xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยจ่ายปันผลกองสังหาฯ ลูกค้าเตรียมรับ0.49บาทต่อหน่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กสิกรไทยประกาศจ่ายปันผลกองอสังหาฯ กองเดียวของบริษัท “GOLDPF” นักลงทุนเฮรับพร้อมกัน 10 มีนาคมนี้ หน่วยละ 0.4906 บาท “วิวรรณ”เผยอนาคตกองอสังหาฯ ของบริษัทที่จะออกในปีนี้ 3 โครงการที่ได้รับผลดีจากการยกเลิก 30% จับตารีวิวเพิ่มขนาดกองที่เดิมอีกรอบ แต่ต้องดูดีมานต์ลูกค้า และสินทรัพย์ที่จะเข้าไปลงทุนก่อน

รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของบริษัทได้พิจารณาและมีมติ ให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2550 ถึง 31 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยละ 0.4906 บาทต่อหน่วย แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 3 มีนาคม 2551 โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 มีนาคม 2551

ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ระบุเฉพาะเจาะจงโดยมีการกำหนดอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อหรือเช่าเป็นการแน่นอน และเป็นกองทุนประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยมีมูลค่าโครงการ 2,060 ล้านบาท ซึ่งกองทุนมีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าโครงการเมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซคคูทีฟ อพาร์ทเม้นท์ ที่ตั้งอยู่บนถนนหลังสวน ตรงข้ามกับโครงการเออร์บานา

สำหรับเงื่อนไขการลงทุนของกองทุนนี้จะเป็นการได้สิทธิในการซื้อขาดโครงการจากบริษัท โกลเด้น แลนด์ (เมย์แฟร์) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ ณ สิ้นปีที่ 30 ในราคา 405 ล้านบาท หรือ ณ สิ้นปีที่ 60 ในราคา 984 ล้านบาท และกองทุนจะได้รับการค้ำประกันรายได้ในการดำเนินงานของโครงการจากผู้เช่าในช่วง 5 ปีแรก ขณะเดียวกันผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลปีละไม่เกิน 2 ครั้ง โดยหากภายหลังจากปีที่ 5 ในกรณีที่กองทุนมีกำไร กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรประจำงวด

ขณะเดียวกัน สมาคมบริษัทจัดการลงทุนรายงานว่า ปัจจุบัน กองทุนGOLDPF มีมูลค่าสินทรัพย์รวมประมาณ 2,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากมูลค่าโครงการเดิมที่ตั้งไว้ 2,060 ล้านบาท ประมาณ 432 ล้านบาท

นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยเกี่ยวกับแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไว้ว่า บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ประมาณ 3 กอง และน่าจะสามารถเลื่อนออกมาให้เร็วขึ้นได้ หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้มีการประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ไปในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม บริษัทจำเป็นที่จะต้องดูความต้องการของลูกค้าก่อนว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร ส่วนการเพิ่มจำนวนกองทุน และขนาดของแต่ละกองทุนที่ออกหรือไม่นั้นต้องมีการพิจารณาอีกครั้งด้วยเช่นกัน เนื่องจากสินทรัพย์แต่ละประเภทมักมีมูลค่าที่ต่างกัน และการหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดียังมีอยู่จำกัดในช่วงนี้

"การจะขยายกองทุนหรือไม่นั้นต้องดูว่าสินทรัพย์ที่ไปลงทุนมีมูลค่ามากน้อยขนาดไหน ซึ่งโครงการดีๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงตอนนี้ยังหายากอยู่ ส่วนเรื่องที่จะจัดตั้งกองทุนเพิ่มเติมหลังจากแผนเดิมที่มีอยู่หรือเปล่า คงต้องดูดีมานของลูกค้าในแต่ละช่วงก่อน"นางวิวรรณกล่าว

นางวิวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์เดิมที่บริษัทมีอยู่นั้น อาจจะมีโอกาสนำมาขยายขนาด หรือนำมารวมกับกองใหม่ที่จะมีการจัดตั้งขึ้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุน แต่คงต้องหาสินทรัพย์ที่มีลักษณะเดียวกันก่อนถึงจะทำได้ อย่างเช่น ถ้ากองทุนเก่าเป็นเซอร์วิสอาพาร์ทเมนต์ กองทุนใหม่ที่จะนำมารวมด้วยควรที่จะเป็นเซอร์วิสอาพาร์ทเมนต์ด้วยเหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น