กลุ่มทุนสิงคโปร์ – ยิว ผนึกกำลังข้ามทวีป “แปซิฟิค สตาร์”ประกาศร่วมทุน “Alony Hetz” บริษัทอสังหาจากอิสราเอล จัดตั้งกองทุนมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เข้าลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายพริตพอล ซิงค์ กิล ผู้อำนวยการแปซิฟิค สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่ม แปซิฟิค สตาร์ หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์แห่งเอเซีย ประกาศลงนามในข้อตกลงความเข้าใจเบื้องต้น (เอ็มโอยู) ร่วมกับ Alony Hetz หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์อิสราเอลเพื่อจัดตั้งกองทุนลงทุนในเวียดนาม
สำหรับเป้าหมายในการระดมเงินทุนเข้าสู่กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะมากจากผู้ลงทุนประเภทสถาบันภายในเดือนกรกฎาคม โดยระหว่างนี้ Alony Hetz จะเพิ่มเงินทุนจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐในกองทุนแห่งนี้ก่อน หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการลงทุนครั้งแรกของบริษัทในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
“การร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทที่มีการบริหารงานยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งดังเช่น Alony Hetz นับเป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่ง สำหรับเรา ด้วยชื่อเสียงความสำเร็จด้านการลงทุนของ Alony Hetz ทั้งในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือและอิสราเอล นั้นล้วนเป็นที่ยอมรับในนานาชาติ ซึ่งขณะนี้ Alony Hetz กำลังสนใจประเทศแถบเอเชีย และแปซิฟิค สตาร์ ก็มีความชำนาญและรู้จักตลาดนี้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นโครงการต่างๆ ที่เราได้ทำการลงทุนรวมถึงโครงการสาธรการ์เด้นท์ในกรุงเทพด้วย”นายพริตพอล กล่าว
ด้านนายนาธาน เอิชท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alony Hetz กล่าวว่า แปซิฟิค สตาร์ มีประสบการณ์ยาวนานกับตลาดในภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นศักยภาพที่บริษัทมองหาในพันทธมิตรร่วมทุน และแปซิฟิค สตาร์มีความเหมาะสมอย่างที่สุดในการเข้าสู่ตลาดนี้ โดยเครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวางของแปซิฟิค สตาร์ จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่น่าสนใจได้เป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันกลุ่มแปซิฟิค สตาร์ เปิดขายโครงการสาธรการ์เด้นท์ อันเป็นคอนโดมิเนียมระดับ 5 ดาวบนทำเลที่ดีที่สุดของถนนสาธรและมียอดขายประสบความสำเร็จอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังใกล้จะเปิดตัวโครงการใหม่ระดับไฮเฮนด์ขึ้นในซอยทองหล่ออีกด้วย
ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทแปซิฟิค สตาร์ ยังมีกองทุนชั้นนำที่จัดตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ ได้แก่กองทุนยูเรก้า ออฟฟิต ฟันด์ (Eureka Office Fund) มูลค่า 580 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหารริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่มีชื่อเสียงสามแห่งในสิงค์โปร์ คือเทมา เซ็ค ทาวเวอร์ (Temasek Tower) วัน จอร์จ สตรีท (One George street) และ ดิ อเดลฟี่ (The Adelphi) กองทุนเอเชี่ยน เรียล เอสเตท ฟันด์ (Asian Real Estate Fund) มูลค่า 500 ล้านเหรียญยูโรซึ่งมี HSH REAL ESTATE AG เป็นพันธมิตร และกองทุนเอเชี่ยน เรียล เอสเตท ไพร์ม ดีเวลลอปเม้นท์ ฟันด์ (Asian Real Estate Prime Development Fund) มูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในโครงการระดับแนวหน้าทั้งใน สิงค์โปร์ มาเลเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น และเกาหลี
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทแปซิฟิค สตาร์ คือองค์กรการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเชี่ยวชาญในการบริหารการลงทุน การจัดการด้านการเงิน การพัฒนา การบริหารงานกองทุนเพื่อกางลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การบริหารสินทรัยพ์ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาคารเกรดเอ ที่พักอาศัย โดยมีสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งให้บริการแก่นักลงทุนชั้นนำทั่วโลก
ขณะที่ Alony Hetz ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิสราเอล โดยได้ทำการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เทลอาวีฟ (TASE : ALHE) และอยู่ใน the TA Index , the TA Realty 15 Index และ TA Divident 20 Index ด้วยความชำนาญในการบริหารอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เป็นผลทำให้ Alony Hetz มีประวัติการลงทุนที่ดีเยี่ยมทั้งในอิสราเอล ทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ โดยมูลค่าทรัพย์สินทางการตลาดของบริษัท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2550 อยู่ที่ระดับสูงกว่า 205 พันล้านซีเคล รวมทั้งสินทรัพย์รวมทั้งหมดของกลุ่มบริษัทภายใต้ IFRS ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 มีทั้งสิ้นประมาณ 8 พันล้านซีเคล
