xs
xsm
sm
md
lg

MFCลุยทำตลาดรักษาแชร์40%ชูประสบการณ์33ปีตรึงใจลูกค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.เอ็มเอฟซี เร่งเครื่องเดินหน้าแผนการตลาด ทุ่มงบก้อนโตโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทุกสื่อ ชูจุดขายบริหารพอร์ตกว่า 1.9 แสนล้านบาท ประสบการณ์คว่ำหวอดในอุตสาหกรรมมากกว่า 33 ปี อีกทั้งมีคลังเป็นผู้ถือหุ้น พร้อมให้ความสำคัญกับทุกช่องทางขาย เพื่อเจาะลูกค้ารายใหญ่ และรักษามาร์เก็ตแชร์ของบริษัทท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่รุนแรง

นางกาญจนา โรจวทัญญู รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็ม เอฟ ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC กล่าวถึงแผนการตลาดของบริษัทว่า ในปี 2551 บริษัทมีกลยุทธ์ที่จะดำเนินการสร้างแบรนด์ “MFC” ให้เป็นที่รู้จัก โดยล่าสุดบริษัทได้ทำการประกาศโฆษณาตามแหล่งใจการเมืองในหลายที่ ได้แก่ รถไฟฟ้าบีทีเอส และป้ายโฆษณาในย่านใจกลางเมือง อาทิย่านพระราม 4 รวมทั้งบริเวณย่านสนามบินสุวรรณภูมิ

“เราต้องการนำเสนอให้ลูกค้าได้รับทราบถึงประสบการณ์ในการบริหารของบริษัทที่มีมาอย่างยาวนานถึง 33 ปี และเป็นบริษัทจัดการลงทุนที่มีภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้น รวมทั้งมีสินทรัพย์ของภาครัฐและเอกชนที่อยู่ภายในการบริหารรวมกันถึง 1.9 แสนล้านบาท นอกจากนี้เราจะทำการโฆษณาผ่านสื่ออื่นๆให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ และสื่อโทรทัศน์ ด้วยงบประมาณ 40 ล้านบาท” นางกาญจนา กล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทจะให้ความสำคัญกับช่องทางการขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงลูกค้ารายใหญ่ เนื่องจากบริษัทไม่มีธนาคารพาณิชย์เป็นถือหุ้นใหญ่นั่นเอง อีกทั้งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้แม้มีสัดส่วนแค่ 20% ของกลุ่มลูกค้าทั้งหมด แต่มีสินทรัพย์ที่นำมาลงทุนได้ถึง 80% ของทั้งหมดเช่นกัน นอกจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับเซลลิงค์เอเยนต์ และเทเลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น

“นอกเหนือจากการรุกตลาดภายนอกอย่างเต็มที่ เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรภายในให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น อีกทั้งจะเน้นในทุกช่องทางการขายเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด นอกเหนือจากการขายทางโทรศัพท์ การให้บริการผ่านระบบอินเตอร์เน็ต รวมทั้งการเข้าพบลูกค้าโดยตรง และการจัดกิจกรรมต่างให้ให้ใกล้ชิดกลุ่มลูกค้า” นางกาญจนา กล่าว

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี กล่าวว่า การแข่งในอุตสาหกรรมกองทุนรวมนั้น ถือว่าเป็นการดำเนินไปตามธรรมชาติในการแข่งขัน เนื่องเป็นตลาดที่จำกัดและมีลูกค้าที่จำกัด ภายใต้ความกดดันที่สูงมาก บริษัทจึงจำเป็นที่จะต้องนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้ เพื่อเป็นการรักษาส่วนแบ่งทางการและหากกลยุทธ์ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จจนส่วนแบ่งการตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

“ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องดำเนินการเพิ่มเติมบุคลากรใหม่เข้ามาในบริษัท โดยเฉพาะบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาด ซึ่งความจริงแนวคิดนี้เราเริ่มคิดมาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว แต่ได้ผ่อนคลายการเน้นทำการตลาดลงไป ดังนั้นปีนี้จึงได้นำแนวคิดดังกล่าวกลับมาอีกครั้ง ตลอด 3 ปี จากนี้ไปบริษัทจะเน้นการสร้างแบรนด์มากขึ้นด้วยการทำการตลาด ซึ่งใช้งบประมาณปีละ 40 ล้านบาท เพื่อทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักของลูกค้ารายย่อย และรักษาสัดส่วนลูกค้ารายย่อยที่มี 40% ไว้ให้ได้ ท่ามกลางการแข่งขันอย่างรุนแรง”

ทั้งนี้โดยรวมตลอดในปี 2551 บลจ.เอ็มเอฟซี จะเน้นการสร้างแบรนด์องค์กรให้เป็นที่รู้จักอย่างทั่วถึง โดยการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ในการเป็น "มันสมองทางการลงทุนที่คุณวางใจ" การให้ความสำคัญกับช่องทางการขายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น Corporate Wealth, Private Wealth, Private Banking ฯลฯ พัฒนาช่องทางการขายให้มีความสะดวกสบาย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วยการเน้นพัฒนาทีมงานด้านการขาย และการตลาดที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกกลุ่ม

นายพิชิตกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการบริหารจัดการกองทุนเพื่อมุ่งให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดกับนักลงทุนแล้ว ในปี 2551 นี้ บริษัทยังคงสานต่อนโยบายจัดทำกิจกรรมคืนกำไรให้สังคมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การสร้างหอสมุดทางการเงิน ในโรงเรียนธุรกันดาร การมอบทุนการศึกษาและเงินสนับสนุน จากการจัดสรรเงินบริจาคซะกาต โดยกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิก ฟันด์ รวมไปถึงกิจกรรมดีๆ เพื่อเยาวชนไทยที่มีความใฝ่ฝันในการก้าวเข้ามาสู่วงการตลาดเงิน ตลาดทุน ภายใต้โครงการ MFC Talent Award ซึ่งจะจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

อย่างไรก็ตามนอกจากความพร้อมในการบริหารจัดการกองทุนสำหรับนักลงทุนโดยทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญแล้ว บลจ.เอ็มเอฟซียังมีทีมงานที่มีความพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการดำเนินโครงการเมกะโปรเจ็กต์และโครงการอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น