xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตรับลูกกม.คุ้มครองเงินฝาก ออกT-MONEY

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ธนชาต เพิ่มทางเลือกแหล่งพักเงิน ช่วงการลงทุนผันผวน ส่ง "ธนชาตตลาดเงิน" มูลค่า 5 พันล้าน ลุยตราสารหนี้ภาครัฐอายุเฉลี่ย 3-4 เดือน วางเป้ารองรับพ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากในอนาคต คาดการณ์ผลตอบแทน 2.5% เผยกอง "T – CASH" มันนี่มาร์เกตกองแรกขายดี เอ็นเอวีขยับขึ้นเป็น 3.1 หมื่นล้าน รั้งอันดับ 4 ในอุตสาหกรรม ผู้บริหารเผยแผนออกกองใหม่ไม่รีบร้อน เน้นจับจังหวะเหมาะสม ส่งกองทุนตามสถานการณ์และดีมานด์ลูกค้า

นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนาชาต จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับ 3.25% หรือมีแนวโน้มปรับลดลงได้อีกในอนาคต ซึ่งเรามองว่าส่งผลกระทบต่อเงินออมของประชาชน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับที่ต่ำ ประกอบกับปัญหาซับไพรม์ของสหรัฐอเมริกาเองยังคงส่งผลกระทบไปทั่วโลก ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการยุติเมื่อไหร่หรือจะชะลอตัวไปขนาดไหน ในขณะที่ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่ม จะยังคงส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวลงไปได้อีก

สำหรับในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด เพื่อให้เป็นทางเลือกแก่นักลงทุนอีกทางหนึ่ง ล่าสุด บริษัทเตรียมออกกองทุนกองทุนเปิดธนชาตตลาดเงิน (THANACHART MONEY MARKET FUND : T-MONEY) ซึ่งเป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมตลาดเงิน โดยไม่มีกำหนดอายุของโครงการ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะเริ่มทำการเปิดขายครั้งแรกในวันที่ 4 – 11 มีนาคม 2551 นี้ ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท

โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนมันนี่มาร์เก็ตฟันด์ ที่ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เป็นตราสารภาครัฐไทยอายุประมาณ 3 – 4 เดือนเท่านั้น เช่น ตั๋วเงินคลังเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้ หรือเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินสด รวมถึงตราสารทางการเงิน หลักทรัพย์ หรือการหาดอกผลด้วยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ที่มีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถาม หรือจะครบกำหนดชำระคืนหรือมีอายุสัญญาไม่เกิน และ/หรือประมาณ 3-4 เดือนนับแต่วันที่ลงทุนในทรัพย์สินหรือเข้าทำสัญญาเหล่านั้น ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)

นายตระกูลจิตร กล่าว่า กองทุนดังกล่าวมีความแตกต่างจากกองทุนเปิดธนชาตบริหารเงินหรือ T–CASH ตรงที่กองทุน T-MONEY จะไม่มีการเข้าไปลงทุนในหุ้นกู้ นอกจากนี้ กองทุนดังกล่าวยังมีความผันผวนน้อยและความเสี่ยงต่ำด้วย และจากความเสี่ยงที่ต่ำนี้เองส่งผลต่อผลตอบแทนของกองทุนต่ำกว่ากองทุน T–CASH โดยกองทุนT-MONEY คาดการณ์ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 2.50%ต่อปี ในขณะที่กองทุน T–CASH ผลตอบแทนจะอยู่ที่อาจจะอยู่ที่ 2.70% ต่อปี

“เป้าหมายสำคัญของกองทุนนี้ ก็เพื่อเป็นการรองรับ พ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝากด้วย เนื่องจากว่าลูกค้าบางคนที่เคยฝากเงินกับแบงก์เพียงอย่างเดียวคงจะต้องกลัวความเสี่ยง ดังนั้นกองทุนดังกล่าวจึงเป็นมารองรับกับกลุ่มลูกค้าแบงก์ที่ได้รับความเสี่ยงได้น้อยอีกด้วย หรือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุนที่จะหาช่องทางในการลงทุนใหม่ๆ ” นายตระกูลจิตรกล่าว

ด้านนายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ธนชาต กล่าวว่า การเปิดขายกองทุนมันนี่มาร์เกตในช่วงนี้ ก็เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเงินฝากของแต่ละธนาคารที่มีฐานลูกค้าของตัวเองอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งปัจจุบันกองทุน T–CASH เป็นกองทุนมันนี่มาร์เก็ตซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่เป็นอันดับที่ 4 ของกองทุนประเภทมันนี่มาร์เก็ต

ในขณะที่อันดับ 1 กองทุนมันนี่มาร์เกตเป็นของบลจ. ไทยพาณิชย์ เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1.3 แสนล้านบาท อันดับ 2 เป็นของบลจ. ทหารไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท และอันดับ 3 เป็นของบลจ. บัวหลวง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท

ขณะนางสุชาดา ภวนานันท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ธนชาต กล่าวว่า สำหรับแผนการออกกองทุนใหม่ของบริษัทในปีนี้ คงยังไม่รีบร้อนนัก เพราะจะต้องรอดูว่าช่วงจังหวะไหนที่มีความเหมาสมกับกองทุนประเภทใดมากที่สุด เพื่อให้ออกกองทุนได้ตรงตามสถานการณ์ และกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมความพร้อมในการเรื่องของการให้ความรู้กับผู้ถือหน่วยลงทุนมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความรู้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทต้องการที่จะให้ความแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องว่าสถานการณ์การลงทุนมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง

สำหรับในปีนี้บริษัทมีความภูมิใจเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าบริษัทได้รับรางวัลจากลิปเปอร์ด้วยกัน 2 รางวัล โดยรางวัลแรกเป็นรางวัลการบริหารกลุ่มตราสารหนี้ที่ดีที่สุด และรางวัลที่สองได้จากการบริหารกองทุนผสมที่ดีที่สุดเช่นกัน ทั้งนี้บริษัทได้รับรางวัลในการบริหารจัดการกองทุนที่สามารถดำเนินงานยอดเยี่ยมในประเภทต่างๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 6 ปีซ้อนแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการบริหารกองทุนจนทำให้ผู้หน่วยลงทุนเกิดความไว้ใจที่จะเข้ามาลงทุนกับบริษัทด้วย

"ในปีที่ผ่านมาถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยลบทั้งในประเทศและนอกประเทศก็ตาม แต่บริษัทก๊มูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการเติบโตสูงถึง 11.30% โดยกองทุนที่มีการเติบโตมากที่สุดจะเป็นกองทุน T–CASH โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท"นางสุชาดากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น