นายพริตพอล ซิงค์ กิล ผู้อำนวยการแปซิฟิค สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่ม แปซิฟิค สตาร์ หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์แห่งเอเซีย ประกาศลงนามในข้อตกลงความเข้าใจเบื้องต้น (เอ็มโอยู) ร่วมกับ Alony Hetz หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์อิสราเอลเพื่อจัดตั้งกองทุนลงทุนในเวียดนาม
สำหรับเป้าหมายในการระดมเงินทุนเข้าสู่กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะมากจากผู้ลงทุนประเภทสถาบันภายในเดือนกรกฎาคม โดยระหว่างนี้ Alony Hetz จะเพิ่มเงินทุนจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐในกองทุนแห่งนี้ก่อน หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการลงทุนครั้งแรกของบริษัทในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
“การร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทที่มีการบริหารงานยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งดังเช่น Alony Hetz นับเป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่ง สำหรับเรา ด้วยชื่อเสียงความสำเร็จด้านการลงทุนของ Alony Hetz ทั้งในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือและอิสราเอล นั้นล้วนเป็นที่ยอมรับในนานาชาติ ซึ่งขณะนี้ Alony Hetz กำลังสนใจประเทศแถบเอเชีย และแปซิฟิค สตาร์ ก็มีความชำนาญและรู้จักตลาดนี้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นโครงการต่างๆ ที่เราได้ทำการลงทุนรวมถึงโครงการสาธรการ์เด้นท์ในกรุงเทพด้วย”นายพริตพอล กล่าว
ด้านนายนาธาน เอิชท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alony Hetz กล่าวว่า แปซิฟิค สตาร์ มีประสบการณ์ยาวนานกับตลาดในภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นศักยภาพที่บริษัทมองหาในพันทธมิตรร่วมทุน และแปซิฟิค สตาร์มีความเหมาะสมอย่างที่สุดในการเข้าสู่ตลาดนี้ โดยเครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวางของแปซิฟิค สตาร์ จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่น่าสนใจได้เป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันกลุ่มแปซิฟิค สตาร์ เปิดขายโครงการสาธรการ์เด้นท์ อันเป็นคอนโดมิเนียมระดับ 5 ดาวบนทำเลที่ดีที่สุดของถนนสาธรและมียอดขายประสบความสำเร็จอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังใกล้จะเปิดตัวโครงการใหม่ระดับไฮเฮนด์ขึ้นในซอยทองหล่ออีกด้วย
ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทแปซิฟิค สตาร์ ยังมีกองทุนชั้นนำที่จัดตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ ได้แก่กองทุนยูเรก้า ออฟฟิต ฟันด์ (Eureka Office Fund) มูลค่า 580 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหารริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่มีชื่อเสียงสามแห่งในสิงค์โปร์ คือเทมา เซ็ค ทาวเวอร์ (Temasek Tower) วัน จอร์จ สตรีท (One George street) และ ดิ อเดลฟี่ (The Adelphi) กองทุนเอเชี่ยน เรียล เอสเตท ฟันด์ (Asian Real Estate Fund) มูลค่า 500 ล้านเหรียญยูโรซึ่งมี HSH REAL ESTATE AG เป็นพันธมิตร และกองทุนเอเชี่ยน เรียล เอสเตท ไพร์ม ดีเวลลอปเม้นท์ ฟันด์ (Asian Real Estate Prime Development Fund) มูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในโครงการระดับแนวหน้าทั้งใน สิงค์โปร์ มาเลเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น และเกาหลี
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทแปซิฟิค สตาร์ คือองค์กรการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเชี่ยวชาญในการบริหารการลงทุน การจัดการด้านการเงิน การพัฒนา การบริหารงานกองทุนเพื่อกางลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การบริหารสินทรัยพ์ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาคารเกรดเอ ที่พักอาศัย โดยมีสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งให้บริการแก่นักลงทุนชั้นนำทั่วโลก
ขณะที่ Alony Hetz ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิสราเอล โดยได้ทำการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เทลอาวีฟ (TASE : ALHE) และอยู่ใน the TA Index , the TA Realty 15 Index และ TA Divident 20 Index ด้วยความชำนาญในการบริหารอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เป็นผลทำให้ Alony Hetz มีประวัติการลงทุนที่ดีเยี่ยมทั้งในอิสราเอล ทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ โดยมูลค่าทรัพย์สินทางการตลาดของบริษัท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2550 อยู่ที่ระดับสูงกว่า 205 พันล้านซีเคล รวมทั้งสินทรัพย์รวมทั้งหมดของกลุ่มบริษัทภายใต้ IFRS ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 มีทั้งสิ้นประมาณ 8 พันล้านซีเคล
