เอวายเอฟปลื้ม ลูกค้าตอบรับโปรแกรม "AYF Regular Saving Plan 2008" แผนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นรายเดือน เผยเดือนมกราคม ลูกค้าแห่เข้าโปรแกรมเพิ่มเป็น 915 ราย คิดเป็นยอดเงินลงทุนรวม 17 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ชี้ลูกค้าหันมาให้ความสำคัญการออมโดยไม่ต้องรอจังหวะมากขึ้น เตรียมสานต่อกองทุนอื่นๆ
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) เปิดเผยว่า หลังจากเอวายเอฟได้เปิดตัวโปรแกรม AYF Regular Saving Plan 2008 ซึ่งเป็นโปรแกรมต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบจำนวนผู้เข้าร่วมโปรแกรม ณ สิ้นเดือน ม.ค. ปีนี้กับปีที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมโปรแกรมมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบ 400 % ส่วนยอดเงินลงทุนนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 320%
โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโปรแกรม 915 ราย เม็ดเงินรวม 17,005,067 บาท เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2007 ที่มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโปรแกรม 260 ราย และเม็ดเงินรวม 5,248,893 บาท
สำหรับ AYF Monthly Bonus Plan เป็นความมุ่งมั่นที่เอวายเอฟ ต้องการจะเสริมสร้างการลงทุนอย่างมีวินัยให้กับนักลงทุน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในวันหน้า โดยจุดประสงค์ของโครงการคือการเสริมสร้างวินัยในการลงทุน ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากการให้มีการลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน (Dollar Cost Averaging) ซึ่งนอกจากจะเป็นการ สร้างวินัยในการออมแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถเข้าร่วมโปรแกรม AYF Regular Saving Plan ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียง ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน (อย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน) ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ร่วมรายการ นอกจากจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนทางภาษี ยังได้รับโบนัส 2 ต่อ โดยโบนัสต่อที่ 1 รับคูปองเติมน้ำมัน CALTEX มูลค่ารวมสูงสุด 500 บาท โบนัสต่อที่ 2 รับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาลงทุนผ่านโปรแกรมดังกล่าวมากขึ้น เพราะเชื่อว่าลูกค้าเองได้ให้ความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบการออมของตัวเองใหม่มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องจังหวะเวลาที่เหมาะสมด้วยการลงทุนทุกเดือนแทน ซึ่งข้อดีของการลงทุนเช่นนี้ อยู่ที่ต้นทุนที่ต่ำกว่าการลงทุนครั้งเดียว ขณะเดียวกันยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ การลงทุนผ่านโปรแกรมดังกล่าว ช่วยลดภาระการหาเงินก้อนที่จะนำมาลงทุนในช่วงปลายปีซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของลูกค้าด้วย
ทั้งนี้ ในระยะยาวบริษัทมีแผนจะขยายโปรแกรมดังกล่าวไปสู่กองทุนรวมอื่นๆ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทด้วย ซึ่งการที่เราเลือกใช้กับกองทุน LTF และ RMF ก่อน เพราะกองทุนนี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือการไหลออกของเงินลงทุนมากนัก
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนี้เอวายเอฟต้องการให้เป็นทางเลือกในการออมของลูกค้า จึงไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องมีเงินไหลเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่พอสมควร ขณะเดียวกันโปรแกรมนี้สามารถทำได้ตลอด ซึ่งหากลูกค้าเห็นว่าได้ประโยชน์ก็อาจจะมีการลงทุนต่อหรือบอกต่อไปถึงคนอื่นๆ ด้วย
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) เปิดเผยว่า หลังจากเอวายเอฟได้เปิดตัวโปรแกรม AYF Regular Saving Plan 2008 ซึ่งเป็นโปรแกรมต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบจำนวนผู้เข้าร่วมโปรแกรม ณ สิ้นเดือน ม.ค. ปีนี้กับปีที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมโปรแกรมมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบ 400 % ส่วนยอดเงินลงทุนนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 320%
โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโปรแกรม 915 ราย เม็ดเงินรวม 17,005,067 บาท เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2007 ที่มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโปรแกรม 260 ราย และเม็ดเงินรวม 5,248,893 บาท
สำหรับ AYF Monthly Bonus Plan เป็นความมุ่งมั่นที่เอวายเอฟ ต้องการจะเสริมสร้างการลงทุนอย่างมีวินัยให้กับนักลงทุน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในวันหน้า โดยจุดประสงค์ของโครงการคือการเสริมสร้างวินัยในการลงทุน ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากการให้มีการลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน (Dollar Cost Averaging) ซึ่งนอกจากจะเป็นการ สร้างวินัยในการออมแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถเข้าร่วมโปรแกรม AYF Regular Saving Plan ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียง ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน (อย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน) ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ร่วมรายการ นอกจากจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนทางภาษี ยังได้รับโบนัส 2 ต่อ โดยโบนัสต่อที่ 1 รับคูปองเติมน้ำมัน CALTEX มูลค่ารวมสูงสุด 500 บาท โบนัสต่อที่ 2 รับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาลงทุนผ่านโปรแกรมดังกล่าวมากขึ้น เพราะเชื่อว่าลูกค้าเองได้ให้ความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบการออมของตัวเองใหม่มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องจังหวะเวลาที่เหมาะสมด้วยการลงทุนทุกเดือนแทน ซึ่งข้อดีของการลงทุนเช่นนี้ อยู่ที่ต้นทุนที่ต่ำกว่าการลงทุนครั้งเดียว ขณะเดียวกันยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ การลงทุนผ่านโปรแกรมดังกล่าว ช่วยลดภาระการหาเงินก้อนที่จะนำมาลงทุนในช่วงปลายปีซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของลูกค้าด้วย
ทั้งนี้ ในระยะยาวบริษัทมีแผนจะขยายโปรแกรมดังกล่าวไปสู่กองทุนรวมอื่นๆ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทด้วย ซึ่งการที่เราเลือกใช้กับกองทุน LTF และ RMF ก่อน เพราะกองทุนนี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือการไหลออกของเงินลงทุนมากนัก
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนี้เอวายเอฟต้องการให้เป็นทางเลือกในการออมของลูกค้า จึงไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องมีเงินไหลเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่พอสมควร ขณะเดียวกันโปรแกรมนี้สามารถทำได้ตลอด ซึ่งหากลูกค้าเห็นว่าได้ประโยชน์ก็อาจจะมีการลงทุนต่อหรือบอกต่อไปถึงคนอื่นๆ ด้วย
