความคิดที่แปลกกว่าคนอื่นตรงที่คนอื่นมักจะชอบพูดเสมอ ๆ ว่าให้แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน แต่สำหรับผมแล้วคิดว่าเรื่องส่วนตัวและงานมันไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้ เพราะงานก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะไม่เช่นนั้นเราคงไม่เลือกที่จะมาทำงานตรงนี้อย่างแน่นอน และเชื่อว่าจะสามารถประสบความสำเร็จจากงานที่เราได้เลือกทำแล้ว นอกจากนี้แล้วการทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตามล้วนแล้วแต่ต้องทำกับผู้คนเป็นจำนวนมากไม่ใช่ว่าเราทำเพียงคนเดียว ดังนั้นเจ้านายและลูกน้องต้องสามารถเข้ากันได้ งานถึงจะไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี”

ดร. โอ๊ต บอกอีกว่า ในทุก ๆ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ส่วนใหญ่แล้วจะกลับบ้านที่สมุทรสาคร เพราะถือได้ว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีอย่างหนึ่ง นอกจากนี้แล้วอาจจะมีบางครั้งที่ออกไปสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูงเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกันบ้าง ซึ่งถือณุปแบบการพักผ่อนอีกแบบฉบับหนึ่งของดร. หนุ่มคนนี้

เมื่อได้รู้ถึงวิสัยทัศน์ในการทำงานกันไปพอสมควร ต่อจากนี้มาดูกันว่า ดร.โอ๊ตจะมีมุมมองในเรื่องของการออมเงินกันบ้างว่า จะเป็นอย่างไร...?

ดร.โอ๊ต กล่าาวว่า ส่วนตัวได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการออมเงินเป็นพิเศษ เพราะมองว่ามันเป็นสิ่งสำคัญต่ออนาคตข้างหน้า ดังนั้นจึงแบ่งการออมออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน ในส่วนแรกจะเข้าไปลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ แอลทีเอฟ เพราะสองกองทุนนี้จะได้สิทธินำไปลดหย่อนทางภาษีได้

ส่วนที่สองเป็นการลงทุนในทองคำเพราะมองว่าทองคำเป็นวัตถุที่มีค่า และราคาของทองคำนั้นส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นตลอด ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาลงทุนในทองคำนั้น ดร.โอ๊ตบอกว่า “ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบเล่นหุ้น เพราะว่าเรียนมาทางด้านเศรษฐศาสตร์ทำให้อยากลองเล่นหุ้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความผันผวนมาก ดังนั้นการลงทุนในหุ้นจึงมีความเสี่ยงสูง ตนจึงเปลี่ยนมาลงทุนในทองคำแทน”

สำหรับเงินออมในส่วนที่สามเป็นการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น เพราะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินในธนาคาร เพราะปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีการปรับลดลง ดังนั้นจึงหันมาลงทุนในตราสารหนี้แทน

สุดท้ายดร.โอ๊ต ได้บอกว่า การออมนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกสรรแล้ว แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล หรือบางคนอาจจะต้องการนำเงินไปลงทุนในหุ้น และอื่นๆเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น ดังนั้นส่วนตัวอยากจะเตือนว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง จึงเป็นเหตุให้เราควรเลือกการลงทุนอย่างระมัดระวังไว้เสมอด้วย

นอกจากนี้แล้วอยากจะแนะนำผู้ที่จะเข้ามาลงทุนว่า การลงทุนในกองทุนรวมอาร์เอ็มเอฟ และกองทุนรวมแอลทีเอฟนั้นเป็นการลงทุนที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะการลงทุนทั้งสองแบบนี้สามารถนำสิทธิมาลดหย่อนภาษีได้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นด้วย แถมยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีอีกด้วย


ล้อมกรอบ
ชื่อ – นามสกุล ดร. พีรพล ประเสริฐศรี (โอ๊ต)
จบการศึกษา ปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์
UNIVERSITY OF FLORIDA, USA
ปริญญาโท สาขาการวิจัยดำเนินงาน
UNIVERSITY OF FLORIDA, USA
ปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
งานปัจจุบัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET)

กำลังโหลดความคิดเห็น