xs
xsm
sm
md
lg

รวยอัตโนมัติ (Financial Literacy 4)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย ดร. สมจินต์ ศรไพศาล
บลจ. วรรณ จำกัด

กินเงินเดือนก็รวยได้
สามีภรรยาชาวอเมริกันคู่หนึ่งประสบความสำเร็จทางการเงินอย่างไม่น่าเชื่อ สามีเป็นช่างซ่อมรถ ภรรยาเป็นช่างทำผม เมื่ออายุเพียง 50 ปีเศษ ทั้งคู่สามารถเกษียณตัวเองได้ด้วยสินทรัพย์กว่าหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐ หลายคนสงสัยว่าเขาทำได้อย่างไร... สิ่งที่น่าทึ่งมากคือพวกเขาบอกว่า พวกเขาเพียงตัดสินใจหนึ่งเรื่องได้ถูกต้องเมื่อ 30 ปีที่แล้ว... ครับ เรื่องเดียวเท่านั้น!

30 ปีก่อนเกษียณ ทั้งคู่ได้ขอให้นายจ้างจ่ายเงินให้ตนเพียง 90% ส่วนอีก 10% ที่เหลือขอให้นายจ้างช่วยจัดการลงทุนตามที่พวกเขาขอ นับจากนั้นมาเป็นเวลา 360 เดือนเต็ม ไม่มีเดือนใดที่เขาทั้งสองไม่ได้ลงทุนเลย ความสำเร็จของพวกเขาเกิดจากการยอมรับจุดอ่อนของตัวเอง พวกเขารู้ดีว่าถ้ามีเงินเต็มกระเป๋า ก็มักคันไม้คันมือ อยากใช้จ่ายร่ำไป ยากที่จะเหลือเก็บ จึงได้กันเงินส่วนที่จะลงทุนให้วิ่งไปสู่การออมและลงทุนเลยโดยตรง ไม่ต้องผ่านมือของตัวเอง จึงเป็นการประกันได้ว่าได้ลงทุนแน่ๆ และเนื่องจากเงินออมนั้นได้ลงทุนในวันที่เงินเดือนออกเลย จึงไม่มีเวลาเถลไถลในบัญชีออมทรัพย์เลยแม้แต่วันเดียว สามารถตั้งหน้าตั้งตาตั้งตาสร้างความมั่งคั่งได้ในทันทีในอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม

อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นทุนเฉลี่ยระยะยาวในอดีตที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 10-12% ต่อปี ส่วนพันธบัตรระยะยาวมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5-6% ต่อปี และถ้าสมมุติว่าท่านออมได้เดือนละ 1,000 บาทต่อเนื่องทุกเดือนตลอด 30 ปี แล้วเงินเหล่านั้นได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละสิบเปอร์เซ็นต์ จะได้เงินรวมประมาณ 2 ล้านบาท นั่นก็หมายความว่า หากสองสามีภรรยานี้ออมได้คนละ 5,000 บาทต่อเดือนพวกเขาจะมีเงินรวมถึง 20 ล้านบาทเชียวนะครับ

ทำให้เป็นอัตโนมัติ
ผมชอบตัวอย่างสามีภรรยาคู่นี้ เพราะพวกเขาเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ เหมือนกับพวกเราส่วนใหญ่ เป็นช่างซ่อมธรรมดาไม่ใช่วิศวกรใหญ่ เป็นช่างทำผมตัวเล็กๆ ไม่ใช่ แฮร์ดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง พวกเขาไม่ได้มีความรู้เลอเลิศอะไรไม่ได้เรียน MBA ไม่ต้องจบด็อกเตอร์ พวกเขาไม่ได้มีอะไรวิเศษกว่าคนอื่นเลย... ยกเว้นแต่ว่า พวกเขามีความสม่ำเสมอในการออมและลงทุน โดยปกติคนที่จะทำอะไรได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอต้องเป็นคนที่มีวินัยเป็นอย่างมาก ซึ่งคนทั่วไปไม่มีวินัยอย่างนั้น สามีภรรยาคู่นี้ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พึ่งวินัยตัวเอง แต่พวกเขาได้สร้างระบบการลงทุนอัตโนมัติขึ้นมาแทน

พลังของ Dollar Cost Average
นอกจากการได้ลงทุนแน่ๆ และการได้ลงทุนทันทีแล้ว การลงทุนแบบอัตโนมัติอย่างนี้ยังได้ประโยชน์จากการมีต้นทุนเฉลี่ยที่ต่ำอีกด้วย เนื่องจากธรรมชาติของหลักทรัพย์โดยเฉพาะหุ้นนั้นมีความผันผวนขึ้นลงอยู่เสมอ ดังนั้นหากเราลงทุนด้วยเงินที่เท่าๆกันทุกเดือน เวลาที่หลักทรัพย์มีราคาต่ำเราซื้อได้มากหน่วย (เงิน X บาทหารด้วยราคาต่ำย่อมได้มากหน่วย) เวลาที่หลักทรัพย์มีราคาสูงเราซื้อได้น้อยหน่วย (เงิน X บาทหารด้วยราคาสูงย่อมได้น้อยหน่วย) ทำให้เราได้ของต้นทุนถูกในจำนวนที่มากกว่าของที่ต้นทุนแพง เมื่อทำการเฉลี่ยต้นทุนจึงย่อมได้ราคาเฉลี่ยใกล้ไปทางราคาที่ถูกมากกว่าทางราคาที่แพง ส่งผลให้ผลตอบแทนของการลงทุนก็ย่อมดีกว่าไปด้วยเป็นธรรมดา ผมจะขอยกตัวอย่างตัวเลขให้ดูนะครับ ในปี 2551 กองทุน RMF หุ้นทุนของเราได้ผลตอบแทนประมาณ 37% แต่ผู้ที่ทำการลงทุนแบบอัตโนมัติ ซึ่งที่ บลจ.วรรณ เรียกว่า โครงการรวยอัตโนมัติหรือ Automatic Millionaire Program จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย (annualized) ถึงประมาณ 48%ต่อปี เลยทีเดียวครับ

