นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้บริษัทจะปรับแผนการลงทุน โดยจะเน้นการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศมากขึ้น หลังจากการลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศ ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์(ซับไพร์ม) ในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และมีโนวโน้มที่จะปรับลดลงอีก ทำให้มีผลต่อ Credit Spread ของตราสารต่างๆ ที่อยู่ในต่างประเทศปรับตัวลดลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทจึงเห็นว่าการลงทุนในตราสารหนี้ภายประเทศช่วงนี้จะเป็นการเหมาะสมที่สุด ในการป้องกันความเสี่ยงของของลูกค้าจึงได้พิจารณาเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6เดือน30 ( KTST6M30) อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์ 2551นี้
สำหรับกองทุนนี้จะมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภายในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)
"กองทุน KTST6M30 เหมาะสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร โดยล่าสุด อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน อยู่ที่ 2.00% ต่อปี และยอดเงินฝาก 5 ล้านบาท ขึ้นไป อยู่ที่ 2.25% ต่อปี หักภาษี ณที่จ่ายอีก 15%"
ขณะที่แนวโน้มภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพบว่า เส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ได้ปรับตัวชันมากขึ้น โดยได้รับปัจจัยจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะชะลอตัวและอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ซึ่งอาจจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ปรับลดลงไปอยู่ที่ 2.00-2.50% และส่งผลให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเช่นกัน เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและลดแรงกดดันในเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท นอกจากนี้ มีแนวโน้มที่รัฐบาลจะหารือร่วมกับ ธปท.ในเรื่องการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทจึงเห็นว่าการลงทุนในตราสารหนี้ภายประเทศช่วงนี้จะเป็นการเหมาะสมที่สุด ในการป้องกันความเสี่ยงของของลูกค้าจึงได้พิจารณาเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6เดือน30 ( KTST6M30) อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์ 2551นี้
สำหรับกองทุนนี้จะมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภายในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)
"กองทุน KTST6M30 เหมาะสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร โดยล่าสุด อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน อยู่ที่ 2.00% ต่อปี และยอดเงินฝาก 5 ล้านบาท ขึ้นไป อยู่ที่ 2.25% ต่อปี หักภาษี ณที่จ่ายอีก 15%"
ขณะที่แนวโน้มภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพบว่า เส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) ได้ปรับตัวชันมากขึ้น โดยได้รับปัจจัยจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะชะลอตัวและอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ซึ่งอาจจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ปรับลดลงไปอยู่ที่ 2.00-2.50% และส่งผลให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเช่นกัน เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและลดแรงกดดันในเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท นอกจากนี้ มีแนวโน้มที่รัฐบาลจะหารือร่วมกับ ธปท.ในเรื่องการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น