พลังแห่งความรัก
ในงานสัมมนาต่างๆ หลังจากผมเล่าผลแห่งความสำเร็จของสามีภรรยาคู่นี้แล้ว ผมก็จะให้ผู้ร่วมสัมมนาทายว่า พวกเขาตัดสินใจอะไรถูกเมื่อ 30 ปีที่แล้ว บ่อยครั้งทีเดียวที่จะมีผู้ทายว่า พวกเขาเลือกคู่ชีวิตที่ถูกต้อง ผมคิดว่านี่เป็นประเด็นสำคัญไม่น้อย สามีภรรยาคู่นี้รักกันมากและร่วมกันวาดฝ้นในการสร้างความมั่งคั่งด้วยกันตั้งแต่แรก
การสานฝันร่วมกันจึงเป็นไปอย่างราบรื่น เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมยินดี

ในโอกาสแห่งวันแห่งความรักนี้ผมจึงใคร่ขอเชิญชวนให้ท่านชวนผู้ที่ท่านรักวาดฝันในการสร้างความมั่งคั่ง แล้วถ้าเป็นไปได้ (เป็นไปได้แน่ถ้าท่านมีศรัทธา) จัดการให้การลงทุนของคุณเป็นอัตโนมัติเสีย คุณอาจเรียกโครงการฝันของคุณร่วมกันว่า “รวยล้านอัตโนมัติ” “บ้านอัตโนมัติ” “รถเก๋งอัตโนมัติ” “ทัวร์...อัตโนมัติ” “เกษียณเกษมอัตโนมัติ” “ทุนการศึกษาลูกอัตโนมัติ” หรืออะไรอื่นตามที่ฝันของคุณจะพาไปก็ได้

ผมเชื่อในการลงอย่างต่อเนื่องเป็นอัตโนมัติ และคิดว่าการเลือกลงทุนในกองทุนรวมประเภทดัชนี หรือในอีทีเอฟ อย่าง ThaiDEX SET50 ETF (TDEX) อย่างต่อเนื่อง จะนำมาซึ่งความสำเร็จในการลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะการลงทุนแบบอัตโนมัติช่วยให้เราก้าวข้ามความขาดวินัยของตนเอง และการมีแนวโน้มที่จะกลัวเกินไปในตลาดขาลงและโลภเกินไปในตลาดขาขึ้น ส่วนการใช้ TDEX นั้นก็ก้าวข้ามการกระจุกตัวของความเสี่ยงในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป แต่เป็นการลงทุนในหุ้นที่ใหญ่และคล่องที่สุด 50 ตัวของตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีการคัดสรรใหม่ทุกหกเดือนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บทความนี้ถือเป็นตอนสุดท้ายของชุดความรู้ทางการเงิน ซึ่งผมเชื่อว่ามีความสำคัญมาก โดยสรุปหัวใจสี่ข้อในเรื่องความรู้ทางการเงินที่ผมกล่าวมา คือ 1) เราต้องรู้จักทั้งการทำงานหาเงินและการใช้เงินทำงาน 2) ความมั่งคั่งวัดด้วยรายได้จากทรัพย์สินหารด้วยรายจ่าย เราจึงมั่งคั่งได้ด้วยการรู้จักควบคุมรายจ่ายให้พอเพียงเหมาะสมควบคู่กับการเพียรสร้างสินทรัพย์ 3) เราสามารถสร้างขุมทรัพย์ได้สามแบบ คือ ความรู้ความสามารถ ทรัพย์สินให้เช่าต่างๆรวมทั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และตราสารทางการเงินเช่นหุ้น พันธบัตรและกองทุนรวม และ 4) การทำให้การลงทุนเป็นอัตโนมัติ ทำให้โอกาสของความสำเร็จของเรามีมากขึ้น

อย่างที่ผมได้เรียนชวนไว้ว่าให้พวกเราช่วยกันทำงาน ETF2 (Educating Thais towards Financial Freedom) หากท่านสนใจที่จะเป็นหนึ่งในผู้ที่สามรถช่วยกันถ่ายทอดความรู้อันมีความสำคัญนี้ หรือต้องการเรียนรู้เพื่อการลงทุนส่วนตัว ในเดือนมีนาคมนี้ทาง บลจ. วรรณ จะจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการวางแผนรวยอัตโนมัติขึ้น หากสนใจสามารถโทรแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าได้ที่ 02 659 8888 กด 1 นะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น